มิชี่ บาตชูอายี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าตนโดนกุนซืออย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ หลอกหลายครั้งสมัยที่ทั้งคู่ยังอยู่เชลซี
กองหน้าชาวเบลเยี่ยมย้ายไปร่วมทีม “สิงห์บลูส์” เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัวราว 35 ล้านปอนด์ หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกับมาร์กเซยจนถูกยกไปเปรียบเทียบกับตำนานอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา
อย่างไรก็ตามตลอด 6 ปีที่มีสัญญากับเชลซี แข้งวัย 28 ปี ไม่สามารถโชว์ฟอร์มเป็นตัวหลักให้ทีมได้ โดยลงเล่นไป 77 นัดทุกรายการ ยิง 25 ประตู
ความจริงแล้วในช่วงเวลาดังกล่าวเขาถูกปล่อยยืมมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกับทั้งโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, บาเลนเซีย, คริสตัล พาเลซ และ เบซิคตัส
กระนั้นเขาก็มีช่วงเวลาสำคัญกับการเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นั่นคือการเป็นคนยิงประตูช่วยให้เชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2016/17 ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ รวมถึงการคว้าแชมป์เอฟเอคัพในฤดูกาลถัดมา
ซัมเมอร์ที่ผ่านมาเขาย้ายออกจากเชลซีไปร่วมทีมเฟเนร์บาห์เช่ และล่าสุดได้มีการออกมาสัมภาษณ์กับสื่อบ้านเกินเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ลอนดอน รวมถึงตอนที่อยู่ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้
“คอนเต้มักจะขัดแย้งกับตัวเองตลอด” เขาบอกกับ Sport
“เริ่มจากตอนที่ผมย้ายไปร่วมทีม เขาโทรมาอธิบายโปรเจคท์ของเขา เขาอยากให้ผมเล่นในแผนกองหน้าสองคนร่วมกับดิเอโก้ คอสต้า”
“ผมเชื่อเขาไหมเหรอ? แน่นอนสิ เพราะคอนเต้เล่นด้วยแผนกองหน้าสองคนมาตลอดอาชีพคุมทีมของเขา ยกเว้นตอนอยู่เชลซีกับผม”
“ผมไม่เข้าใจเลย ความจริงคือผมโดนหลอกหลายครั้งเกินไป” เขากล่าว
คอนเต้ เล่นในแผน 3-5-2 เป็นส่วนใหญ่สมัยคุมทีมที่อิตาลี ก่อนที่จะมาเน้น 3-4-3 กับการคุมเชลซี โดยมี คอสต้า เป็นหน้าเป้าขนาบข้างโดย เอแด็ง อาซาร์ กับ วิลเลี่ยน ในฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีก
แม้ว่าหลังจากนั้น คอสต้า จะย้ายออจากทีมแต่ บาตชูอายี่ ก็ไม่ได้เป็นตัวหลัก แถมเชลซียังไปทุ่มคว้า อัลบาโร่ โมราต้า และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ด้วย