เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ เปิดสนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค, เซาธ์นอร์วูด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพจิ้งจอกสีน้ำเงิน เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ลูก้า มิลิโวเยวิช มิดฟิลด์ห้องเครื่อง วิลฟรีด ซาฮา ตัวทำเกมริมเส้นจอมพลิ้ว และ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ยูริ ตีเลอมันส์ มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ปีกตัวจี๊ดจอมลากเลื้อย และ เจมี่ วาร์ดี้ ดาวซัลโวตัวความหวังของทีม
นาที 2
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีโอกาสได้ลุ้นก่อน เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ยูริ ตีเลอมันส์ รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลปั่นโค้งเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น เจมี่ วาร์ดี้ โฉบมาโหม่งเหน่ง ๆ คนเดียว แต่เจ้าตัวโขกโดนบางไปหน่อย บอลหลุดเสาไกลซ้ายมือ ลอยออกหลังไปพอสมควร
นาที 4
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ได้ทักทายบ้าง จังหวะนี้ จอร์แดน อายิว ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษ เจ้าตัวแต่งบอลหาช่อง ก่อนจะสบโอกาสได้ยิงซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่โดน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดทิ้งออกมาได้ทัน
นาที 13
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ มีโอกาสบุกขึ้นมาได้ลุ้นสองหนติด ๆ กัน เป็นจังหวะ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ วิลฟรีด ซาฮา ได้ซัดเร็วไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ เซฟออกมาเข้าทาง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ได้ลากหนีแนวรับไปซ้ำดาบสองที่มุมแคบในเขตโทษฝั่งขวา สุดท้ายก็ยังโดนนายทวารทีมชาติเดนมาร์ก ปัดเอาไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง
นาที 15
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ วางยาวบอมบ์โด่งเข้าไปในเขตโทษ บอลโดนเคลียร์ทิ้งออกมาเข้าทาง ยูริ ตีเลมันส์ เก็บแถวสองได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะลองส่องไกลนอกกรอบ ระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าไม่หนีมือเท่าไหร่ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 28
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ รูปเกมเริ่มดีกว่าทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัด จังหวะนี้ วิลฟรีด ซาฮา พาบอลขึ้นมาเองทางซ้าย ไหลมาต่อมาที่หน้าเขตโทษให้ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ พยายามจะหาช่องยิงแต่โดนขวาง สุดท้ายเจ้าตัวเลือกไหลต่อไปทางริมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ จอร์แดน อายิว ปาดเร็วหักเข้ากลาง แต่ทว่าเพื่อนร่วมทีมชาร์จไม่ทัน บอลหลุดอีกฝั่งไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 31 GOAL!!!
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่น เริ่มที่ ไทริค มิทเชลล์ คืนบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษให้ โยอาคิม อันเดอร์เซ่น เจ้าตัวเล่นยาก พยายามจะล็อคบอลหลบ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ แต่ดันโดน ศูนย์หน้าทีมชาติไนจีเรียรายนี้ปั๊มฉกบอลไปได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะลากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปที่กลางประตู ได้ล่อเป้าบรรจงแปด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 37 GOAL!!!
ทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็วเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ยูริ ตีเลอมันส์ กระดกบอลให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้ติดเครื่อง กระชากบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลบอลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้วิ่งสอดมาแต่งหนึ่งที ตามมาด้วยแปหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ สวนตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 41
ช่วงท้ายครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่ได้ลุ้นเล็ก ๆ ส่งท้าย เป็นจังหวะที่ วิลฟรีด ซาฮา รับบอลสวนกลับขึ้นมา ได้ลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งมาเข้าทาง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ได้ซ้ำเน้น ๆ ย้ำเข้าไปอีกที ทว่าคราวนี้ บอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้นเลย
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก ทว่าเป็นทางฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สวนกลับได้น่ากลัว แถมเฉียบคมกว่าเยอะ ยิงประตูออกนำเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ไปก่อนแล้วถึงสองตุง สกอร์ตอนนี้ พาเลซ 0 เลสเตอร์ 1 !!!
นาที 49
เริ่มครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ลุ้นทันที เป็นจังหวะ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ จ่ายบอลออกมาทางด้านซ้ายให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เจ้าตัวติดเครื่องลากจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกหนีตัวประกบไปซัดเร็วด้วยซ้ายมุมแคบ ส่งบอลพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดเสาแรกออกหลังไปนิดเดียว
นาที 52
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ เกือบได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ ลูก้า มิลิโวเยวิช เบิ้ลบอลตามช่องตรงกลางให้ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ได้พลิกหลบตัวประกบเข้าเขตโทษ เจ้าตัวล็อคหลบ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด จนหลังหักไปอีกคน ก่อนจะหวดเน้น ๆ ผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งไปชนคานอย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาที 61 GOAL!!!
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ ไทริค มิทเชลล์ ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหนีตัวประกบไปได้สวย ก่อนจะเปิดบอลพุ่งเข้าไปที่กลางประตูให้ มิเชล โอลิเซ่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา วิ่งโฉบมายิงจังหวะแรกติดบล็อก บอลไม่ไปไหนกระเด้งมาเข้าทางเจ้าตัว ได้หวดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งหนีมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 72 GOAL!!!
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ มาตามตีเสมอได้สำเร็จจนได้เป็น 2-2 !!! เป็นจังหวะ มิเชล โอลิเซ่ ได้บอลทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโยกเปิดด้วยซ้ายเข้ากลางโดน ยานนิค เวสเตอร์การ์ด โหม่งสกัดไม่ดีบอลชุลมุนลอยไปที่เสาไกลเข้าทาง อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ โหม่งเน้น ๆ ไปติดบล็อกแนวรับทีมเยือน สกัดบอลลอยมามาที่บริเวณจุดโทษเข้าทาง เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแค่นาทีเดียว สัมผัสแรกได้โหม่งซ้ำเหน่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 88
เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ เกือบได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา มิเชล โอลิเซ่ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ คนเดียว ส่งบอลพุ่งถากเสาไกลซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอทีมเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ด้วยสกอร์ 2-2 !!! ส่งผลให้ดิ อีเกิ้ลส์ รั้งอันดับที่ 14 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนอาร์เซน่อล ในคืนวันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านจิ้งจอกสยาม รั้งอันดับที่ 13 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม ก่อนหน้าสองวัน