เดอะ เทเลกราฟ รายงานว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของใหม่ เชลซี ได้มอบหมายให้ โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือของทีมเป็นฝ่ายที่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องการซื้อขายมากสุด
นโยบายของ เชลซี ก่อนหน้านี้คือสโมสรจะทำงานร่วมกับ โธมัส ทูเคิ่ล ในการตามหานักเตะและไล่ล่าคนที่จะเหมาะสมต่อทั้งสโมสรและกุนซือ
นอกเหนือจากนั้นสโมสรมีอำนาจในการตัดสินใจมากสุดสำหรับการปล่อยนักเตะย้ายทีม อย่างไรก็ตามรายงานระบุว่าจากนี้ โธมัส ทูเคิ่ล จะมีอำนาจดูแลการซื้อขายนักเตะมากขึ้นโดยเริ่มต้นตั้งแต่ซัมเมอร์นี้เป็นต้นไป
รายงานเปิดเผยว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ แจ้งให้ โธมัส ทูเคิ่ล ทราบอย่างชัดเจนว่าเจ้าของทีมใหม่จะทำทุกอย่างเพื่อคว้าเป้าหมายที่เขาต้องการและปล่อยแข้งที่ไม่ต้องการออกไป มากกว่าจะเป็นฝ่ายกำหนดไอเดียในการซื้อขายเสียเอง
ทั้งนี้ โธมัส ทูเคิ่ล จะทำงานร่วมกับ มาริน่า กรานอฟสกายา ผู้อำนวยการกีฬาและ ปีเตอร์ เช็ก ที่ปรึกษาของสโมสรต่อไป แต่ทั้งสองคนจะโฟกัสไปกับการดึงนักเตะที่เทรนเนอร์ชาวเยอรมันต้องการตัว
การปรับนโยบายจะทำให้ เชลซี เปลี่ยนไปใช้ระบบในแบบเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล สองทีมหัวแถวของลีกเวลานี้
ที่ผ่านมา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า รวมถึง เยอร์เก้น คล็อปป์ ต่างมีสิทธิ์ออกเสียงมากที่สุดในสโมสรของพวกเขาเวลาพูดถึงเรื่องการเสริมทัพ
เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปล่อย ยาย่า ตูเร่ และ โจ ฮาร์ท ย้ายทีม ในขณะที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็เป็นคนให้ขาย คริสเตียน เบนเทเก้ ปีนึงหลังจาก ลิเวอร์พูล ซื้อเขามาในราคามากถึง 32.5 ล้านปอนด์
ข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ จะให้เงินเสริมทัพในซัมเมอร์นี้มากถึง 200 ล้านปอนด์และอาจจะมีเพิ่มอีกขึ้นอยู่กับว่าปล่อยใครออกไปบ้าง โดยหนึ่งในประเด็นที่พวกเขาต้องพูดคุยกันคืออนาคตของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียม