เพียร์ส มอร์แกน ปล่อยบทสัมภาษณ์ภาคจบของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ วิจารณ์ตระกูลเกลเซอร์ และ เอริค เทน ฮาก พร้อมเผยเบื้องหลังการเดินออกจากสนามก่อนทีมแข่งจบทั้ง 2 นัด แต่ยังกล่าวชื่นชม ลีโอเนล เมสซี่ และ อาร์เซน่อล
หลังจากเกริ่นก่อนเข้ารายการเล็กน้อย มอร์แกน ตัดกลับเข้าบทสัมภาษณ์ต่อ ยิงคำถามแรกว่า โรนัลโด้ มีอะไรมากกว่ากันระหว่างเงินในธนาคาร กับยอดผู้ติดตามอินสตาแกรม
“มันเป็นคำถามที่ดี… (หัวเราะ)…อาจจะพอๆ กัน ผมก็ไม่รู้สินะ” จากนั้น มอร์แกน สุมไฟว่านี่อาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ เวย์น รูนี่ย์ เกิดความ อิจฉา ซึ่ง โรนัลโด้ ก็เห็นด้วยและบอกว่าไม่ใช่แค่อดีตเพื่อนร่วมทีมรายนี้เท่านั้น
“แต่การได้ติดอันดับเป็นเรื่องที่ดี เป็นสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขด้วย, ทุกปีผมอยู่อันดับต้นๆ ในรายชื่อของ ฟอร์บส์ และนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญเช่นกัน”
เพียร์ส ถามต่อว่า โรนัลโด้ ถูกขับเคลื่อนด้วยเงิน หรือปัจจัยอื่นๆ มากกว่า
“สถิติ และ อดรีนาลีน สิ่งเหล่านี้ใช่เลย แต่พูดตามตรงนะ เพียร์ส ช่วงปีที่ผ่านมา ฟุตบอล เปลี่ยนแปลงไปมาก”
“ตอนนี้ผมเห็นฟุตบอล เป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง บางที จอร์จิน่า (แฟนสาว โรนัลโด้) บอกผมว่า เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาปฏิบัติกับนักฟุตบอลเหมือนเป็นชิ้นเนื้อก้อนหนึ่ง”
“ผมตอบไปว่า ‘เธอพูดถูกทั้งหมด’, พวกเขาจะมอบทุกอย่างให้แก่คุณ หากพวกเขาต้องการคุณ แต่เมื่อไหร่ที่ไม่ต้องการ พวกเขาจะพยายามทำให้ชีวิตของคุณยากลำบาก”
“ผมมองฟุตบอลเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง และผมเห็นหลายสิ่งในวงการนี้ที่ทำให้ผมผิดหวัง, ฟุตบอล ยังมีแพสชั่นอยู่ก็จริง แต่ขณะเดียวกันผมเห็นสิ่งอื่นด้วยซึ่งทำให้ผมแปลกใจ”
“แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ เพราะตอนนี้ถ้าคุณมองไปทั่วโลก ทุกอย่างเป็นเรื่องธุรกิจทังน้ัน”
มอร์แกน ถามต่อเรื่องคำวิจารณ์ที่ โรนัลโด้ ได้รับในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
“ทุกอย่างเป็นความผิดของผมตลอด, ผมคือตัวปัญหา และดูคล้ายกับแกะดำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบเลย”
“ไม่ว่าคุณจะทำผลงานดีหรือแย่ พวกเขาจะหาเรื่องมาวิจารณ์คุณได้อยู่เสมอ แม้แต่ในทีมชาติผมก็โดนวิจารณ์หนักมากในช่วง 3 เดือนหลัง”
“ไม่ใช่แค่ในแง่ฟุตบอลเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องความเป็นอาชีพ และครอบครัวของผมด้วย ซึ่งทำให้ผมแปลกใจมาก ผมดูเหมือนกับเป็นตัวร้าย”
“ผู้คนควรรับฟังความจริงจากปากผมด้วย นี่เป็นเหตุผลที่ผมให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เพราะผมคิดว่านี่เป็นเวลาที่ถูกต้องสำหรับการพูดเปิดใจ และผมต้องการบอกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดตลอด 4-5 เดือนหลังคือขยะ”
“ผมจะไม่บอกว่าสิ่งที่พวกเขาพูดเป็นขยะทั้งหมด แต่ 99 เปอร์เซนต์คือขยะและเรื่องโกหก”
มอร์แกน ถามต่อเรื่องที่ โรนัลโด้ พลาดการปรีซีซั่นบางส่วนก่อนเริ่มฤดูกาลนี้
“ช่วงปรีซีซั่นผมมีช่วงเวลาหลายสัปดาห์ที่แย่มาก ช่วงนั้นผมไม่เจอหน้าใครทั้งนั้น ทั้งเพื่อนๆ ใกล้ตัวหรือแม้กระทั่งแม่ตัวเอง”
“ผมเจอปัญหาบางอย่างระหว่างวันหยุด ลูกสาวคนเล็กของผมมีปัญหาหลอดลมอักเสบ ตอนนั้นผมอยู่ มาร์ญอก้า และเธอต้องเข้าโรงพยาบาล 1 สัปดาห์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ความสุขนัก”
“แล้วจากนั้นผู้คนก็สร้างเรื่องขึ้นมาว่าผมต้องการไปเที่ยว, พวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจว่าผมก็เป็นคนธรรมดา และผมต้องการอยู่กับครอบครัว เรื่องนี้ไม่สามารถต่อรองได้”
“ผมมีแม้กระทั่งผลตรวจร่างกายของ เบลล่า (ลูกสาว โรนัลโด้) จากห้องแล็บของโรงพยาบาล ซึ่งผมไม่เคยแสดงให้ใครดู และไม่มีใครขอดูจากผม”
“ผู้คนลืมไปว่าผมก็เป็นคนธรรมดา ที่กำลังผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก, ผมพูดคุยกับผู้อำนวยการและประธานสโมสรของ ยูไนเต็ด และพวกเขาก็ค่อนข้างที่จะไม่เชื่อว่ามีบางอย่างผิดปกติ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกแย่จริงๆ”
“พวกเขาเชื่อผม แต่ขณะเดียวกัน…(โรนัลโด้ ส่ายหน้า), ผมจะไม่มีวันแลกสุขภาพของครอบครัวผมกับฟุตบอล ไม่มีวันเลย ไม่ว่าจะตอนนี้, 10 ปีที่แล้ว หรือ 10 ปีข้างหน้าก็ตาม”
“ยูไนเต็ด ตั้งข้อสงสัยในคำพูดของผม ซึ่งทำให้ผมเจ็บปวดจริงๆ, เราใช้เวลา 1 สัปดาห์ในโรงพยาบาล เพราะปัญหาใหญ่ของ เบลล่า และนั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ได้เข้าร่วมปรีซีซั่น ผมไม่ยอมทิ้งครอบครัวไปร่วมปรีซีซั่น เพราะผมคิดว่านั่นคงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง”
“ไม่ใช่แค่ใน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผมขอพูดถึงทั้งโลก โดยเฉพาะในโลกฟุตบอล ทุกคนมีความเป็นปัจเจกมาก ทุกคนสนใจผลประโยชน์ของตัวเอง และไม่สนใจปัญหาต่างๆ ของคุณ”
“ถ้าพวกเขาต้องการคุณ ปัญหาครอบครัวของคุณไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผมไม่ได้หมายถึงแค่ ยูไนเต็ด แต่หมายถึงโดยทั่วไป, อย่างที่ผมบอกคือตอนนี้ฟุตบอลผ่านไปเร็วมาก มีการแข่งขันหลายรายการเต็มไปหมด”
“มันเป็นเรื่องยาก บางทีคุณต้องการทำให้ทุกอย่างสงบ, อยู่กับครอบครัว และทำการตัดสินใจอย่างดีที่สุด และช่วงซัมเมอร์นี้ผมรู้สึกอึดอัด กับวิธีที่ถูกปฏิบัติ โดยเฉพาะพวกสื่อที่ตั้งข้อสงสัยในตัวผม
“ซึ่งทำให้ผมรู้สึกแย่มาก เพราะผมเป็นมืออาชีพมาตลอด และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จได้ยาวนานขนาดนี้”
โรนัลโด้ กลับมาร่วมปรีซีซั่นกับทีมของ เทน ฮาก และเดินออกจากสนามพร้อมกับอีกหลายคนในเกมอุ่นเครื่องกับ ราโย่ บาเยกาโน่ ซึ่ง มอร์แกน ก็ถามต่อถึงเหตุการณ์นี้
“ผมจะพูดอย่างซื่อตรงนะ เพียร์ส, ผมอาจจะเสียใจที่ออกจากสนามก่อน หรืออาจจะไม่เสียใจ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เป็นเรื่องที่ยากจะตอบได้แบบ 100 เปอร์เซนต์, เอาเป็นว่าผมเสียใจละกัน แต่ขณะเดียวกันผมก็ถูกยั่วยุจาก โค้ช”
“โค้ช ส่งผลลงสนามเป็นเวลา 3 นาที ซึ่งสำหรับผมแล้วยอมไมได้, ขอโทษทีแต่ผมไม่ใช่ผู้เล่นแบบนั้น ผมรู้ดีว่าสามารถให้อะไรกับทีมได้”
ความจริงแล้ว โรนัลโด้ กำลังพูดถึงเกมพรีเมียร์ ลีก กับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทำให้พิธีกรดึงคำถามกลับมาที่เกมกับ ราโย่ ก่อน
“มีผมกับอีก 8 คนที่ทำแบบนั้น แต่พวกเขาอ้างชื่อผมคนเดียว… ทุกคนทำแบบนั้น, ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมีผมโดนอ้างชื่อแค่คนเดียว”
“พวกเขาพูดถึงแค่เกมกับ ราโย่ แต่ปีที่แล้วก็มีหลายคนทำแบบนี้, เกมกับ ราโย่ ก็มีอีก 8 คนทำแบบนี้ แต่พวกเขาพูดถึงแต่แกะดำ ซึ่งก็คือผมเอง”
“แต่ผมก็เข้าใจได้อย่างเต็มที่ เรื่องมันเกิดไปแล้ว ผมกล่าวขอโทษโค้ช และสำหรับผม เรื่องนี้มันจบไปแล้ว”
มอร์แกน ถามต่อเรื่องความสัมพันธ์ของ โรนัลโด้ กับ เทน ฮาก ผู้จัดการทีมคนใหม่จาก อาแย็กซ์
“เขาบอกกับผมอยู่ตลอดว่า เขารู้สึกว่าผมไม่ได้ปรีซีซั่น ดังนั้นผมควรรอโอกาสของผม ซึ่งโอเค, ผมก็เข้าใจดีว่าควรทำแบบนั้น”
“แต่เขาไม่ได้ใช้ขั้นตอนนี้กับผู้เล่นทุกคน ผมจะไม่ชี้นิ้วระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่พวกเขาไม่ได้ใช้วิธีการแบบเดียวกันกับทุกคน”
“อีกอย่างคือ ผมเข้าใจดีว่า ยูไนเต็ด มีช่วง 5 ปีหลังที่ย่ำแย่มาก จนเมื่อคุณเข้ามารับงานใหม่ คุณควรมีการทำความสะอาดบ้าน ขอใช้คำพูดนี้ละกัน”
“แต่วิธีการที่พวกเขาใช้ รวมถึงการที่พวกสื่อทำให้เป็นเรื่องใหญ่เหลือเกิน นั่นอาจเป็นเพราะว่าการสื่อสารไม่ได้ทำอย่างดีที่สุด”
“แต่ผมเข้าใจดีในช่วงเริ่มต้น ว่าเป็นเพราะไม่ได้ปรีซีซั่น ผมจึงไม่ได้ลงเล่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานกว่านั้นเรื่อยๆ มีหลายสิ่งเกิดขึ้นซึ่งผู้คนไม่รู้”
“ผมจะไม่ปิดบังว่า ผมมีความเข้าใจที่ไม่ดีกับโค้ช, ผมพูดด้วยความสัตย์จริง, ผมคิดว่าเขาไม่ให้ความเคารพตามที่ผมสมควรได้รับ”
“แต่สถานการณ์มันก็เป็นแบบนั้น และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ผมออกจากสนามก่อนในเกมกับ ท็อตแน่ม”
โรนัลโด้ ไม่ถูกเปลี่ยนลงสนามในเกมแพ้ แมนฯ ซิตี้ 6-3 และหลังจบเกม เทน ฮาก บอกว่าตัดสินใจแบบนั้นเพราะต้องการให้ความเคารพนักเตะ ซึ่ง มอร์แกน ถามว่าเขารู้สึกอย่างไรเมื่อได้ยินคำพูดนี้จากเจ้านาย
“(โรนัลโด้ นิ่งไปหลายวินาที) ข้ออ้าง, ผมมองว่านั่นเป็นข้ออ้าง ผมเห็นหลายเรื่องซึ่งผมไม่อยากจะวิจารณ์เขา”
“เขาสามารถมีความคิดเห็นต่างจากผมได้ พวกเขาเลือกผู้เล่นที่พวกเขาคิดว่าดีที่สุดสำหรับทีม และผมเคารพเรื่องนี้”
“แต่พวกเขามีข้ออ้างตลอดเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล, คุณก็รู้ว่าข้ออ้างไปได้ไม่ไกล และคุณไม่สามารถใช้ข้ออ้างตลอดเวลาได้”
“โอเค, คุณไม่ส่งผมลงในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ เพราะคุณให้ความเคารพอาชีพของผม แล้วคุณต้องการส่งผมลงเล่น 3 นาทีในเกมกับท็อตแน่ม, นั้นไม่เมคเซนส์เลย”
“ผมคิดว่าเขาตั้งใจทำแบบนั้น และทุกคนรู้เรื่องนี้ดี เพราะว่าตัวอย่างเช่นในทีมชาติ หรือในสโมสรอื่น หากโค้ชต้องการส่งผมลงสนาม 5 นาที, หากมีคนเจ็บแล้วพวกเขาต้องการผมจริงๆ ผมก็พร้อมจะช่วย”
“แต่ด้วยวิธีการแบบนั้น ทำให้ผมรู้สึกถูกยั่วยุ ไม่ใช่แค่เฉพาะเกมนั้น แต่ก่อนหน้านั้นแล้วด้วย”
“นี่คือเหตุผลที่ผมบอกว่า ไม่ให้ความเคารพเขา เพราะเขาไม่แสดงออกถึงความเคารพในตัวผม, นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น”
“ผมจำเป็นต้องซื่อสัตย์และบอกว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นด้วยดี เพราะว่าเราไม่มีความเข้าอกเข้าใจที่ดีต่อกัน”
“เขาพูดเรื่องต่างๆ ออกสื่อ แล้วพวกสื่อก็ออกข่าวในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าอาจจะดีสำหรับการปกป้องตัวเขา และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“ผมเข้าใจดีว่าเขาเซ็นสัญญา 3 ปี กับ ยูไนเต็ด ส่วนผมอาจจะไม่อยู่กับ ยูไนเต็ด ได้นานมากนัก ผมเข้าใจเรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี”
“แต่ผมชอบคนที่ไม่พูดโกหก และมีความซื่อสัตย์โดยการพูดอย่างตรงไปตรงมา และผมจะไม่ต่อรองเรื่องนี้, สิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับผมในช่วง 2 เดือนหลัง คือการไม่ให้ความเคารพในหลายด้านๆ”
“มีหลายอย่างที่ผมสามารถรู้สึกเสียใจได้ ตัวอย่างเช่นการออกจากสนามก่อนแข่งจบในเกมกับ ท็อตแน่ม”
เทน ฮาก สั่งลงโทษตัด โรนัลโด้ ออกจากทีมในเกมถัดมา และสั่งให้ลงไปซ้อมกับทีมชุดเยาวชน ซึ่ง มอร์แกน ถามถึงความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ผมเสียใจที่ออกจากสนามก่อน แต่อย่างที่ผมบอกไป ผมรู้สึกว่าเขาไม่ให้ความเคารพผม จากการส่งลงสนามช่วง 3 นาทีสุดท้าย กับปัญหาที่เรามีก่อนหน้านั้น”
“พูดตามตรงนะ ผมผิดหวังสุดๆ กับการสื่อสารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ผมไม่เคยมีปัญหากับสโมสรหรือโค้ชคนไหน แต่พวกเขาสั่งพักงานผมเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งทำให้ผมรู้สึกแย่มากและอับอาย”
“ผมจำได้ว่ากลับบ้านไปแล้วลูกชายก็ถามผมว่า ‘ไม่ไปแข่งเหรอครับพ่อ?’ ผมตอบไปว่า ‘ไม่อ่ะ สโมสรสั่งแบนพ่อ 3 วัน’,”
“ลูกชายผมถึงกับขำ แล้วก็ถามว่า ‘พวกเขาลงโทษพ่อได้ยังไง ทั้งที่พ่อเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก แต่พ่อจะไม่ได้ลงสนามเนี่ยนะ?’, ผมตอบกลับว่า ‘พ่อไม่ได้ลงเล่น เพราะพ่อทำตัวไม่เหมาะสม’,”
“ลูกชายผมมองผมด้วยอารมณ์ประมาณว่า ‘พ่อของฉันทำตัวไม่เหมาะสม, อะไรกันเนี่ย?’,”
“ในมุมนึง ผมก็รู้สึกดี เพราะผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันผมก็รู้สึกผิดหวัง เพราะโอเค, ผมรู้สึกผิดและขอโทษ ผมไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบและสามารถทำผิดพลาดได้”
“แต่การสั่งแบนผมเป็นเวลา 3 วันสำหรับเรื่องนี้ ผมคิดว่านั่นมากเกินไป และเป็นการสุมกองไฟให้กับพวกสื่อ ซึ่งทำให้ผมผิดหวังจริงๆ”
“มีหลายอย่างเกิดขึ้น และผมคิดว่านั่นเป็นแผนการของสโมสรเพื่อให้ผมตอบสนองแบบนั้น”
มอร์แกน ถามต่อทันทีว่า ยูไนเต็ด ต้องการบีบให้เขาย้ายออกหรือไม่
“อาจจะเป็นแบบนั้น, ไม่ใช่แค่เฉพาะโค้ชแต่อีก 2-3 คนในสโมสร” มอร์แกน จี้ต่อว่าคนเหล่านั้นใช่ผู้บริหารระดับสูงหรือไม่ และโรนัลโด้ก็ยืนยันว่าใช่
“ผมไม่ควรจะพูดเรื่องนี้ แต่ผมไม่สนใจ ผู้คนควรได้ยินความจริง ใช่เลยผมรู้สึกถูกหักหลัง มีบางคนที่สโมสรไม่ต้องการให้ผมอยู่ที่นี่ ไม่ใช่แค่ปีนี้แต่ปีที่แล้วด้วย”
“ฟังผมนะ เจ้าของสโมสรนี้ ตระกูล เกลเซอร์ ไม่สนใจสโมสร ในแง่ของฟุตบอล”
“อย่างที่คุณรู้อยู่แล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรการตลาด, เจ้าของทีมจะได้เงินของพวกเขาจากการตลาด แต่สำหรับด้านฟุตบอลแล้ว ผมคิดว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจอย่างจริงจัง”
“ผมไม่เคยพูดคุยกับพวกเขา, พวกเขามอบอำนาจทั้งหมดให้ประธานสโมสร และผู้อำนวยการกีฬา”
“แฟนบอล ยูไนเต็ด พูดถูกมาเสมอ และพวกเขาควรรู้ความจริงว่า เหล่าผู้เล่นรวมทั้งผมต้องการสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อสโมสร นั่นเป็นเหตุผลที่ผมย้ายกลับมาร่วมทีม และให้ความรักกับสโมสร”
“แต่มีบางอย่างภายในสโมสร ที่ไม่ช่วยให้เราไปถึงระดับท็อปเหมือนที่ ซิตี้, ลิเวอร์พูล หรือแม้แต่ตอนนี้ อาร์เซน่อล ก็ทำได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและยากมาก”
“ความเห็นของผมคือ มันเป็นเรื่องยากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นทีมฟุตบอลระดับท็อปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า หากพวกเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง, ผมไม่ได้หมายถึงตระกูลเกลเซอร์ แต่หมายถึงโครงสร้างของสโมสร”
“อย่างที่ ปิกัสโซ่ กล่าวไว้ ‘คุณต้องทำลายก่อนที่จะสร้างใหม่’ และถ้าพวกเขาจะเริ่มจากผม ผมก็ไม่มีปัญหา ผมจะบอกว่าผมรัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฟนบอลตลอดไป เพราะพวกเขาอยู่ข้างผมมาเสมอ”
“แต่หากพวกเขาต้องการประสบความสำเร็จในยุคใหม่ พวกเขาต้องมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง”
โรนัลโด้ ถูกถามต่อเรื่องคำวิจารณ์ที่เขาได้รับภายหลังเดินออกจากสนามก่อนแข่งจบในเกมกับ “ไก่เดือยทอง”
“พวกเขามองไม่เห็นภาพที่ใหญ่กว่า ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง และทำไมผมถึงตอบสนองแบบนั้น, ตอนนั้นผมคงรู้สึกถูกยั่วยุหลังฉาก”
“อย่าบอกผมว่าผู้เล่นระดับท็อป ชายผู้คว้าแชมป์มาทุกอย่าง ผู้เล่นคนสำคัญของทีม จะยอมลงเล่น 3 นาที, ไม่เอาน่า นั่นเป็นเรื่องรับไม่ได้”
“ก่อนหน้านั้น พวกเขาบอกมาตลอดว่าให้ความเคารพผม พวกเขาทำนู่นทำนี่ แต่สำหรับผมนั่นไม่ใช่ความเคารพ”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ผมตัดสินใจแบบนั้น ซึ่งผมเสียใจและขอโทษเพื่อนร่วมทีมไปแล้ว ผมเขียนโพสต์ลงอินสตาแกรมว่าผมเสียใจที่ออกจากสนาม”
“แต่ขณะเดียวกัน ผมก็ไม่เสียใจที่ตัดสินใจไม่ยอมลงสนาม ผมเป็นคนแบบนี้ และจะเป็นคนแบบนี้ไปตลอด”
“ถ้าคุณไม่ให้ความเคารพผม ผมก็จะไม่มีวันให้ความเคารพคุณ และโค้ชคนนี้ก็ไม่ให้ความเคารพผม นั่นเป็นเหตุผลที่ความสัมพันธ์ของเราเป็นแบบนี้”
“โค้ชพูดออกสื่อตลอดว่าเขาคุยกับผม, เขาชอบผม บลาๆๆๆ แต่เขาแค่พูดออกสื่อเท่านั้น 100 เปอร์เซนต์”
มอร์แกน ถาม โรนัลโด้ ต่อเรื่องอนาคตเมื่อถึงเดือนมกราคม เขาจะยังเป็นนักเตะ ยูไนเต็ด ต่อไปหรือไม่
“เป็นคำถามที่ตอบยากนะ เพียร์ส เพราะว่าตอนนี้อารมณ์ของผมอยู่ที่ฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 ในอาชีพผม และมันอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว”
“ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังฟุตบอลโลก แต่อย่างที่บอกไป แฟนบอลจะอยู่ในใจผมไปตลอดเวลา และผมหวังว่าพวกเขาจะอยู่ข้างผม ไม่ว่าผมจะอยู่ต่อหรือย้ายออกไป”
“ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ช่วงเวลาที่เราทำผิดพลาดเป็นส่วนของความเป็นมนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งในตัวผมทั้งในฐานะคนธรรมดาและพ่อคนนึงเช่นกัน, ผมจะมีข้อผิดพลาดอยู่เสมอ”
“ไม่รู้สิ ตอนนี้เป็นเรื่องยากในการบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังฟุตบอลโลก เพราะผมกำลังโฟกัสไปที่ฟุตบอลโลก กับทีมชาติ โปรตุเกส”
มอร์แกน ถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ จะย้ายซบ ยูไนเต็ด รอบสองหรือไม่
“อย่างที่ผมบอกไป ปกติแล้วผมจะตัดสินใจโดยไม่ให้อารมณ์มาเกี่ยวข้อง แต่บางทีการตัดสินใจย้ายกลับครั้งนี้ อาจเกิดจากอารมณ์ของผม”
“ผมไม่เสียใจที่ตัดสินใจแบบนั้น เพราะมาจากเจตนาของผม 100 เปอร์เซนต์ แต่มันเป็นการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ผมไม่รู้ว่าผมพูดเมคเซนส์หรือเปล่า”
“แต่มันเป็นการตัดสินใจที่ดี เพราะผมเคยมีความสุข เฉพาะตอนที่พวกเขายอมให้ผมมีความสุขนะ และผมได้พยายามให้คำแนะนำและประสบการณ์เพื่อช่วยให้ ยูไนเต็ด อยู่ในที่ที่ควรจะอยู่”
“ผมไม่ทำตัวฉลาดกว่าคนอื่น คนอื่นไม่ได้ฉลาดกว่าผม แต่ผมก็ไม่ได้ฉลาดกว่าใครเช่นกัน”
“ตอนผมมาถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมพร้อมช่วยทีมอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทำผลงานได้ดี, อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และสามารถแข่งขันกับทีมระดับท็อปได้”
“แต่เป็นเรื่องยาก เมื่อพวกเขาตัดขาของผม, พวกเขาไม่ชอบที่ผมฉายแสง และไม่ฟังคำแนะนำของผม”
“ผมคิดว่าผมสามารถให้คำแนะนำสโมสรได้ เพราะถ้วยรางวัลเป็นทั้งผลงานส่วนตัวและผลงานของทีม ผมคิดว่าผมสามารถช่วยได้มาก แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานของสโมสรไม่ดีแล้ว…”
ฤดูกาลนี้ โรนัลโด้ ได้ออกสตาร์ตตัวจริงใน พรีเมียร์ ลีก ไปแค่ 4 นัด ทำ 1 ประตู ภายหลังการแข่งขันดำเนินไปแล้ว 14 เกม ซึ่ง มอร์แกน ก็ถามว่าหากได้โอกาส เขาจะยังสามารถโชว์ฟอร์มเก่งหรือไม่
“มีบางอย่างเกิดขึ้น ผมไม่ได้ปรีซีซั่นไง…(โรนัลโด้ หัวเราะ)… นั่นคือข้ออ้าง”
“แน่นอนว่าผมจะทำได้, คุณคิดว่าผมคืนบทเรียนเรื่องการทำประตูไปหมดแล้วหรือไง? บางทีผมอาจไม่มีความมุ่งมั่นมากพอเท่าที่ผมควรจะเป็น”
“อย่างที่ผมบอกไปคือผมก็เป็นมนุษย์ธรรมดา และความมุ่งมั่นของผมไม่เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน”
“ผมคงไม่บอกว่าผมต้องการความท้าทายใหม่ๆ แต่เราจะได้เห็นกัน เพราะตอนนี้โฟกัสผมอยู่ที่ฟุตบอลโลก”
“บางทีอาจเป็นเรื่องดีทั้งกับผม และ ยูไนเต็ด ในการเริ่มต้นบทใหม่ๆ อาจจะนะ, ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อผมกลับไปที่นั่น ผมจะยังเป็น คริสติอาโน่ คนเดิมหรือไม่”
“แต่ผมหวังว่าผู้คนจะอยู่เคียงข้างผม และยอมให้ผมฉายแสง เหมือนกับที่ผมเคยทำได้มากับทุกทีมก่อนหน้านี้ รวมถึงกับที่นั่นด้วย”
ประเด็นถัดมา มอร์แกน ถามต่อเรื่องข้อเสนอ 350 ล้านยูโร พร้อมสัญญา 2 ปีจาก ซาอุดิอาระเบีย
“ใช่เลย นั่นเป็นความจริง และตอนนั้นผมก็ตอบปฏิเสธ แต่สิ่งที่พวกสื่อขยะออกข่าวตลอดว่าไม่มีใครต้องการผม คือเรื่องเท็จทั้งสิ้น”
“จอร์เก้ เมนเดส มีผู้เล่นในสังกัดมากกว่า 100 คน เมื่อเขาติดต่อกับ เชลซี หรือ อาร์เซน่อล พวกเขาอ้างชื่อ คริสติอาโน่ อยู่ตลอด”
“เอาความจริงนะ เพียร์ส ใครคือผู้เล่นที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก? คนๆ นั้นคือผมเอง ขนาดผมอายุ 37 ปีแล้วนะ”
“ผมจะพูดความจริงนะ ผมไม่ได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสร แต่มีบางสโมสรยื่นข้อเสนอให้ ซึ่งผมไม่ตอบรับ เพราะนั่นไม่ใช่แผนของผม ผมมีความสุขและมุ่งมั่นที่จะมีฤดูกาลที่ดีกับ ยูไนเต็ด”
“พวกสื่อออกข่าวรัวๆ ว่าไม่มีใครต้องการ โรนัลโด้, เป็นไปได้ยังไงที่คุณจะไม่ต้องการผู้เล่นซึ่งฤดูกาลที่แล้วยิง 32 ประตู?”
มอร์แกน ถามต่อเรื่องคำวิจารณ์เรื่องอายุและสภาพร่างกายที่โรยรา ของ โรนัลโด้
“สำหรับผมนั่นเป็นคำถามที่โง่เขลา ผู้คนพูดว่าอะไรนะ? พวกเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว, ไม่มีใครเหมือนเดิมไปตลอดหรอก ทุกวันเราทุกคนล้วนอายุมากขึ้น มันเป็นเรื่องธรรมดาและทุกคนต้องปรับตัว”
“และผมคิดว่าไม่มีใครในวงการนี้มีสมองซึ่งปรับตัวไปตามอายุของเขา ผมไม่ต้องการเป็นอวดดีโดยการบอกว่าผมเป็นคนเดียวกับตอนอายุ 20 แน่นอนว่าไม่ใช่แบบนั้น”
“แต่ผมปรับตัว และฉลาดพอจะรู้ถึงจุดแข็งของตัวเอง รู้ว่าผมทำอะไรได้ดีบ้าง และผมยังเล่นในระดับสูงแถมทำประตูได้
“และผมจะยิงประตูได้ต่อไป ถ้าจิตใจของผมโล่งและมีความสุข และถ้าผู้คนที่อยู่รอบตัวผมช่วยให้ผมเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะโค้ช, ประธานสโมสร และผู้อำนวยการ”
“แต่เมื่อคุณรู้สึกว่าพลังงานเหล่านั้นไม่ได้อยู่รอบตัวคุณ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม”
“แน่นอนว่าผมจะเจอคำวิจารณ์เรื่องอายุอยู่ตลอด แต่ผมอยากรู้ว่าจะมีใครบ้างที่อายุเท่าผม และเล่นในระดับเดียวกับผมได้, ไม่มีใครสอนผมเรื่องนี้ คุณไม่สามารถสอนผมเรื่องนี้ได้”
มอร์แกน ถามว่าตอนนี้ โรนัลโด้ รู้สึกว่าร่างกายของเขาฟิตที่สุดในอาชีพแล้วใช่หรือไม่
“ใช่เลย ตอนนี้ผมรู้สึกดีมาก ผมเตรียมตัวพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ ผมคิดว่าผมจะทำได้ดีในฟุตบอลโลก”
“ผมรู้ดีว่าบทสัมภาษณ์นี้จะทำให้ผมได้รับเสียงวิจารณ์, พวกเขาวิจารณ์ตอนผมเงียบ แน่นอนเลยว่าเมื่อผมพูดออกมา ผมจะโดนวิจารณ์หนักกว่าอีก”
“แต่ผมรับมือกับเรื่องนี้ได้ ผมรู้ว่าผมจะทำให้บางคนผิดหวัง และอาจทำให้บางคนกลับมาชอบผม ชีวิตก็เป็นแบบนี้ มันเป็นเรื่องยากและมีอุปสรรคหลายอย่าง”
“และผมจะต่อสู้กับคนที่ไม่เชื่อในตัวผมต่อไป ผมต้องการพิสูจน์ให้พวกเขาคิดผิด”
มอร์แกน ถามว่าหาก โรนัลโด้ ต้องอำลา ยูไนเต็ด เขาอยากฝากอะไรถึงแฟนบอล “เร้ด เดวิลส์”
“เป็นเรื่องยากที่ผมจะบอกว่า ผมจะไม่กลับมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีก เราจะได้เห็นกันในอนาคต”
“แต่อย่างที่ผมบอก แฟนบอล จะอยู่ในใจผมไปตลอด ทุกครั้งที่เดินไปตามท้องถนนผมเห็นความรัก แพสชั่น และความเคารพที่ผู้คนมีต่อผม”
“ผมหวังว่าพวกเขาจะไม่ลืมสิ่งที่ผมจะทำต่อไป ไม่ใช่สิ่งที่เคยทำในอดีต แต่รวมถึงปัจจุบันด้วย และหวังว่าแฟนบอล ยูไนเต็ด จะอยู่ข้างผมตลอดไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
“ผมจะชื่นชมความรักที่พวกเขามีให้ผมตลอดไป แม้แต่ในตอนที่ผมไม่ได้ลงเล่น หรือตอนที่พวกเขาวิจารณ์ผม พวกเขาจะอยู่ในหัวใจผมตลอดไป และผมขอขอบคุณทุกการสนับสนุน แล้วหวังว่าเราจะเจอกันเร็วๆ นี้”
มอร์แกน ถาม โรนัลโด้ ต่อว่า เซอร์ อเล็กซ์ มีความคิดเห็นอย่างไรกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับตัวเขา
“ผมไม่ได้คุยกับเขาเลยตั้งแต่เดือนก่อน แต่เขาอยู่ข้างผมตลอด เขาเข้าอกเข้าใจผม เขารู้ดีว่าสโมสรไม่ได้อยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น”
“เขารู้ดี ทุกคนก็รู้ คนที่มองไม่เห็นเป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการมองเห็น เพราะพวกเขาก็มีส่วนผิด”
“แฟนบอล คือคำตอบและแพสชั่นของวงการฟุตบอล, ยูไนเต็ด เป็นสโมสรของแฟนบอล แต่พวกเขาควรจะรู้ความจริงว่า โครงสร้างพื้นฐานสโมสรไม่ดีพอ และควรเปลี่ยนแปลง”
“หากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ยูไนเต็ด จะไม่ได้อยู่ในที่ที่พวกเขาเคยอยู่เมื่อครั้งสมัย เซอร์ อเล็กซ์ กับ เดวิด กิลล์”
มอร์แกน ถามต่อเรื่องโอกาสคว้าแชมป์โลกที่ กาตาร์ ของทีมชาติโปรตุเกส ซึ่ง โรนัลโด้ จะนำทัพในฐานะกัปตันทีม
“ผมมองโลกในแง่ดีมาก เรามีโค้ชที่ยอดเยี่ยม มีผู้เล่นที่ดีหลายคน ผมตั้งตารอคอยที่จะได้แข่งฟุตบอลโลกอันยอดเยี่ยม”
“ครั้งนึงผมเคยฝันว่าคว้าแชมป์ได้ มันจะเป็นงานหนัก และยากสุดๆ แต่ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น และแน่นอนเราจะต้องการคว้าแชมป์”
“เราไม่ใช่ทีมเต็ง เราไม่เคยเป็นทีมเต็ง อาจจะฝรั่งเศส, สเปน, อาร์เจนติน่า, เยอรมันนี และแน่นอน บราซิล ด้วย, อ่อ อังกฤษ ก็เช่นกัน พวกเขามีโอกาสเคียงข้าง โปรตุเกส”
มอร์แกน ถามต่อเรื่องความสัมพันธ์กับ ลีโอเนล เมสซี่ ยอดนักเตะซึ่งถูกยกเทียบ โรนัลโด้ มาตลอดอาชีพ
“เขาเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์และมีเวทมนตร์ ในฐานะคนๆ นึง เขาก็เป็นระดับท็อป, ลองจินตนาการดูสิ เราอยู่ร่วมเวทีเดียวกันมา 16 ปี ดังนั้นผมมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับเขา”
“ผมไม่ใช่เพื่อนของเขา ในแง่ที่ว่าจะชวนไปเยี่ยมบ้านหรือคุยโทรศัพท์กัน เขาเป็นเหมือนเพื่อนร่วมทีมผม เขาเป็นคนที่ผมให้ความเคารพจากวิธีที่เขาพูดถึงตัวผม”
“แม้แต่ภรรยาของเขา หรือแฟนสาวของผม พวกเขาก็ให้ความเคารพกัน, พวกเขามาจาก อาร์เจนติน่า เช่นเดียวกับแฟนผม”
“ดังนั้นเรามีความสัมพันธ์ที่ดี ผมจะพูดอะไรได้อีกเกี่ยวกับ เมสซี่? เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม และทำในสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับวงการฟุตบอล”
มอร์แกน ถามต่อว่า เมสซี่ คือผู้เล่นที่สุดที่ โรนัลโด้ เคยเห็นมาหรือไม่ หากไม่นับตัวเขาเอง
“อาจจะใช่นะ ไม่เขาก็ ซีดาน, ถ้าเป็นคนที่ผมเคยลงแข่งด้วยก็ใช่เลย”
มอร์แกน ถามต่อว่ามีโอกาสที่ โรนัลโด้ จะกินข้าวเย็นร่วมกับ เมสซี่ รวมไปถึงลงเล่นทีมเดียวกันหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดกว้างสำหรับโอกาส
คำถามถัดมาคือ อาร์เซน่อล มีโอกาสคว้าแชมป์ พรีเมียร์ ลีก หรือไม่
“ผมหวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ หาก ยูไนเต็ด ทำไม่ได้ อาร์เซน่อล คือทีมที่ผมอยากเห็นคว้าแชมป์, พวกเขาเป็นทีมที่ดี และผมชอบโค้ชของพวกเขา”
มอร์แกน ถามต่อว่า โรนัลโด้ คิดจะเล่นฟุตบอลต่อไปอีกกี่ปี
“ผมอยากเล่นต่อไปอีก 2 ปี หรือไม่ก็ 3 ปี ดังนั้นมากสุดคือ 2-3 ปี, ผมอยากเลิกเล่นตอนอายุ 40, นั่นเป็นอายุที่ดี”
“แต่ผมก็ไม่รู้อนาคต บางทีคุณวางแผนไว้อย่างนึง และอย่างที่ผมเคยบอกไปหลายครั้ง ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน คุณไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
มอร์แกน ยิงคำถามต่อมาคือมีโอกาสที่ โรนัลโด้ จะผันตัวไปเป็นนักเขียนในอนาคตหรือไม่
“ทำไมจะไม่ละ, อนาคตผมอาจจะทำแบบนั้น ผมต้องการให้ความรู้กับคนอื่น ไม่ใช่แค่เฉพาะคนในครอบครัวแต่รวมถึงแฟนๆ ด้วย อย่างที่คุณรู้ว่าผมมีแฟนคลับหลายล้ายคน”
“บางทีอนาคตผมต้องการเขียนหนังสือสักหน่อย เพื่อช่วยเหลือผู้คน สอนวิธีปฏิบัติตัวให้พวกเขา และวิธีประสบความสำเร็จอย่างยาวนาน”
“แน่นอนว่าในอนาคตผมอยากพัฒนาเรื่องภาษาอังกฤษ ผมรู้ว่าผมต้องพัฒนา ผมอาจต้องให้สัมภาษณ์มากขึ้นนะ (โรนัลโด้ หัวเราะ),”
“ในอนาคตหลังจากแขวนสตั๊ด ผมเห็นตัวเองพูดต่อหน้าคนหลายล้านคน แนะนำวิธีเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้กับพวกเขา”
“ผมอยากสอนวิธีคว้าชัยชนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด, ผมไม่ใช่นักจิตวิทยา แต่มีประสบการณ์พอจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้”
“ผมคิดว่าผมเป็นตัวอย่างที่ดี และช่วยเหลือผู้คนได้ ถ้าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผมนะ โดยเฉพาะเหล่าผู้คนที่อายุน้อย ไม่แค่พวกเขาแต่รวมถึงเหล่าคุณพ่อด้วย”
บทสัมภาษณ์จบบริบูรณ์ลงเพียงเท่านี้ ทั้งคู่จับมือกล่าวขอบคุณกันและกัน จากนั้น โรนัลโด้ ปิดท้ายด้วยการขยิบตาขวาให้กล้อง 1 ที