เกมการแข่งขันระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เปิดสนาม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 นัดแรก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีม เดเล่ อัลลี่ เพลย์เมกเกอร์จอมลีลา ลูคัส มูร่า ปีกตัวจี๊ด และ ซน ฮึง มิน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อิลคาย กุนโดกัน กองกลางห้องเครื่อง แจ็ค กรีลิช เพลย์เมกเกอร์ป้ายแดง และ ริยาด มาห์เรซ กองหน้ากึ่งปีกตัวความหวังของทีม
นาที 3
เริ่มเกมมา ทั้งสองทีมเปิดฉากแลกกันทันที แล้วเป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ทักทายก่อน และหวิดที่จะได้ลูกจุดโทษ เป็นจังหวะ แจ็ค กรีลิช ติดเครื่องกระชากพาบอล กำลังจะทะลุเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แต่โดน โอลิเวอร์ สคิปป์ ชนจากด้านหลัง ล้มลงไปบนเส้นกรอบเขตโทษพอดี แต่ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ใจแข็งสุด ๆ เป่าให้เป็นแค่ฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่ อิลคาย กุนโดกัน จะปั่นด้วยขวาเน้น ๆ แฉลบกำแพง หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 4
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกกดดันแนวรับเจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง และเกือบจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางซ้าย ก่อนจะเปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ออกมาตัดบอลพลาดจั่วลมเต็ม ๆ บอลมาตกเข้าหัวของ แฟร์นานดินโญ่ ได้โหม่งสะบัดเน้น ๆ แต่บอลก็พุ่งเฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ตรงกรอบ อีกจังหวะคันเซโล่ สอดขึ้นมาวอลเล่ย์ในกรอบ บอลก็พุ่งหลุดเสาออกหลังไปนิดเดียว
นาที 5
ทีมเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลทางขวาแล้วโยกตัดเข้าใน กระชากมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบตามสูตร บอลพุ่งไปติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น กระดอนออกมาที่บริเวณจุดโทษ แล้วเป็น ชูเอา คันเซโล่ วิ่งโฉบมาถึงบอลได้ก่อนใคร ก่อนที่เจ้าตัวจะฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวา พุ่งกระดอนพื้น เฉียดเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
นาที 20
ช่วงต้นเกม เป็นทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่า คอยขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อย่างต่อเนื่อง แต่แนวรับสเปอร์ส ก็ยังช่วยกันได้ดี เน้นประกบติดและเข้าบอลอย่างหนักหน่วง จนถึงตอนนี้ถือว่ายันไว้ได้สำเร็จตามแผน
นาที 21
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ สตีเฟ่น เบิร์กไวจน์ เลี้ยงตัดจากกราบซ้าย กระชากมากดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลแฉลบออกหลังได้เป็นเตะมุมทางฝั่งซ้าย แล้วเป็น ซน ฮึง มิน เปิดโค้งมาที่กลางประตูเข้าหัว ดาวินซอน ซานเชซ โหม่งเช็ดโดนบาง ๆ หลุดกรอบออกไปไกล
นาที 24
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ บุกขึ้นมาเกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกัน จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกบริเวณกึ่งกลางสนามเยื้อง ๆ ไปทางขวา ซน ฮึง มิน บรรจงเปิดบอลโค้งไปที่หน้าประตู แล้วเป็น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาชกบอลปลิ้นลอยมาเข้าทาง ลูคัส มูร่า ในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัววอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ บอลทำท่าจะเบียดเสาขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น อิลคาย กุนโดกัน ตามมาใช้ลำตัวบล็อกบอลได้ทันเวลาเฉียดฉิว
นาที 27
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เริ่มตั้งเกมได้มากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเปเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลูคัส มูร่า ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วไหลเข้ากลางมาที่หน้าเสาแรกให้ ซน ฮึง มิน ได้พลิกตัวตัดเข้าในไปซัดด้วยซ้ายหักข้อเน้น ๆ ไปแฉลบบล็อกแนวรับทีมเยือน บอลลอยออกหลัง ได้เป็นเตะมุม
นาที 35
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ติดเครื่องเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย สับขาหลอกโยกไปสุดเส้นหลัง ก่อนจะเปิดบอลไปแฉลบบล็อกของ จาเฟ็ต ทังกานก้า บอลลอยมาที่บริเวณจุดโทษเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ได้เอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบโล่ง ๆ คนเดียว แต่เจ้าตัวเหมือนหลักไม่ดี ทำให้บอลปลิ้นหลังเท้า พุ่งหลุดกรอบไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 40
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สวนกลับเร็วขึ้นมาได้เสียวเหมือนกัน เป็นจังหวะ โต้กลับเร็ว บอลมาถึง ซน ฮึง มิน ที่บริเวณหัวกระโหลก เจ้าตัวแต่งหาช่อง ก่อนจะปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงไปแฉลบหลังของ ชูเอา คันเซโล่ ลอยโด่งโค้งหนีมือ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดโคนเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่า และได้บุกใส่อย่างหนักในช่วงต้นเกม ก่อนจะเป็นเจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่เริ่มกลับเข้าสู่เกมได้ กลายเป็นฝ่ายได้บุกมากกว่าในช่วงท้ายแทน สกอร์ตอนนี้ยังคงทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 47
เปิดฉากเกมครึ่งหลังมา เป็นฝั่งเจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ได้ลุ้นนก่อนเลย เป็นจังหวะ เดเล่ อัลลี่ แย่งบอลมาจาก แฟร์นานดินโญ่ แล้วกระชากสวนกลับเร็วขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ที่วิ่งสอดเติมขึ้นมา ได้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ กึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่เสาไกลซ้ายมือ บอลกำลังจะถึง ซน ฮึง มิน ได้ชาร์จจ่อ ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น รูเบน ดิอาส ตามลงมาสกัดบอลทิ้งได้ทันเฉียดฉิว
นาที 48
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยังได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลูคัส มูร่า ขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้น แต่ก็ยังหลุดกรอบออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 51
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ขอลองส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษบ้างเหมือนกัน แต่บอลก็ยังพุ่งหลุดกรอบออกไปไกล ไม่ได้ลุ้นเช่นกัน
นาที 55 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น พาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ไหลไปที่มุมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ ซน ฮึง มิน เจ้าตัวเลี้ยงจี้เข้าหา นาธาน อาเก้ สับขาหลอกแล้วโยกตัดเข้าในมาที่หน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงกระดอนพื้น เสียบโคนเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่มองตาม
นาที 60
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว ลูคัส มูร่า แทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเลือกมุม บรรจงแปด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดกรอบออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 70
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แล้วเล่นลูกสูตร จ่ายเร็วมาที่ ชูเอา คันเซโล่ ได้หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงปาดเลียดไปที่หน้าปากประตูให้ เฟร์ราน ตอร์เรส เจ้าตัวตัดสินใจไม่ดี ไม่ยอมยิง เลือกจะจับบอลด้วยซ้าย แต่จับไม่ดีเอง สุดท้ายบอลปลิ้นลอยหลุดออกหลังไปเองอย่างน่าผิดหวัง
นาที 71
เหลือเวลา 20 นาทีสุดท้าย เกมของเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเหมือนจะทำอะไรแนวรับไก่เดือยทองไม่ได้เลย จังหวะนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือมาดเท่ ต้องปรับหมากด้วยการส่ง กาเบรียล เชซุส กองหน้าอาชีพชาวบราซิลเลี่ยน ลงสนามมาเล่นแทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่วันนี้โชว์ฟอร์มได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเอาซะเลย
นาที 73
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย จังหวะนี้ อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลทะลุข่องตัดหลังแนวรับให้ แจ็ค กรีลิช ได้วิ่งสอดไปเอาบอล หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะก้มหน้ากดด้วยซ้ายเต็มข้อ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่เป็น ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาปิดมุมอยู่แล้ว เซฟเอาไว้ได้สบาย
นาที 78
เจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ตอบโต้ขึ้นมาได้เสียวอีกแล้ว เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก จ่ายบอลยาวจากกลางสนามมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ซน ฮึง มิน เจ้าตัวเอาบอลลงได้สวย ก่อนจะพลิกมาปั่นเร็วด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาที 79
เกมของทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ดีขึ้นเลย ไร้จินตนาการสุด ๆ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เริ่มนั่งไม่ติด ต้องแก้เกมแบบจำใจ โดยการส่ง เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ที่ร่างกายยังไม่ค่อยสมบูรณ์ ลงสนามมาปั้นเกมแทนที่ของ อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็คซ้ายที่ถูกถอดออกไป
นาที 81
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ เล่นลูกสูตร บรรจงหยอดบอลโด่งมาที่หัวกระโหลกให้ ชูเอา คันเซโล่ ได้วิ่งสอดมาเทคตัวโหม่งเน้น ๆ แต่กดไม่ลง บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 84
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอย ได้บอลหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะบรรจงก้มหน้า วางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาไกลขวามืออยู่เหมือนกัน แต่ทว่า ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งปัดปลายมือ หลุดออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งอันดับที่ 10 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตัน ในวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านแมนซิตี้ อยู่ที่ 13 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับนอริช ในวันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม ที่จะถึงนี้เช่นกัน