เกมการแข่งขันระหว่าง เจ้าถิ่นทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เป็นเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ เกมนี้ เป็นทางทีมเยือน แมนยู ที่ได้ประตูขึ้นนำไว และมาดีเกินคาด รับแน่น ช่วยกันได้ดี ก่อนจะมาได้อีกประตูในครึ่งหลัง บุกมาชนะเจ้าถิ่น แมนซิตี้ ไปได้คาบ้าน 2-0 !!!
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 แผนถนัด นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวบัญชาเกม และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กองหน้ากึ่งปีกทีมชาติอังกฤษ ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเล่นในระบบ 4-5-1 อัดกองกลางมาสู้โดยเฉพาะ นำทีมโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าตัวจี๊ดทีมชาติอังกฤษ และ บรูโน่ แฟร์นานเดส มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม
นาที 1 GOAL!!!
เริ่มเกมมาไม่ทันไร เป็นทางทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ประตูออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เลี้ยงพาบอลขึ้นมาถึงหน้ากรอบเขตโทษเยื้องๆไปทางซ้าย ก่อนจะพยายามพลิ้วหนี แต่โดนสกัดได้ บอลหลุดมาเข้าทาง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะโชว์พลิ้ว เลี้ยงเข้าเขตโทษแล้วกระชากตัดเข้ากลาง ก่อนจะโดน กาเบรียล เชซุส สกัดบอลข้างหลัง ล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที บรูโน่ แฟร์นานเดส ผู้สังหารมือหนึ่ง ซัดเข้าไปไม่เหลือ!!!
นาที 3
ทีมเยือน เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะที่ต่อบอลจนมาถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ดึงจังหวะนิดนึงก่อนจะแทงบอลให้ ลุค ชอว์ ที่วิ่งตัดหลังขึ้นมา ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่โดน ชูเอา คันเซโล่ ดักไว้ได้ก่อน แต่พี่แกไม่ยอมเคลียร์สักที พยายามจะเลี้ยงหน้าประตู โดน ลุค ชอว์ ตามมาฉกจากเท้า แล้วยิงเร็วด้วยขวาทันที แต่บอลเบาและไปตรงตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 8
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกขึ้นมาบ้าง ริยาด มาห์เรซ จ่ายบอลให้ อิลคาย กุนโดกัน ที่บริเวณหัวกระโหลก เจ้าตัวบรรจงกดเลียดด้วยขวาทันที แต่บอลไม่แรงพอ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ขยับมารับไว้ได้สบาย
นาที 15
เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลพลาดโดน เฟร็ด ตัดได้ที่กลางสนาม ก่อนจะแทงบอลเร็วให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด พลิกบอลแล้วพามาถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะบรรจงยิงด้วยขวาไปที่เสาซ้ายมือ บอลพุ่งแรงและติดส่าย เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวามาปัดกระฉอก ก่อนจะตามมาตะครุบไว้ได้อีกที
นาที 24
เจ้าถิ่น บุกกันขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือน อิลคาย กุนโดกัน จ่ายมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ที่หัวกระโหลก แต่โดนขวาง หันกลับมาไหลบอลไปที่ว่างตั้งให้ อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้วิ่งมาใส่ด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเป็นจรวดไปที่กลางประตู ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ต้องกระโดดทุบทิ้งออกมาก่อน
นาที 37
ริยาด มาห์เรซ ได้บอลทางขวา ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้ามาตรงกลาง ผ่านผู้เล่นทีมเยือนไปสอง แต่จังหวะสุดท้ายแตะบอลยาว ยังดีที่ อิลคาย กุนโดกัน สอดมาเอาบอล แล้วแตะบอลเข้าไปในเขตโทษตรงกลางประตู แล้วแปด้วยขวาทันที แต่บอลก็ยังเบาและตรงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับได้สบายๆ
นาที 42
เจ้าถิ่น ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมาใส่ด้วยขวาข้ามกำแพงแล้วบอลส่ายฮุกลง ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ต้องปัดออกหลังไปก่อน
นาที 45
เจ้าถิ่น ได้ลุ้นตีเสมออีกครั้ง เป็นจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลทางซ้าย ก่อนจะเลี้ยงตัดเข้ากลางมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะแทงบอลให้ ริยาด มาห์เรซ หลุดไปในเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวมีเวลาได้บรรจงกดเลียดด้วยขวาไปที่เสาสอง บอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาออกไปแบบได้ลุ้น
นาที 45+1
ทีมเยือน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว บรูโน่ แฟร์นานเดส แทงบอลไปให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่หน้าเขตโทษเยื้องๆไปทางซ้าย เจ้าตัวใช้ลูกเก่ง เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแล้วกระชากตัดเข้ากลาง ก่อนจะใส่ด้วยขวาทันที แต่ครั้งนี้ แนวรับเจ้าถิ่น วิ่งตามมาบล็อกได้ทัน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่นาทีแรก จนทำให้ทีมเล่นง่ายขึ้นเยอะ นำอยู่ 1-0 !!! ในครึ่งเวลาแรก
นาที 47
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะได้ประตูตีเสมอเป็นที่สุด เป็นจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ พลิ้วจากกราบขวา ตัดเข้ามาตรงกลาง ก่อนจะแทงบอลยัดเข้าไปในเขตโทษตรงกลางให้ กาเบรียล เชซุส ที่ยืนหันหลังให้ประตูและพิงกองหลังอยู่ เจ้าตัวเบิ้ลบอลเบาๆไหลตั้งให้ โรดรี้ วิ่งมาแปเน้นๆด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลก บอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมด้านขวามือ ออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุดๆ
นาที 49 GOAL!!!
ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะการขว้างบอลไกลที่ยอดเยี่ยมของ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน มาที่ ลุค ชอว์ ทางกราบซ้าย ก่อนจะกระชากขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เลี้ยงจี้เข้าหากองหลัง ดึงจังหวะนิดนึง ก่อนจะไหลย้อนหลังคืนมาให้ ลุค ชอว์ จับหนึ่งจังหวะ แล้วกดเลียดด้วยซ้ายลอดหว่างขาแนวรับเจ้าถิ่น พุ่งไปเสียบเสาไกลขวามืออย่างสวยงาม
นาที 51
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กระชากพาบอลขึ้นมาเองทางริมเส้นฝั่งซ้าย เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ แล้วกระชากตัดเข้ากลางไปซัดด้วยขวาทันที แต่บอลไปตรงตัว ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย
นาที 57
ทีมเยือน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง ลุค ชอว์ กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษของเจ้าถิ่น ป้ายบอลออกขวาให้ บรูโน่ แฟร์นานเดส ได้บรรจงเปิดโค้งไปในเขตโทษ บอลพุ่งไปแฉลบหัว รูเบน ดิอาส ลอยโด่งย้อยไปตรงที่หน้าเสาไกล อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้โหม่งสะบัดคนเดียวจ่อๆ แต่เจ้าตัวโหม่งได้ไม่ดีสุดๆ บอลเด้งเข้ามือ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 68
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุดๆ เป็นจังหวะ บุกขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษตรงกลางของเจ้าถิ่น เฟร็ด ไหลให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ พาบอลเข้าไปถึงหัวกระโหลก ก่อนโดนสกัดล้มลง แต่ฟ้าเป็นใจ เจ้าตัวล้มไปชนกับกองหลังเจ้าถิ่น บอลปลิ้นไปถึง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ได้หลุดเดี่ยว ไปยิงล่อเป้าที่หน้าประตู แต่เจ้าตัวแปบอลด้วยขวาได้ไม่ดี ทั้งเบาและไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ล้มตัวปัดไว้ได้แบบไม่ยากเย็น
นาที 74
ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงจี้ขึ้นมาทางมุมเขตโทษด้านขวา ก่อนจะจ่ายตัดหลังแนวรับให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดไปด้านขวาของเขตโทษ ก่อนจะปาดเลียดมาในเขตโทษที่เสาแรกให้ ฟิล โฟเด้น กลับตัวยิงด้วยซ้ายไปที่เสาสอง แต่บอลหลุดกรอบออกไปไกล
นาที 84
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงเปิดโค้งไปที่เสาสอง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้ขึ้นโขกคนเดียวเหน่งๆ แต่โหม่งไม่ดี หลุดกรอบไปแบบไม่มีลุ้น
นาที 90+5
เจ้าถิ่น ดันขึ้นมาอยู่ในเขตโทษของทีมเยือนกันหมด บอลมาถึง ริยาด มาห์เรซ หน้ากรอบเขตโทษเยื้องๆไปทางขวา เจ้าตัวลองใส่ด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งแรงและส่าย แต่ ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังนิ่ง กระโดดทุบออกมาได้
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกมาเอาชนะเจ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้คาบ้าน 2-0 !!! คว้าสามคะแนนแห่งศักดิ์ศรีไว้ได้สำเร็จ รั้งอันดับ 2 ของตารางอยู่ในขณะนี้ นัดต่อไปต้องเจอกับทีมเวสต์แฮม ขณะที่ทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงอยู่อันดับ 1 ของตารางต่อไป นัดหน้าเจอกับทีมเซาธ์แฮมป์ตัน