กลัวลุ้นแชมป์ไม่สนุก!! “แมน ซิตี้” บุกมาทำได้แค่เสมอกับ “คริสตัล พาเลซ” ไปได้แบบโนสกอร์

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ เปิดสนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค, เซาธ์นอร์วูด กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 29 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ชีกู คูยาเต้ กองกลางห้องเครื่อง วิลฟรีด ซาฮา กองหน้ากึ่งปีกตังทำเกม และ ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ริยาด มาห์เรซ ปีกจอมพลิ้ว และ ฟิล โฟเด้น กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 8

เปิดฉากครึ่งแรกมา ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ริยาด มาห์เรซ ขยับมารับทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวลากหนี ไทริค มิตเชลล์ ตัดเข้าไปในเขตโทษตามสูตร ก่อนจะเห็นช่องซัดลูกถนัด บรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยผ่านบล็อก เลี้ยวถากเสาไกลซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้ลุ้น

นาที 10

เจ้าถิ่น ทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วเป็น คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กระชากสวนกลับเร็วขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงครอสข้ามฟากไปให้กับ วิลฟรีด ซาฮา แต่งบอลหลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะวางเท้าซัดมุมแคบยัดไปที่เสาแรกเน้น ๆ ส่งบอลไต่หลังเท้า ปลิ้นหลุดกรอบออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 13

เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ ไคล์ วอล์คเกอร์ จ่ายคืนหลังไม่ดีโดน ฌอง ฟิลิปป์ มาเตต้า ฉกมาแทงบอลสวนกลับเร็วเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาถึง ไมเคิ่ล โอลิเซ่ สอดมาฉวยโอกาสยิงจิ้มฉีดยามุมแคบ ส่งบอลพุ่งแรงสวนตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารทีมเยือน ลอยเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 14

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ สบโอกาสตั้งป้อมส่องไกลหน้ากรอบ 18 หลา ส่งบอลพุ่งแรงไปถูก บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น เซฟกระฉอกออกมาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา จับบอลยาวไปหน่อย สุดท้ายไม่เหลือมุมยิง พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 22

ทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า พยายามเร่งเครื่องบุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ จอห์น สโตนส์ บรรจงวางบอลยาวแนวลึกเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้กับ ริยาด มาห์เรซ ได้หลุดไปดูดบอลลง เจ้าตัวโยกหาช่องตัดเข้าใน ก่อนจะสบโอกาสปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น เขยิบมารับเอาไว้ได้ทัน

นาที 26

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เครื่องร้อนแล้ว พับสนามบุกอยู่ฝั่งเดียว จังหวะนี้ ชูเอา คันเซโล่ บรรจงหยอดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งสอดหลุดไปโชว์เหนือ พยายามยิงดีดไซด์ก้อยตามน้ำเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลทำท่ากำลังจะเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น ยังไม่ยอมง่าย ๆ ผวาปัดทิ้งเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 27

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ ดันสูงขึ้นมารับบอลที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวตั้งป้อมขอลองส่องไกลด้วยขวาระยะร่วม 25 หลา ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งออกมาเข้าทาง เอมเมอริค ลาปอร์กต์ ได้ตั้งเท้าซ้ำคนเดียวโล่ง ๆ ทำบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ พลาดโอกาสทองสองหนติด ๆ กันไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 32

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พับสนามบุกขึ้นมาเป็นชุด จังหวะนี้ แจ็ค กรีลิช ได้บอลหลุดเข้าไปที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวหักเข้ากลางให้กับ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โฉบมายิงวืดหน้าประตูเลยไปที่เสาไกลเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ สอดมาตวัดยิงเร็วเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น ดักเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 39

เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ นาน ๆ จะได้ตอบโต้ขึ้นมาที จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วทำเร็วขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้ายถึง วิลฟรีด ซาฮา ได้โชว์ความพลิ้ว พาบอลทะลุเข้าเขตโทษ ล็อคตัดเข้ากลางตามสูตร ก่อนจะเห็นช่อง บรรจงวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารทีมเยือน ไปถากเสาไกลขวามือ ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว เรียกเสียงฮือฮาจากแฟน ๆ ได้ทั้งอัศจรรย์

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ เป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น ทัพปราสาทเรือนแก้ว อยู่แทบจะฝั่งเดียว ทว่าจังหวะสุดท้ายวันนี้ยังไม่เฉียบคมเท่าไหร่ สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ คริสตัล พาเลซ 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 !!!

นาที 50

เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น ทัพปราสาทเรือนแก้ว ได้ออกหมัดก่อน จากจังหวะ บอลวางยาวเข้าเขตโทษแล้งโดนสกัดลอยออกมาเข้าทาง โยอาคิม อันเดอร์เซ่น ได้โหม่งหนุนลอยโด่งกลับเข้าไปในกรอบให้ มาร์ค เกฮี โขกชงต่ออีกทีให้ ชีคู คูยาเต้ สบโอกาสโฉบมาโหม่งขวิดเปลี่ยนทางเน้น ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลถากเสา หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 57

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลหลุดมาถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวก้มหน้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปชนเสาอย่างจัง บอลกระเด้งออกมาเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ปรี่ตามมาซ้ำก็ยังไม่ดีพอที่จะผ่านเซฟของ บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น ผวาปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 65

เวลาดำเนินมาเกินครึ่งทางของครึ่งหลัง ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอลพับสนามขึงเกมรุกอยู่ฝั่งเดียว แต่ยังเจาะแนวรับเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่วันนี้เตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดีไม่เข้า โอกาสหลุดเข้าไปจบแบบจะแจ้งในพื้นที่สุดท้ายของทั้งคู่ แทบไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น เกมรับทัพปราสาทเรือนแก้ววันนี้เหนียวแน่นมาก ๆ

นาที 71

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของเจ้าถิ่นที่ทำเสียบอล เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุช่องสุดงามเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แจ็ค กรีลิช สอดไปตวัดเร็วกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่หน้าปากประตู แล้วเป็น แบร์นาร์โด้ ซิลวา สอดมาทิ้งตัวชาร์จจ่อ ๆ ระยะเผาขนแต่ดันวืด สุดท้ายบอลผ่านหน้าประตู กลิ้งหลุดออกอีกฝั่งไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 77

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาได้บุ้นอีกระลอก จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ เก็บบอลได้ทางฝั่งขวา เจ้าตัวตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น วิ่งสอดหลุดเข้าไปซัดจ่อ ๆ ติดเซฟของ บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น อย่างน่าเสียดาย ทว่าสุดท้ายมีธงล้ำหน้าจากไลน์แมนยกตามขึ้นมา ถ้าเข้าก็ต้องมาเช็ค VAR กันอีกที

นาที 90

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โหมบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ บริเวณริมเส้นฝั่งขวา เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปในกรอบ 6 หลาข้ามหัวของ มาร์ค เกฮี สุดท้ายเลยมาตกใส่ทาง เอมเมอริค ลาปอร์กต์ พยายามโขกแต่โดนไม่ดี ส่งบอลเบาแถมตรงตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า นายทวารเจ้าถิ่น รับเข้ามือสบาย

นาที 90+2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ เกือบแจกหมัดน็อค เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ จอห์น สโตนส์ ที่ประมาทโหม่งคืนหลังเบาโดน คอเนอร์ กัลลาเกอร์ สอดมาฉกไปได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะโดนบีบให้พยายามยิงเร็วยัดมุมแคบ สุดท้ายหวดไม่ดี ส่งบอลปลิ้นเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกลอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บดทั้งเกมแต่ยิงไม่ได้ บุกมาทำได้แค่เสมอกับเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ไปด้วยสกอร์ 0-0 !!! ยังคงนำเป็นจ่าฝูงของตาราง ทิ้งห่างทัพหงส์แดงอยู่ที่ 4 คะแนน แต่ลงเล่นมากกว่า 1 นัด โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับ ไบรท์ตัน ในคืนวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2565 ถ้าไม่เลื่อนซะก่อน ส่วนทางด้านพาเลซ รั้งอันดับที่ 11 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2565 ถ้าไม่เลื่อนเหมือนกัน