ถึงคิวของหนังเขย่าขวัญที่ใคร ๆ บอกว่าเป็นแนวที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยสักเท่าไหร่ในวงการหนังไทย นี่คือ “คืนหมีฆ่า The World of Killing People” หนังเลือดสาดเรื่องล่าสุดที่กล้าทำออกมาลงโรงฉาย ที่บอกตรง ๆ คอนเซ็ปต์และนักแสดงก็ชวนไปพิสูจน์อยู่ไม่น้อย แต่ดันมาสะดุดตรงชื่อทีมผู้สร้าง ที่เพิ่งเจ็บตัวไปล่าสุดกับหนังสัตว์ประหลาดทุนกว่า 80 ล้านบาท จึงแอบตั้งแง่แต่ก็ไม่อคติที่จะเปิดใจให้กว้าง ๆ แล้วไปเสพกระเซ็นคราบเลือดในหนังเรื่องนี้
คืนหมีฆ่า The World of Killing People เล่าเรื่องราวภายใต้หน้ากากหมี ที่ถูกปิดบังเอาไว้ กำลังจะนำมาซึ่งชะตากรรม ที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ‘ความลับ’ ที่คุณไม่อยากให้ใครรู้ เรื่องราวที่คุณไม่อยากให้ใครเห็น กำลังถูกเฝ้ามอง จากสายตาคู่หนึ่ง ในสถานที่ปิดตายแห่งนี้ เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนรัก ที่ตัดสินใจจะไปใช้เวลาช่วงวันหยุดด้วยกัน ในบ้านหลังหนึ่งกลางป่าใหญ่
แต่เรื่องราวกลับไม่ได้สนุกสนานอย่างที่พวกเขาคิด เพราะพวกเขากับถูกจ้องมองจากอะไรบางอย่างตลอดเวลา และเหมือนยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ สิ่งที่พวกเขาพยายามจะปิดซ่อนไว้ กลับกำลังจะถูกเปิดเผยออกมา การไล่ล่าสุดแสนระทึกในสถานที่ปิดตาย จึงเริ่มก่อตัวขึ้น พวกเขาจะหนีได้ไหม หรือจะลุกขึ้นสู้กันมันได้หรือเปล่า
และหนังเรื่องนี้ก็คือผลงานการกำกับและสร้างโดย “ลี ทองคำ” (เจ้าเก่าเจ้าเดิมจากหนังสัตว์ประหลาดที่เจ็บหนักไปหมาด ๆ อย่าง ‘บีงกาฬ’) กับ “กานต์พงศ์ บรรจงพินิจ” ที่ในคราวนี้ปรับโหมดในหนังแนว Slasher หรือหนังเขย่าขวัญเลือดสาด ที่จะว่าไปเราก็เคยเห็นฝั่งฮอลลิวูดสร้างอะไรทำนองนี้มาหลายทศวรรษแล้ว ทั้งหนังเกรดเอและเกรดบี ในวงการหนังไทยก็เคยมีอยู่บ้าง แต่ก็แค่ประปรายและยังไม่ค่อยมีหนังแนวนี้เป็นที่ตราตรึงใจให้จดจำได้มากสักเท่าไหร่
แน่นอนว่า ลี ทองคำ ที่ยังควบตำแหน่งร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยนั้น เขาได้ทำการละเลงจิตนาการและภาพที่อย่างจะเล่าในหนังเรื่องนี้แบบหมดจด ก็คือเข้าให้อยู่นั่นแหละว่า Scream หวีดสุดขีด ที่เป็นเหมือนพ่อของหนังแนวนี้ ๆ ทุกเรื่องก็คือต้นแบบที่อยากจะนำมาปรุงแต่งเป็นหนังไทยดูบ้าง และมันก็ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็น คืนหมีฆ่า The World of Killing People ที่บอกเลยว่า…เข็ดขยาดจริง ๆ
จะบรรยายไปก็อาจจะใจร้ายสักหน่อย แต่สารภาพตรง ๆ ว่า ณ เวลาชั่วโมงครึ่งของหนัง คืนหมีฆ่า The World of Killing People ช่างเป็นอะไรที่ทรมานในการนั่งดูดีแท้ แม้ว่าโดยส่วนตัวนั้นจะมีภูมิคุ้มกันมาแล้วจากผลงานชิ้นก่อนของผู้สร้างชุดนี้ แต่พอมาถึงหนังเรื่องนี้ทิศทางและองค์ประกอบอะไรต่าง ๆ ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นสักเท่าไหร่นัก เพราะหนังยังค่อนข้างวนอยู่ในอ่างกับปัญหาหลัก ๆ ก็คือหาความเป็นตัวตนของตัวเองไม่เจอ
จุดอ่อนที่โดดเด่นที่สุดของ คืนหมีฆ่า The World of Killing People ไม่ได้เป็นแค่บทหนัง แต่ยังคงเป็นในส่วนการตัดต่อและลำดับที่สร้างความยุ่งเหยิงขนานหนัก และนี่ก็คือปัญหาเดียวกันกับที่เคยเจอมาแล้วในหนัง บึงกาฬ เรื่องที่ผ่านมา การตัดต่อเรื่องนี้ค่อนข้างมีปัญหา หลายจุดไร้การเชื่อมต่อและเชื่อมโยง กลายเป็นหนังทื่อ ๆ ที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าผ่านรอบทดสอบก่อนฉายมาหรือไม่ เพราะบางจุดก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะปล่อยผ่านออกมาได้
เพราะความไม่สมบูรณ์แบบในส่วนการตัดต่อและเล่าเรื่องในหนังเรื่องนี้ ก็ยังส่งผลกระทบต่อน้ำหนักและความน่าเชื่อถือของบทในภาพรวมด้วย กลายเป็นว่าบทหนังของ คืนหมีฆ่า The World of Killing People นั้น แม้จะไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่ก็ไม่สามารถตีความและสื่อความหมายใด ๆ ถึงคนดูได้เลย ตั้งแต่ต้นจนจบ ปมต่าง ๆ ที่หนังโยนทิ้งไว้ในหนังไม่เคยได้รับความกระจ่างอย่างเหมาะสม ปล่อยคนดูเคว้งไปเรื่อย ๆ กับฉากไล่ฆ่าแบบไม่สมเหตุสมผลกันสักนิด อารมณ์สุดท้ายที่คนดูก็คือนั่งเหม่อลอย…เมื่อเครดิตหนังตอนจบขึ้นมา
คือโครงเรื่องของหนัง คืนหมีฆ่า The World of Killing People ก็ไม่ใช่อะไรที่เกินคาดเดาเลย เพราะมันคือสูตรสำเร็จเดิม ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ คือถ้าใครเป็นแฟนหนังประเภทนี้ได้มาดูนั้น เชื่อว่าเพียงแค่ 10 นาทีที่หนังเข้าสู่เนื้อหาของเรื่องนั้น ก็น่าจะคาดเดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นฆาตกรตัวจริง แต่มันคงจะเอ็นจอยกว่านี้ ถ้าองค์ประกอบต่าง ๆ ในหนังไม่ออกมาผิดที่ผิดทางไปหมดเช่นนี้
แต่จุดดีเพียงอย่างเดียวของ คืนหมีฆ่า The World of Killing People กลับกลายเป็นการแสดงของทีมแคสติ้งชุดนี้ พวกเขาเป็นนักแสดงรุ่นใหม่แทบทั้งหมด แต่การแสดงของพวกเขาก็ถือว่าช่วยมาพยุงหนังเรื่องนี้ไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้ได้ในระดับที่พอใจ “ฝน ศนันธฉัตร” เล่นออกมาได้ค่อนดี แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่อะไร “เฟียต ภัชทา” ใช้อินเนอร์ทางการแสดงดีตามมาตรฐานของเขา “แคร์ ปาณิสรา” ก็จัดเต็มแบบทุ่มสุด ๆ ในหนังเรื่องนี้จนทำให้น่าประทับใจอยู่บ้าง
คนที่ยกให้เป็น MVP ของหนังเรื่องนี้ก็คงจะเป็น “กันสมาย ชนกันต์” ที่นึกไม่ออกเลยว่า บทบาทแบบนี้ไม่รู้จะให้ใครเล่นดีนอกจากเขาคนนี้ กลายเป็นตัวละครคนเดียวที่บทส่งเสริมตัวตนของเขามากที่สุด และเขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาในลักษณะทีเล่นทีเล่นแบบมืออาชีพ และไม่ทิ้งสไตล์กับอินเนอร์ความเป็นตัวเองในหนังได้อย่างธรรมชาติดี
ในขณะที่นักแสดงยอดฝีมือคนอื่น ๆ ที่เสริมสมทบเข้ามาแจมในหนังนั้น ไม่ว่าจะเป็น “บี๋ ธีรพงศ์”, “แพนเค้ก เขมนิจ” หรือ “เต๋า เศรษฐพงศ์” ก็คือไม่เข้าใจเหมือนว่าหนังจะใส่พวกเขาเข้ามาทำไม เพราะถ้าหากไม่มีพวกเขา หนังก็น่าจะยังเดินไปต่อได้ เพราะในท้ายที่สุดตัวละครต่าง ๆ เหล่านี้ก็ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ในคนดูคลุมเครือและงงงวยว่า..คืออะไรกันนะ?
โดยสรุปแล้วนั้น คืนหมีฆ่า The World of Killing People ก็ยังเข้าข่ายเป็นหนังไทยที่ค่อนข้างน่าผิดหวังอีกตามเคย เพราะทำให้เวลา 90 กว่านาทีเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างทรมานโดยแท้ ไม่ใช่เพราะฉากเลือดสาดแต่อย่างใด แต่เพราะเป็นความเลอะเทอะของการร้อยเรียงของหนังเรื่องนี้ไม่เข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบเลย กลายเป็นหนังไล่ฆ่าที่แข็งทื่อ ไร้เสน่ห์ เกือบจะไม่มีชีวิตชีวาเลย ซ้ำวงการหนังเกรดบีอาจจะสะบัดเบือนหนีใส่หนังเรื่องนี้ไม่ให้ข้องเกี่ยวด้วยด้วยซ้ำไป
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง คืนหมีฆ่า The World of Killing People
- ประเภท: เขย่าขวัญ / ตลก
- ผู้กำกับ: ลี ทองคำ, กานต์พงศ์ บรรจงพินิจ
- นำแสดงโดย: ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล, ภัชทา จันทร์เงิน, ชนกันต์ อาพรสุทธินันธ์
- ความยาว: 96 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 1 กันยายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: คืนหมีฆ่า The World of Killing People
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰✰ (3/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰✰ (3/10)