เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพแตนอาละวาด “วัตฟอร์ด” เปิดสนาม วิคาเรจ โร้ด, เมืองวัตฟอร์ด มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 8 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือป้ายแดงอย่าง เคลาดิโอ รานิเอรี่ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย แดนนี่ โรส แบ็คซ้ายจอมบุก มูสซ่า ซิสโซโก้ กองกลางห้องเครื่องพันธุ์แกร่ง และ อิสไมล่า ซาร์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่องกัปตันทีม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ศูนย์หน้าฟอลส์ไนน์ตัวเชื่อมเกม
นาที 1
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบจะได้ประตูขึ้นนำเร็วทันที จังหวะนี้ เจมส์ มิลเนอร์ วางบอลโด่งไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ซาดิโอ มาเน่ โหม่งเช็ดต่อไปที่หน้าเวาไกลขวามือเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ วิ่งสอดมาหวดด้วยขวาข้างไม่ถนัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 3
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกครั้งติด ๆ กัน จากจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโยกหนีตัวประกบเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะซัดเน้น ๆ พุ่งไปติดบล็อกของ แดนนี่ โรส ลอยไปตกหลังคานนิดเดียวแบบได้เสียว
นาที 8 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ลากบอลสวนกลับเร็วขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะแทงบอลไซด์ก้อย พุ่งกระดอนโค้งอ้อมแนวรับไปไปที่หน้าประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวมาแปจังหวะเดียวด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งกระดอนพื้นสวนตัวของ เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 12
ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล โหมกระหน่ำบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้เกือบได้ลูกสอง เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เก็บตกได้ที่หน้าเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวโยกเข้าเหลี่ยม ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยไปที่เสาไปซ้ายมือติดเซฟของ เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาทะยานปัดทิ้งออกไปได้ทันหวุดหวิด
นาที 19
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ดันสูงขึ้นมาถึงกลางสนาม ก่อนจะแทงทะลุช่องยาวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ วิ่งสอดตัดหลังแนวรับ ได้หลุดเดี่ยวแต่งบอลหนึ่งทีกำลังจะง้างเท้ายิง ทว่าต้องชม เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมขาด วิ่งออกมาสไลด์กวาดบอลทิ้งได้ทันเฉียดฉิว
นาที 26
เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ได้ตอบโต้บ้าง จังหวะนี้สวนกลับเร็วขึ้นมาทาง อิสไมล่า ซาร์ กระชากมาเองแบบเร็วจี๋ ก่อนจะแทงทะลุช่องให้ เอ็มมานูเอล เดนนิส ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายเจ้าตัวง้างเท้ายิงช้าโดน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แหย่ขาสะกิดบอลไปเข้ามือของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย ทว่ามีธงขึ้นว่าล้ำหน้า ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 37 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ ซาดิโอ มาเน่ ลากจี้มาที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวจ่ายบอลหักข้อต่อให้ เจมส์ มิลเนอร์ ได้หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดถวายพานเข้ากลางมาที่หน้าประตูให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้กางมุ้งแปด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 42
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เกือบได้ลูกสาม เป็นจังหวะ นาบี เกอิต้า รับบอลมาที่หน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะตั้งป้อมวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลไปแฉลบบล็อกแนวรับวัตฟอร์ด พุ่งแรงเป็นจรวดแถมติดส่าย เช็ดคานเต็ม ๆ กระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้เหนือว่า เป็นฝ่ายปูพรมขึงเกมรุก บุกเข้าใส่เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วถึงสองลูก สกอร์ตอนนี้เป็น วัตฟอร์ด 0 ลิเวอร์พูล 2 !!!
นาที 49
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่เกือบจะได้บวกสกอร์เพิ่มทันที เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ พลิกบอลลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะโยกเข้าในแล้วปั่นเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยไปที่เสาไกลติดปลายมือของ เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ ทะยานไปปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 52 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ดันสูงลากจี้ขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวแทงบอลตามช่องยัดเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เคร็ก แคธคาร์ต สไลด์สกัดผิดเหลี่ยม ส่งบอลเปลี่ยนทางไปโดน เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดปลายมือกระดอนออกมาไม่ไปไหน ก่อนจะเป็น โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ วิ่งปรี่มาซ้ำโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 54 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แย่งบอลมาได้แล้วไหลเร็วต่อให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้โซโล่เดี่ยว เลี้ยงแหวกคู่แข่งไปสาม หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวล็อคหลอก เคร็ก แคธคาร์ต จนหลังหักมาเข้าซ้าย ก่อนจะบรรจงปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นการยิงประตู 8 นัดติดต่อกันของศูนย์หน้าชาวอียิปต์รายนี้อีกด้วย
นาที 63
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ เจมส์ มิลเนอร์ ไหลบอลเร็วให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลากจี้ขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตัดสินใจตะบันด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบ แดนนี่ โรส เปลี่ยนทางกระดอนเฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ได้เป็นเตะมุม
นาที 67
เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกแล้วสาดยาวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ วิลเลี่ยม ทรูสต์ อีค็อง สอดมาโหม่งตั้งไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือให้ ฮวน เฮอร์นานเดซ ได้พักอกแล้วหวดเร็ว ทว่าเป็น คอตตาส ซิมิคาส กองหลังตัวสำรองที่เพิ่งลงมา วิ่งมาบล็อกเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 69
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาทางกราบขวา โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ กระชากขึ้นมาเอง เจ้าตัวจ่ายเลียดเข้ากลางให้ นาบี เกอิต้า ได้แตะบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าซัดเร็วด้วยขวาเต็มข้อ ส่งบอลหลุดกรอบออกไปไกลแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย
นาที 71
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล น่าจะได้บวกสกอร์เพิ่มแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แย่งบอลมาจาก แดนนี่ โรส หลุดขึ้นมาทางมุมกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะครอสเลียด พุ่งโค้งอ้อมแนวรับไปที่หน้าเสาไกลซ้ายมือถวายพานให้ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวมาแปด้วยซ้ายโล่ง ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลหนีตัว เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กลิ้งเฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 73
เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ มุสซ่า ซิสโซโก้ ลากตะลุยขึ้นมาเองแล้วแทงบอลออกซ้ายให้ ฮวน เฮอร์นานเดซ ได้กระชากจี้เข้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู แต่โค้งช้าไปหน่อย สุดท้ายถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้นทีเดียว
นาที 81
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ เจมส์ มิลเนอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งเข้าไปที่กลางประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ ถอยลงมาพยายามเทคตัวขึ้นโหม่งแบบฝืน ๆ สุดท้ายบอลเบาแถมย้อยตรงตัวของ เบน ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 84
เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด เกือบได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ ชูเอา เปโดร ลากจี้ทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะไหลสั้น ๆ ให้ อิสไมล่า ซาร์ ได้วางเท้าซัดเน้น ๆ ทว่าเป็น ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาบินปัดปลายมือ พุ่งไปชนเสากระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 90+1 GOAL!!!
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 5-0 !!! เป็นจังหวะ เนโก้ วิลเลี่ยมส์ พลิ้วหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาได้สวย ก่อนจะครอสเลียดไปที่หน้าเสาไกลถวายพานให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ วิ่งสอดมาจิ้มด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก กดแฮตทริกให้กับตัวเองได้สำเร็จ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ไปได้ด้วยสกอร์ 5-0 !!! เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านวัตฟอร์ด อยู่อันดับที่ 16 ของตาราง นัดต่อไปจะออกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ในวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ก่อนหน้าหนึ่งวัน