เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพผึ้งน้อย เบรนท์ฟอร์ด เปิดสนาม เบรนท์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดี้ยม, เมืองเบรนท์ฟอร์ด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่หก เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส แฟร้งค์ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย คริสเตียน นอร์การ์ด กองกลางห้องเครื่อง เซร์กี้ กายอซ ปีกตัวจี๊ด และ อีแวน โทนี่ย์ กองหน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่องกัปตันทีม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าตัวโป้งปิดบัญชี
นาที 7
เปิดฉากเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน แล้วเกือบจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะ ตัดบอลได้ตรงกลางสนามแล้วโต้กลับเร็ว เคอร์ติส โจนส์ แทงทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ทำลายกับดักล้ำหน้า หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเน้น ๆ ผ่านตัว ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บอลค่อย ๆ กลิ้งกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์ วิ่งตามลงมา ล้มตัวสกัดก่อนบอลข้ามเส้น เอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 8
เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นประตูบ้าง จังหวะนี้ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่งมาที่หน้าเสาแรกให้ อีแวน โทนี่ย์ ได้โฉบมาโหม่งเช็ดเน้น ๆ แต่โดนบางไปหน่อย บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู ลอยหลุดเสาไกลออกไป
นาที 9
เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด มีโอกาสได้ลุ้นติด ๆ กัน เป็นจังหวะ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ เจ้าเก่า พาบอลตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดนสกัด บอลกระฉอกมาเข้าทาง แฟร้งค์ ออนเยก้า ได้วิ่งสอดมาตวัดยิงเร็วโล่ง ๆ ที่กลางประตู ทว่าเจ้าตัวกดไม่ลง ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคานออกไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 11
เกมเปิดแลกกันอย่างสนุก จังหวะนี้ เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น สาดบอลยาวขึ้นหน้าไปให้ อีแวน โทนี่ย์ ได้โหม่งชงย้อนกลับหลังตั้งมาหน้าเสาขวามือให้ ไบรอัน เอ็มเบวโม่ ที่วิ่งตามขึ้นมา ได้ชิพนิ่ม ๆ ด้วยขวาข้ามตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น โฌเอล มาติ๊ป ที่เป็นตัวสุดท้าย ตามลงมาช่วยสกัดจากเส้นเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 27 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ ได้ลูกฟรีคิกตรงกลางสนาม เล่นสั้นส่งให้ คริสเตียน นอร์การ์ด บรรจงตักบอลโด่งข้ามแนวรับให้ เซร์กี้ กายอซ ได้หลุดไปถึงเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดมาที่เสาแรกให้ อีแวน โทนี่ย์ ไขว้บอลเปลี่ยนทางไปที่เสาไกลเข้าทาง เอธาน พินน็อค แนวรับที่เติมสูงขึ้นมา ได้ล้มตัวยิงจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 31 GOAL!!!
ทีมเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูตีเสมอทันควันเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ครองบอลดึงจังหวะไหลออกไปทางริมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้บรรจงเปิดบอลโค้ง ลอยโด่งลึกไปที่หน้าเสาไกลอย่างแม่นให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม บอลเข้าไปอย่างสวยงาม
นาที 39
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เคอร์ติส โจนส์ ตั้งป้อมตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปแฉลบ เอธาน พินน็อค ไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งออกมาเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า ได้ตามมาซ้ำดาบสองเหน่ง ๆ ทว่าเป็น ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดปลายมือ ปลิ้นออกหลังไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 43
เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อ เอธาน พินน็อค คนยิงประตูขึ้นนำ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว โธมัส แฟร้งค์ กุนซือเบรนท์ฟอร์ด ต้องเปลี่ยนเอาเจ้าตัวออกไปพัก แล้วจัดการส่ง มัทธีอัส ซานก้า ยอร์เกนเซ่น ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 45
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ได้ฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 20 หลา หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ คนรับหน้าที่ขาประจำ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลเหินข้ามคานออกไป แบบเสียของ
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้อย่างไม่มีใครกลัวใคร เป็นทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ส่วนทางเจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ก็เน้นจังหวะฉาบฉวย บุกขึ้นมาได้ลุ้นเป็นครั้งคราวบ้างเหมือนกัน สกอร์ตอนนี้ เบรนท์ฟอร์ด 1 ลิเวอร์พูล 1 !!!
นาที 49
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ได้ลุ้นก่อนเลย เป็นจังหวะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ดันสูงขึ้นมา ตั้งป้อมบรรจงครอสมาที่เสาแรกให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้โฉบมาโหม่งแต่ไม่โดน บอลเลยไปถึง ดีโอโก้ โชต้า จับบอลโล่ง ๆ แต่ดันทำลั่น เจ้าตัวพยายามจะตามมาซ้ำ แต่สุดท้ายเป็น ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดทิ้งออกหลังไปก่อนเฉียดฉิว
นาที 54 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ ฟาบินโญ่ บรรจงตักบอลโด่งข้ามแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้วิ่งสอดมาแปเน้น ๆ สวนตัว ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลเข้าประตูไป ทว่าไลน์แมนยกธงว่าเจ้าตัวล้ำหน้า ผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์ ได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะเดินออกไปดู สุดท้ายกลับลงมาเป่าให้เป็นประตูของทีมเยือน ส่งผลให้ประตูนี้ เป็นประตูที่ 100 ของดาวยิงทีมชาติอียิปต์ ที่ยิงให้สโมสรลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก จากการลงสนาม 151 นัด ซึ่งเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย
นาที 63 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ไล่ตามตีเสมอเป็น 2-2 !!! เป็นจังหวะ เซร์กี้ กายอซ หลุดขึ้นมาครอสบอลจากทางฝั่งขวา เปิดบอลลอยโด่งไปที่เสาไกล บอลเบียดแย่งโหม่งกันมาตกที่ ปอนตุส แยนส์สัน ได้มีโอกาสกลับตัวยิงด้วยขวาเต็ม ๆ ไปชนคานอย่างจัง กระเด้งมาเข้าทาง วิตาลี่ ยาเนลต์ โขกจังหวะแรกไปติดบล็อก ก่อนที่บอลจะลอยมาเข้าทางเจ้าตัวได้โหม่งอีกที คราวนี้ข้ามเส้นเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 67 GOAL!!!
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำอีกครั้งเป็น 3-2 !!! เป็นจังหวะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เคอร์ติส โจนส์ ได้มองซ้ายมองขวาไม่มีใครเข้าบอล ก่อนจะขอลองตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปแฉลบ คริสตอฟเฟอร์ เอเยอร์ แนวรับเจ้าถิ่น เปลี่ยนทางเบียดเสาแรกซ้ายมือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 77
ทีมเยือน ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ดีโอโก้ โชต้า จ่ายบอลขึ้นหน้าเร็วมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้จับหนึ่งที ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับนายทวารในเขตโทษ ทว่าเจ้าตัวดันยกบอลข้ามตัวของ ดาบิด ราย่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น น้ำหนักมากเกินไป เหินข้ามคานออกไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 82 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด สวมหัวใจสิงห์ ฮึดไล่ตามตีเสมอได้อีกครั้งเป็น 3-3 !!! เป็นจังหวะ เชนดอน ปาปติสเต้ ได้ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งจากทางกราบขวามาที่หน้าเสาไกลให้ โยอันเน่ วิสซ่า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้จับบอลลั่นไปติดตัวของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ทว่ากลายเป็นดี บอลหยุดอยู่กับที่เหมือนตั้งให้เจ้าตัว ได้วิ่งมายกบอลจ่อ ๆ ข้ามตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 87
ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย วิตาลี่ ยาเนลต์ เปิดโด่งเข้าไปในเขตโทษแล้วโดน เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค โหม่งเคลียร์สกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง มัทธีอัส ซานก้า ยอร์เกนเซ่น ได้โหม่งหนุนสวนกลับเข้าไปที่หน้าประตูเข้าทาง อีแวน โทนี่ย์ ได้บอลหลุดเดี่ยวโล่ง ๆ ก่อนจะซัดเข้าประตูไป ทว่าไลน์แมนยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า เฮเก้อกันไปสำหรับทัพผึ้งน้อย
หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมานำถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายยันไม่อยู่ โดนเจ้าถิ่น เบรนท์ฟอร์ด ฮึดตามตีเสมอไปได้อย่างสุดมันส์ 3-3 !!! แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน โดยทางด้านลิเวอร์พูล ยังคงรั้งจ่าฝูงของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเบรนท์ฟอร์ด อยู่อันดับที่ 9 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา