ดราม่าแฮนด์บอล!! “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” บุกมาเฉือนเอาชนะ “เอฟเวอร์ตัน” ไปได้แบบโชคช่วย 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน “เอฟเวอร์ตัน” เปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค, กูดิสันโรด วอลตัน เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนประจำวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟรงค์ แลมพาร์ด มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อัลลัน กองกลางห้องเครื่อง แอนโทนี่ กอร์ดอน ปีกตัวจี๊ด และ ริชาร์ลิซอน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกจอมพลิ้ว และ ฟิล โฟเด้น กองหน้าตัวความหวังของทีม 

นาที 5

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ แทงบอลทะลุช่องให้กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้หลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดหักเข้ากลางให้ โรดรี้ เอร์นานเดซ วิ่งสอดมาซัดเน้น ๆ ติดบล็อกของแนวรับเจ้าถิ่นเต็ม ๆ กระเด้งออกมาไม่มีอะไร

นาที 8

เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ได้โอกาสทักทายบ้าง เป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุมแล้วโดนสกัดออกมา ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค เก็บแถวสองเอาไว้ได้ก่อนจะเปิดเข้าไปลุ้นอีกทีโดน จอห์น สโตนส์ โหม่งเคลียร์ออกมาอีกครั้งเข้าทาง เชมัส โคลแมน ซัดสวนนอกกรอบเขตโทษเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 15

ช่วงต้นเกม ทรงบอลยังไม่มีโอกาสหวาดเสียวกันทั้งคู่ ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาใช้การเล่นเพรสซิ่งสูงถึงแดนหลังคู่ต่อสู้ตามสไตล์ ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน มีจังหวะทำเกมรุกขึ้นมาได้ลุ้นเล็กน้อย บอลสุดท้ายยังขาดความแม่นยำ เครื่องยังไม่ร้อนด้วยกันทั้งสองทีม

นาที 18

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ฟิล โฟเด้น โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงผ่านทาง จอนโจ เคนนี่ หลุดไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะพยายามเปิดเข้ากลางให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา กำลังจะได้ซัดเหน่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่าเป็น ไมเคิ่ล คีน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ปักหลักเป็นด่านสุดท้าย ดักเคลียร์เอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 26

เกมหยุดชะงัก เมื่อเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษ จากจังหวะ เริ่มที่บริเวณทางริมเส้นฝั่งขวา อเล็กซ์ อิโวบี้ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ อัลลัน ขยับมารับบอลก่อนจะโดน ชูเอา คันเซโล่ พุ่งมาแซะ กระแทกร่วงลงไปนอน ช็อตนี้ผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ ยังใจแข็งไม่ได้ว่าอะไร แถมให้เล่นกันต่อไป

นาที 29

โอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของเกมเป็นของทางฝั่งทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว รับบอลมาแล้วลสกหนีแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนจะตัดสินใจส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งเบาแถมตรงตัวของ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 31

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้น เป็นจังหวะ ดักบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อัลลัน พาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะเห็นช่องตัดสินใจไหลนิ่ม ๆ เข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายให้กับ จอนโจ เคนนี่ สอดมาแต่งบอลหนึ่งที ก่อนจะสบโอกาสตะบันมุมแคบยัดไปที่เสาแรกเน้น ๆ ส่งบอลถากเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 34

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ บอลลอยโด่งชุลมุนขลุกขลิกในเขตโทษ แล้วเป็น อเล็กซ์ อิโวบี้ แย่งโหม่งสุดท้ายได้ตวัดลอดขาของ รูเบน ดิอาซ จ่ายต่อให้กับ ริชาร์ลิซอน ได้ซัดส้มหล่นบริเวณกรอบ 6 หลา แต่ดันหวดบอลไปตรงตัวของ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารทีมเยือน อย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 41

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวาที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ขยับออกมารับบอลก่อนจะจากตัดเข้าจนได้ช่อง ตัดสินขอลองซัดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก ทว่าโดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลบดน้ำหนักเบาไปถูก จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเจ้าถิ่น รับเข้ามือเอาไว้ได้สบาย

นาที 45+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่ เอฟเวอร์ตัน ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น แอนโธนี่ กอร์ดอน รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารทีมเยือน เฉียดสามเหลี่ยมเสาแรกขวามือ เลี้ยวหลุดออกหลังไปเองแค่นิดเดียวเท่านั้นอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ทัพเรือใบสีฟ้า ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 63 เปอร์เซ็นต์ตามสไตล์ เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกพับสนามบุกเข้าใส่คู่แข่งได้อย่างต่อเนื่อง ทว่าเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่ ที่สวนขึ้นมาแต่ละที ดูวูบวาบน่ากลัวกว่าพอสมควร สุดท้ายยังทำอะไรกัยไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ เอฟเวอร์ตัน 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0 !!!

นาที 49

กลับมาในครึ่งหลัง เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน เดินหน้าบุกใส่ก่อนทันที จังหวะนี้ อัลลัน ใช้ความขยันตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโด่งข้ามแนวรับไปให้กับ ริชาร์ลิซอน ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับทาง เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวารทีมเยือน สุดท้ายก็ยังยิงไปติดเซฟ แถมมีธงล้ำหน้ายกตามหลังขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 56

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลากตัดจากขวาเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงทะแยงยัดตามช่องเข้าไปในกรอบฝั่งซ้ายให้กับ ฟิล โฟเด้น ที่สอดมารออยู่แล้ว ได้บรรจงวางเท้าอัดเน้น ๆ ไปที่เสาแรกติดเซฟ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเจ้าถิ่น กระเด้งกลับมาเข้าทางของ ชูเอา คันเซโล่ โฉบมาซ้ำมุมเดิมก็ยังไม่ผ่านอีกเหมือนเดิม

นาที 65

เกมดำเนินมาเกินครึ่งทางของครึ่งหลัง ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดันกันขึ้นมาขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ เคาะกันไปเคาะกันมาถึง ฟิล โฟเด้น ทางริมกรอบฝั่งซ้ายได้กระชากไปเปิด ก่อนจะโดน จอนโจ เคนนี่ โหม่งสกัดทิ้งไม่ดีออกมาเข้าทาง จอห์น สโตนส์ ได้ขอลองส่องไกลสวนไปถูก จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 68

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ทำชิ่งกันไปมาหลุดมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ สบโอกาสได้ลากตัดเข้ากลางมาซัดหน้ากรอบ 18 หลา ส่งบอลพุ่งแรงไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารเจ้าถิ่น กระเด้งเลยไปเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ได้ซ้ำจ่อ ๆ ทว่าเป็น ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ที่ยังลุกไว ผวาพรวดขึ้นมาป้องกันเอาไว้ได้ทันอีกครั้งหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 70

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวดึงจังหวะไหลนิ่ม ๆ ตามช่องให้กับ เควิน เดอ บรอยน์ ที่วิ่งสอดตัดหลังไปถึงบอลที่สุดเส้นหลัง ก่อนจะตักย้อนเข้ากลางมาให้ ฟิล โฟเด้น สอดมาโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลย้อยข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 74

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ อับดูลาย ดูกูเร่ ถ่ายบอลออกไปทางซ้ายให้กับ แอนโธนี่ กอร์ดอน ได้ลากจี้เข้าเขตโทษแต่โดนขวาง สุดท้ายเจ้าตัวล็อคไปล็อคมา ก่อนจะเห็นช่อง สบโอกาสเลือกยิงยัดไปที่เสาแรก ส่งบอลพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปชนิดได้ลุ้น

นาที 82 GOAL!!!

ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา รับบอลแทงหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกเปิดเลียดไปแฉลบเท้า เมสัน โฮลเกท เปลี่ยนทางทำให้ ไมเคิ่ล คีน เสียจังหวะแหย่สกัดไม่โดนบอล ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น ฟิล โฟเด้น ที่แอบอยู่ข้างหลัง ได้โฉบมาแต่งบอลหนึ่งที เก็บส้มหล่นซัดจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย 

นาที 84 VAR!!!

เรียกได้ว่าจบเกมเป็นดราม่าหนักแน่นอน เมื่อเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน พยายามถามหาจุดโทษ จากจังหวะที่ โรดรี้ เอร์นานเดซ ติดประมาทไปยกแขนช่วยเล่นบอลในกรอบเขตโทษตัวเอง ผู้เล่นท๊อฟฟี่โวยวายฟ้องจะเอาแฮนด์บอลกันใหญ่จนทำให้ผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ ต้องรอให้บอลตาย ก่อนจะขอรอฟังสัญญาน VAR จากข้างสนาม สุดท้ายยืนยันคำตัดสินเดิม ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป ซึ่งถ้าเราดูจากภาพช้าจะเห็นว่า ยังไงก็ควรเป็นลูกจุดโทษแน่นอน

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ส่วนทางด้านทัพท๊อฟฟี่ รั้งอันดับที่ 17 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้ 

สนับสนุนบทความโดย ufabet