เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพยักษ์เขียว สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เปิดสนาม อวีวา, กรุงดับลิน ประเทศสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ต้อนรับการมาเยือนของทัพฝอยทอง โปรตุเกส ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เอ นัดที่ 7 เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ สตีเฟ่น เคนนี่ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย เจฟฟ์ เฮนดริก กองกลางห้องเครื่อง เชมัส โคลแมน ตัวจี๊ดริมเส้น และ คัลลั่ม โรบินสัน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟร์นานโด ซานโตส มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เปเป้ ปราการหลังตัวเก๋า บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงตัวเทพของทีม
นาที 12
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพฝอยทอง ทีมชาติโปรตุเกส ที่ได้โอกาสทักทายก่อน จากจังหวะ เล่นฟรีคิกเร็วตรงกลางสนาม บรูโน่ แฟร์นันด์ส บรรจงเปิดบอลโด่งข้ามแนวรับไปที่หน้าเสาซ้ายมือให้ อังเดร ซิลวา ทำลายกับดักล้ำหน้า วิ่งสอดหลุดเข้าไปจบด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดมุมแคบที่เวาแรกติดเซฟของ เกวิน บาซูนู ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 21
ทีมเยือน โปรตุเกส ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไหลสั้น ๆ มาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ อังเดร ซิลวา ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะขอลองวางเท้าตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นอะไร
นาที 26
เจ้าถิ่น ทัพยักษ์เขียว ทีมชาติไอร์แลนด์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว คัลลั่ม โรบินสัน ขยับถ่างออกมารับบอลทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกตัดเข้าในได้ช่อง ก่อนจะลองปั่นโค้งด้วยขวาเน้น ๆ กึ่งยิงกึ่งผ่าน ส่งบอลทำท่าหวิดเสียบเสาไกลอยู่แล้ว ทว่าเป็น รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้เฉียดฉิว สุดท้ายตามมาคว้าทัน
นาที 33
เจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ มาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เจมี่ แม็คกราธ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเจ้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น จอห์น อีแกน โฉบมาระหว่างกลางกองหลังทีมเยือน ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ทว่าเจ้าตัวกดไม่ลง สุดท้ายบอลเหินข้ามคานออกไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นอะไรเหมือนเดิม
นาที 35
เข้าสู่ช่วง 10 นาที่สุดท้ายของครึ่งแรก กลายเป็นเจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ ที่ครองบอลได้น้อยกว่า แต่มีโอกาสลุ้นสกอร์มากกว่า จังหวะนี้ จอช คัลเลน ตรงกลางสนาม จ่ายมาที่หน้าเขตโทษให้ คัลลั่ม โรบินสัน ได้ตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ระยะร่วม 30 หลา พุ่งผ่านบล็อกของ เปเป้ โค้งหลุดเสาแรกขวามือ ลอยออกหลังไปแบบได้เสียว
นาที 36
ทีมเยือน โปรตุเกส บุกขึ้นมาทางกราบซ้าย จังหวะนี้ ดีโอโก้ ดาโล่ต์ แทงให้ มาเธอุส นูเนส ได้โชว์ความพลิ้ว ติดเครื่องลากฝ่าเข้าไปในเขตโทษตรงกลางดื้อ ๆ ก่อนจะได้หวดเน้น ๆ ด้วยขวา ทว่ายังไปติดบล็อกของแนวรับเจ้าถิ่น สุดท้ายแฉลบกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 43
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ พลาดโอกาสที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ คัลลั่ม โรบินสัน เก็บบอลได้ทางซ้ายแล้วโชว์ลีลาพลิกตัวหมุนหนี เปเป้ หลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังได้สวย ก่อนจะครอสเข้าไปที่เสาแรกให้ ชีโดซี่ อ็อกเบเน่ โฉบมาโขกเหน่ง ๆ ที่กรอบ 6 หลา ส่งบอลแรงเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทางฝั่งทีมเยือน โปรตุเกส ที่ครองบอลได้มากกว่าตามคาด ทว่ากลับกลายเป็นทางฝั่ง เจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ ที่มีโอกาสได้ลุ้นทำประตูมากกว่า สุดท้ายยังไม่มีใครทำอะไรกันได้ สกอร์ตอนนี้ ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 54
เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น ทัพยักษ์เขียว ไอร์แลนด์ ได้ส้มหล่น จากจังหวะความผิดพลาดของ มาเธอุส นูเนส ไปประมาทเลี้ยงบอลเข้าหาฝั่งประตูตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะเสียหลักลื่นโดน จอช คัลเลน ฉกไปที่หน้าเขตโทษ ได้วางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลน้ำหนักเบาเกิน แถมดันไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 59
ทีมเยือน ทัพฝอยทอง โปรตุเกส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ อังเดร ซิลวา ไหลบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ ชูเอา มูตินโญ่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปตรงตัวของ เกวิน บาซูนู ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 67
ทีมเยือน โปรตุเกส พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ อังเดร ซิลวา พาบอลกระชากขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่งข้ามหัว เจฟฟ์ เฮนดริก โค้งสวยเลยเข้าไปที่กลางประตูถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้เทคตัวขึ้นโขกกดลงพื้นเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งหนีมือ เกวิน บาซูนู ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระดอนเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 76
เจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ชีโดซี่ อ็อกเบเน่ พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปในเขตโทษให้ เอนดา สตีเวนส์ วิ่งสอดมาแปเน้น ๆ ที่เสาแรกแบบไร้ตัวประกบ ทว่าบอลก็ยังไม่เข้าเป้า พุ่งแรงเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกลอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 80
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ทีมเยือน โปรตุเกส พยายามเร่งเครื่องอย่างหนัก จังหวะนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถอยมาล้วงบอลทางกราบซ้าย เจ้าตัวติดเครื่อง กระชากแหวกขึ้นมาเองเข้าเขตโทษ ก่อนจะโยกตัดเข้าใน ตามด้วยปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ เกวิน บาซูนู ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้น
นาที 81 ใบแดง!!!
ทีมเยือน โปรตุเกส ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ เปเป้ เสียหลักแต่เจตนาเอาแขนไปฟาดที่หน้าของ คัลลั่ม โรบินสัน ร่วงลงไป ผู้ตัดสิน เฆซุส คิล จากสเปน ไม่รอช้า วิ่งมาแจกใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่ตะเพิดกองหลังจอมโหดรายนี้ ออกจากสนามไปทันที
นาที 90+3
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น ไอร์แลนด์ เกือบได้ประตูชัย เป็นจังหวะส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จแล้วของ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ทว่าโชคไม่ดีโดน ผู้ตัดสิน เฆซุส คิล จากสเปน จับฟาวล์ในจังหวะก่อนหน้าที่ วิล คีน ไปขวางการเล่น รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูทีมเยือน อดได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 90+6
ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน โปรตุเกส ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โชว์ความพลิ้ว ลากบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวา เลาะเส้นเข้าเขตโทษ ได้ตัดสินใจก้มหน้าซัดเองเน้น ๆ ยัดมุมแคบทว่าเป็น เกวิน บาซูนู ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาแรกรออยู่แล้ว เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ทัน
หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน โปรตุเกส บุกมาทำได้แค่เสมอกับเจ้าถิ่น สาธารณรัฐไอร์แลนด์ เจ๊ากันไปด้วยสกอร์ 0-0 !!! ทัพฝอยทอง ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่มอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเซอร์เบีย ในคืนวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านทัพยักษ์เขียว อยู่อันดับที่ 4 ของตารางตกรอบแน่นอนแล้ว นัดต่อไปจะออกไปเยือนลักเซมเบิร์ก ในวันเวลาเดียวกัน