ซาลาห์ยิงหนึ่งจ่ายหนึ่ง!!! ช่วยทัพหงส์แดง ขึ้นนำถึงสองหน สุดท้ายโดน “แมนฯซิตี้” ไล่ตามเจ๊า 2-2

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังตัวแกร่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่องกัปตันทีม และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย รูเบน ดิอาส ปราการหลังตัวแกร่ง เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ และ กาเบรียล เชซุส กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 10

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่า มีจังหวะครองบอลบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ทว่าแนวรับของทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่พลาด คอยตั้งรับช่วยกันเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ไม่เปิดโอกาสให้หลุดเข้าไปจบสกอร์เน้น ๆ ในพื้นที่สุดท้ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

นาที 17

ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เครื่องเริ่มร้อน จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น พาบอลขึ้นมาทางซ้ายได้สวย เจ้าต้วจ่ายสั้น ๆ คืนกลับหลังมาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้โยกหาช่องแล้วครอสไปที่เสาไกลเกือบจะถึง กาเบรียล เชซุส ที่กำลังจะได้โขกโล่ง ๆ อยู่แล้ว แต่ต้องชม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หุบมาโหม่งสกัดทิ้งออกหลังไปได้ทันเฉียดฉิว

นาที 21

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะความสามารถเฉพาะตัวของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงม้วนหนีแหวก 3 นักเตะเจ้าถิ่นขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ได้สอดไปซัดเร็วด้วยซ้ายติดเซฟของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวขวางเอาไว้ได้ทันหน้าเสาแรก

นาที 24

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ชูเอา กันเซโล่ เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลทางริมเส้นด้านซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะหลอก ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้วิ่งสอดมาตวัดยิงตามน้ำด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลผ่านหน้าปากประตู ติดไซค์โป้งหลุดเสาไกล ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 31

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะได้ลูกจุดโทษ เป็นจังหวะ ฟิล โฟเด้น ลากพาบอลทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน เจมส์ มิลเนอร์ แซะเสียหลักล้มลงไป เจ้าตัวลุกขึ้นมาโวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษ แต่ทว่า พอล เทียร์นี่ย์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ใจยังแข็ง ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมให้เล่นต่อไป

นาที 32

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ แนวรับเจ้าถิ่นเช็คล้ำหน้าพลาดปล่อยให้ แจ็ค กรีลิช ได้วิ่งสอดไปเอาบอล ก่อนจะลากเข้าไปล่อเป้าในเขตโทษฝั่งซ้าย ทว่ามุมยิงเหลือน้อย เจ้าตัวซัดด้วยขวาไปติด อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่คุมเสาอยู่แล้ว เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 34

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้เป็น ฟิล โฟเด้น ถ่างออกมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดปั่นโค้งเข้าเขตโทษ ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้วิ่งสอดมา กระโดดลอยตัวมาพุ่งโหม่งเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ แต่ดันทำได้ไม่ดี บอลเหินข้ามคาน ลอยออกหลังไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 44

ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสได้ลุ้นส่งท้าย เป็นจังหวะ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน สาดโด่งทิ้งมาทางซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น ได้ชิงเหลี่ยมเอาชนะ เจมส์ มิลเนอร์ หลุดกับดักล้ำหน้า พาบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่อ่านเกมได้ดี วิ่งออกมาใช้ขาสกัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด ไม่งั้นซวยแน่ ๆ

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ ทัพเรือใบเป็นฝ่ายขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้อย่างต่อเนื่อง จากเพียงแต่จังหวะจบในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ดีเอง สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 47

เปิดฉากครึ่งหลัง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เดินหน้าลุยทันที จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถ่างมาเอาบอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะแทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ เจมส์ มิลเนอร์ ที่เติมเกมสูงวิ่งสอดขึ้นมา ได้หลุดเข้าไปเอาบอลในเขตโทษ ก่อนจะตวัดเร็วเข้ากลางให้ ดีโอโก้ โชต้า กำลังจะได้เข้าฮ็อตอยู่แล้ว แต่เป็น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน อ่านเกมขาด ออกมาตัดบอลกลางทาง ตะปบเอาไว้ได้ทัน ไม่พลาด

นาที 50

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ซัดเน้น ๆ เข้ากรอบเป็นครั้งแรก จากจังหวะ โฌเอล มาติ๊ป ดันสูงขึ้นมาแทงบอลยาวขึ้นหน้ามาที่หัวกระโหลกให้ ดีโอโก้ โชต้า โชว์ลีลาเกี่ยวบอลไขว้หนี รูเบน ดิอาส หมุนตัวมาตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ บนเส้น 18 หลา ได้อย่างสวย ทว่าบอลดันไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทุบทิ้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 59 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะจากความขยันของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ลงไปเชื่อมเกม เจ้าตัวเอาตัวรอดยกบอลหนี ชูเอา กันเซโล่ จากกลางสนามหลุดขึ้นมาทางกราบขวาได้สวย ก่อนจะลากตัดเข้าในนิดนึงแล้วแทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้วิ่งโฉบหลุดเข้าไปแปเน้น ๆ ที่หน้าเสาแรกขวามือ ส่งบอลพุ่งสวนตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระดอนเสียบเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 63

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 22 หลา หน้ากรอบเขตโทษเยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับอาสา วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งไปแฉลบกำแพง บอลลอยหลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน

นาที 67

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลเปลี่ยนแกน วางยาวจากทางฝั่งขวา ข้ามฟากไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ กาเบรียล เชซุส ได้เอาบอลลง ก่อนจะลากจี้ไปล็อคยิงเน้น ๆ ติดบล็อกของ เจมส์ มิลเนอร์ บอลกระฉอกไปเข้ามือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ตามมาคว้าไว้ได้สบาย

นาที 69 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ กาเบรียล เชซุส เก็บบอลทางกราบขวา เจ้าตัวลากหนีแนวรับเจ้าถิ่นมาทั้งแผง เลี้ยงตัดเข้าในมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะไหลบอลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฟิล โฟเด้น วิ่งสอดมาแต่งหนึ่งที ตามด้วยซัดเลียดด้วยซ้ายหักข้อเน้น ๆ พุ่งผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระดอนเข้าหน้าต่างเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม 

นาที 76 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูแซงขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะความสามารถเฉพาะตัวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับบอลมาจาก เคอร์ติส โจนส์ บริเวณมุมกรอบเขตฝั่งขวา เจ้าตัวพลิกได้แล้วโชว์ความเหนือชั้น คลึงบอลหลบแนวรับแมนซิตี้ กระชากหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนจะล็อคบอลหลอก อายเมอริก ลาป๊อร์ก อีกทีมาเข้าขวาที่หน้าเสาแรก สุดท้ายก้มหน้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งสวนตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงามสุด ๆ

นาที 81 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูตามตีเสมออีกครั้งได้ทันควันเป็น 2-2 !!! จากจังหวะ ฟิล โฟเด้น ลากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวปาดเลียดไปที่กลางประตูให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ แต่โดน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตามมาสกัดบอล กระฉอกออกมาที่หัวกระโหลกเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ ได้วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลพุ่งแฉลบตัว โฌเอล มาติ๊ป เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 87

ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นมาให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บรรจงเปิดบอลโค้งไปที่กลางประตู แล้วเป็น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาตัดบอลวืดเลยไปที่หน้าเสาไกลเข้าทาง ฟาบินโญ่ ได้โอกาสจับบอลลงแล้วบรรจงแปโล่ง ๆ ทว่าเจ้าตัวง้างเท้าช้าไปหน่อย โรดรี้ พุ่งทิ้งตัวมาสไลด์ บล็อกลูกยิงบริเวณปากประตู ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสอมกับทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้แบบสุดมันส์ 2-2 !!! แชร์กันไปคนละหนึ่งคะแนน โดยหงส์แดง รั้งอันดับรองจ่าฝูงของตารางคะแนน ซึ่งนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนวัตฟอร์ด ในคืนวันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเรือใบสีฟ้า รั้งอันดับที่ 3 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเบิร์นลี่ย์ ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา