แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ หัวหน้าฝ่ายอคาเดมี่ อาร์เซน่อล ยอมรับเคยมองว่า แจ็ค วิลเชียร์ จะไม่สามารถทำงานโค้ชได้ แต่ตอนนี้อดีตเพื่อนร่วมทีม พิสูจน์แล้วว่าตนคิดผิด หลังจากพาชุดเยาวชนของสโมสรเข้าชิง เอฟเอ ยูธ คัพ
วิลเชียร์ เข้ารับงานคุมทีมชุดยู-18 ของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่ซัมเมอร์ปีก่อน ภายหลังแขวนสตั๊ดเพราะอาการบาดเจ็บเรื้อรังด้วยวัย 30 ปี
ในการคุมทีมฤดูกาลแรก วิลเชียร์ พา “ปืนใหญ่” วัยเยาว์ เข้าถึงรอบชิง เอฟเอ ยูธ คัพ ซึ่งจะแข่งขันในวันอังคารนี้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด อริร่วมลอนดอน
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2018 ที่ชุดเยาวชนของ อาร์เซน่อล ได้เข้าชิงรายการนี้ และครั้งสุดท้ายที่พวกเขาคว้าแชมป์ได้คือเมื่อปี 2009 สมัย วิลเชียร์ ยังเป็นส่วนหนึ่งในทีม
แมร์เตซัคเกอร์ เป็นอีกหนึ่งอดีตแข้ง อาร์เซน่อล ที่กำลังทำงานกับสโมสรเช่นกัน และเขาก็แสดงทัศนะถึงการผันตัวเป็นโค้ชของ วิลเชียร์
“ผมเคยคิดว่า วิลเชียร์ อาจไม่สามารถปรับตัวกับงานโค้ชได้ แต่เขาพิสูจน์แล้วว่าผมคิดผิด” อดีตกองหลังร่างยักษ์ชาวเยอรมัน กล่าวกับ The Guardian
“ตอนแรกผมมีความรู้สึกแบบนั้น เพราะ วิลเชียร์ เคยเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์สุดๆ แต่อาจไม่สามารถเต็มเติมพรสวรรค์นั้นได้ เพราะอาการบาดเจ็บทั้งหลาย”
“ในฐานะนักเตะทีมชุดใหญ่, คุณมาซ้อมเวลา 9 หรือ 10 โมง และจบตอนบ่าย 2, หน้าที่ประจำวันคุณมีแค่นั้น แต่นั่นเป็นไปไม่ได้หากคุณต้องการเป็นโค้ชที่ดี”
“เมื่อ วิลเชียร์ กลายเป็นโค้ช เขาแสดงออกมาถึงความทุ่มเทและทำงานอย่างหนัก, เขาพร้อมจะเรียนรู้ และฝึกซ้อมกับทีม ทั้งชุดใหญ่ชุดเล็กจนถึงช่วงเย็น”
“นั่นทำให้ผมเริ่มคิดว่า ‘หาก วิลเชียร์ สามารถทำแบบนั้นได้สักครึ่งปี…’, แล้วจนถึงตอนนี้ วิลเชียร์ ก็ได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ”
“การได้เห็น วิลเชียร์ นำเสนอความเป็นตัวเอง, วิธีการเป็นโค้ช และวิธีการเล่นฟุตบอลของเขาออกมาคือเรื่องที่ยอดเยี่ยม