เกมการแข่งขัน ระหว่าง ทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก กับ ทีมชาติ เดนมาร์ก ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลยูโร 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยเล่นกันที่สนาม โอลิมปิก สเตเดี้ยม, เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ยาร์โรสลาฟ ซิลฮาวี่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน นำทีมโดย วลาดิเมียร์ คูฟาล แบ็คขวาจอมบุกจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โทมัส ซูเช็ค กองกลางห้องเครื่องจากเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ พาทริค ชิค กองหน้าตัวความหวังจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ขณะที่ทางฝั่ง ทีมชาติ เดนมาร์ก ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แคสเปอร์ ฮูลมานด์ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูจอมหนึบจากเลสเตอร์ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก มิดฟิลด์ห้องเครื่องจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ มาร์ติน เบรธเวท กองหน้าตัวจบสกอร์จากบาร์เซโลน่า
นาที 5 GOAL!!!
เริ่มเกมมาได้แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมชาติ เดนมาร์ก ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งขวา เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซ่น เปิดบอลโด่งไปบริเวณจุดโทษ แล้วเป็น โธมัส เดลานี่ย์ ได้กระโดดเทคตัวขึ้นโหม่งคนเดียวเน้น ๆ บอลกระเด้งพื้น พุ่งหนีมือ โทมัส วัคลิค ผู้รักษาประตูสาธารณรัฐเช็ก เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 12
ทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ตอบโต้ขึ้นมามาบ้าง วลาดิเมียร์ คูฟาล วางบอลยาวข้ามฟากไปให้ พาทริค ชิค ได้หลุดไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะลากตัดเข้าใน แล้วหาช่องตะบันด้วยซ้ายทันที แต่ก็ยังติดบล็อกแนวรับเดนมาร์ก หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 13
ทีมชาติ เดนมาร์ก ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว แล้วเกือบที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ มิคเคล ดัมส์การ์ด อาศัยความเร็ว กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะจิ้มบอลสวนตัวของ โทมัส วัคลิค ผู้รักษาประตูสาธารณรัฐเช็ก กำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ วลาดิเมียร์ คูฟาล ตามมาเคลียร์จากเส้นไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 17
ทีมชาติ เดนมาร์ก บุกเจาะทางฝั่งขวาอย่างหนัก จังหวะนี้ เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซ่น หลุดขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปาดเลียดไปบริเวณจุดโทษให้ โธมัส เดลานี่ย์ วิ่งมาวางเท้ายิงแบบไม่จับ แต่โดนบอลไม่ดี สุดท้ายปลิ้นหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 22
ทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ได้ลุ้นบ้าง เป็นจังหวะ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเดนมาร์ก ออกบอลพลาดถูก ลูคัส มาโซปุสต์ ดักบอลได้ แล้วลากเข้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายไปให้ โทมัส โฮเลส ได้ควบมายิงมุมแคบด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเดนมาร์ก ยังแก้ตัวตามมาช่วยปิดมุมเอาไว้ได้ทัน
นาที27
ทีมชาติ เดนมาร์ก บุกหนักขึ้นมาทางขวาอีกระลอก คราวนี้เป็น มาร์ติน เบรธเวท ลากบอลจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนแต่ไม่จ่าย ลักไก่ยิงเองยัดมุมแคบไปที่เสแรกทันที แต่บอลก็ยังหลุดออกหลังไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 34
สาธารณรัฐเช็ก บุกขึ้นมาทางขวา วลาดิเมียร์ คูฟาล เติมสูงขึ้นมาทางขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งเข้ากลาง แล้วเป็น ปีเตอร์ เซฟซิค ที่พยายามจะตีลังกายิงแต่ไม่โดน บอลเลยไปเข้าทาง โทมัส โฮเลส วิ่งเข้ามาแปบอลเน้น ๆ ไม่จับแต่บอลดันไปตรงตัวของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเดนมาร์ก ยืนปักหลักรับเข้าซองไว้ได้ทันสบาย ๆ
นาที 38
ทีมชาติ เดนมาร์ก เกือบได้ลุ้นประตูหนีห่าง เป็นจังหวะที่ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด วางบอลยาวจากแดนหลังให้ มิคเคล ดัมส์การ์ด ได้ลากเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วยิงเร็วด้วยขวายัดมุมแคบทันที แต่ โทมัส วัคลิค ผู้รักษาประตูสาธารณรัฐเช็ก ที่ยืนคุมเสาอยู่แล้ว ทุบบอลทิ้งเอาไว้ได้ทัน
นาที 42 GOAL!!!
ขุนพลโคนม ทีมชาติ เดนมาร์ก มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ เริ่มที่ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด วางบอลยาวจากแดนหลังไปให้ โยอาคิม เมห์เล่ ได้หลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดไซด์ก้อยด้วยขวาไปที่หน้าประตู บอลผ่าน มาร์ติน เบรธเวท ไปแต่ยังไปเข้าทาง แคสเปอร์ โดลเบิร์ก พุ่งเข้ามาชาร์จจ่อ ๆ ในกรอบ 6 หลา เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ เดนมาร์ก ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว แล้วหลังจากนั้น เกมก็ยังคงดูดีกว่าทางทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก อย่างเห็นได้ชัด จนมาได้ประตูหนีห่างในช่วงท้าย สกอร์ตอนนี้ สาธารณรัฐเช็ก 0 เดนมาร์ก 2 !!!
นาที 46
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ที่เป็นฝ่ายบุกหนักใส่ทีมชาติ เดนมาร์ก ทันที จังหวะนี้ มิคาล เคอร์เมนชิค ขอลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่โดน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ผู้รักษาประตูเดนมาร์ก เซฟไว้ได้ จังหวะต่อเนื่อง ได้เตะมุม บอลถูกเคลียร์ออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง อันโตนิน บารัค ได้ซัดสวนกลับเข้าไป แต่ ชไมเคิ่ล เจ้าเก่า ก็ยังปัดทิ้งหลุดกรอบออกมาได้หวุดหวิด
นาที 49 GOAL!!!
ทีมชาติ สาธารณรัฐเช็กมาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ วลาดิเมียร์ คูฟาล ดันสูงเติมเกมรุกขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะครอสเข้าไปในเขตโทษให้ พาทริค ชิค ได้ตวัดยิงเร็วลอดหว่างขา ยานนิค เวสเตอร์การ์ด เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม แถมยังเป็นลูกที่ 5 ของเจ้าตัวในทัวร์นาเมนต์นี้ ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวร่วมกับคริสติอาโน่ โรนัลโด้ อีกด้วย
นาที 60
เดนมาร์ก บุกขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เป็นการประสานงานอันยอดเยี่ยมของสองตัวสำรองที่เพิ่งลงมาอย่าง คริสเตียน นอร์การ์ด ดึงจังหวะทำชิ่งคืนให้กับ ยุสซุฟ โพลเซ่น ได้พลิกบอล หลุดเข้ายิงได้เขตโทษ แต่ โทมัส ซูเซ็ค พุ่งเข้ามาบล็อกได้ทัน ทำเอาต้องต้องนอนเจ็บไปพักใหญ่ เพราะดันไปโดนปุ่มสตั๊ตเข้าที่ขมับซ้ายอย่างจัง เกมเลยต้องหยุดไปพักนึง
นาที 69
เดนมาร์ก ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ยุสซุฟ โพลเซ่น เลี้ยงจี้พาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนาม ถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะขอลองยิงเองด้วยขวาเน้น ๆ ไปตรงตัวของ โทมัส วัคลิค ผู้รักษาประตูสาธารณรัฐเช็ก รับเข้าซองไว้ได้ ไม่มีปัญหา
นาที 72
สาธารณรัฐเช็ก ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ สาดบอลยาวเข้าไปในเขตโทษ ดาเนี่ยล วาสส์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงสนามมาของเดนมาร์ก โขกเคลียร์ออกไม่ขาด บอลมาเข้าทาง ยาคุบ ยานค์โต้ เกี่ยวบอลลงได้ ก่อนจะซัดกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าปากประตู แต่ ซิมง เคียร์ ยังแหย่เท้าสกัดที่หน้าประตูเอาไว้ได้ทัน
นาที 78
เดนมาร์ก บุกสวนขึ้นมาอีกครั้ง ดาเนี่ยล วาสส์ลากบอลขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะไหลสั้น ๆ ตั้งให้ ยุสซุฟ โพลเซ่น ได้วิ่งตามขึ้นมายิงด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงทิศทางเยี่ยม แต่ โทมัส วัคลิค ผู้รักษาประตูสาธารณรัฐเช็ก ก็ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปัดออกหลังไปได้ก่อน
นาที 82
เดนมาร์ก สวนกลับขึ้นมาได้น่ากลัว จังหวะนี้ ยุสซุฟ โพลเซ่น แทงบอลทะลุช่องให้ โยอาคิม เมห์เล่ ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะแปยัดเสาแรกเน้น ๆ แต่ โทมัส วัคลิค ผู้รักษาประตูสาธารณรัฐเช็ก ก็ยังวิ่งออกมาปิดมุมได้ไว กางแขนกางขา บล็อกลูกยิงไว้ได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ เดนมาร์ก เฉือนเอาชนะทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ โดยจะพบกับทีมชาติ อังกฤษ ในวันพฤหัสบดีที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่จะถึงนี้