วลาโฮวิชซัดเบิ้ล!! “ยูเวนตุส” บุกมาเฉือนเอาชนะ “เอ็มโปลี” ไปด้วยสกอร์ 3-2

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น เอ็มโปลี เปิดสนาม คาร์โล คาสเตลลานี่, เมืองเอ็มโปลี ย่านชานเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทัพม้าลาย ยูเวนตุส ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 27 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอ็มโปลี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ออเรลิโอ อันเดรซโซลี่ มาเล่นในระบบ 4-3-2-1 นำทีมโดย ฟิลิปโป้ บันดิเนลลี่ กองกลางห้องเครื่อง เนดิม บาจรามี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ อันเดรีย ปินามอนติ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ยูเวนตุส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางห้องเครื่อง เดนิส ซาคาเรีย มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ ดูซาน วลาโฮวิช ดาวซัลโวตัวเก่งของทีม

นาที 7

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพม้าลาย ยูเวนตุส ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบขึ้นนำเร็ว จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม แล้วเป็น ดูซาน วลาโฮวิช กระชากลุยขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลตามช่องเข้าไปในกรอบฝั่งขวาให้ เดนิส ซากาเรีย ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปวางเท้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดเซฟของ จูเลียโม่ วิคาริโอ นายทวารเจ้าถิ่น ปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด ได้เป็นลูกเตะมุมแทน

นาที 18

ทีมเยือน ยูเวนตุส ครองบอลบุกอยู่แทบจะฝั่งเดียว จังหวะนี้ มอยเซ่ คีน แทงบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ ดูซาน วลาโฮวิช ได้วิ่งสอดหลุดเข้าไปวาวเท้าตวัดยิงมุมแคบด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลถากเสาแรก ลอยหลุดกรอบออกหลังไปเอง ยังไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่

นาที 25

ทีมเยือน ยูเวนตุส บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ฮวน กวาดราโด้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวเลือกไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้กับ เดนิส ซากาเรีย วิ่งมาตะบันด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงแต่ไร้พิษสง เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล ก็ยังไม่ได้ลุ้นอยู่ดี 

นาที 32 GOAL!!!

หลังจากบดอยู่นาน ทีมเยือน ทัพม้าลาย ยูเวนตุส ก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้เป็น 1-0 !!! จากจังหวะทำเร็วกันขึ้นมาแล้วเป็น ลูก้า เปเยกรินี่ ไหลออกไปทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ อาเดรียง ราบิโอต์ ได้หลุดมาบรรจงครอสบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูโล่ง ๆ ให้ มอยเซ่ คีน วิ่งสอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ กดลงพื้นแบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลพุ่งเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 39 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เอ็มโปลี มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้ บรรจงเปิดโด่งโค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู บอลตกพื้นชุลมุนขลุกขลิก ก่อนที่จะมาเข้าทาง ซิมอน ซูร์คอฟสกี้ จิ้มยิงทีแรกติดบล็อกกระดอนกลับมาที่เจ้าตัวอีกครั้ง คราวนี้แข้งโปแลนด์แปด้วยขวาเน้น ๆ จ่อ ๆ อีกรอบ คราวนี้ส่งบอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 45+2 GOAL!!!

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือน ยูเวนตุส มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม อาร์ตูร์ ไหลออกไปทางกราบขวาให้กับ ฮวน กวาดราโด้ หลุดขึ้นมาถึงริมกรอบเขตโทษแล้วหักเข้าไปที่กลางประตูให้ ดูซาน วลาโฮวิช ได้โชว์ความเหนือชั้นด้วยการดึงจังหวะหลอกล็อคขวามาเข้าซ้ายบริเวณจุดโทษ ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังถือว่าสู้กันได้อย่างสูสี ทีมเยือน ยูเวนตุส ครองบอลบุกได้มากกว่า แถมวันนี้จังหวะจบในพื้นที่อันตรายทำได้เฉียบคมเหลือเกิน ชิงยิงประตูขึ้นนำเจ้าถิ่นไปก่อนแล้ว สกอร์ตอนนี้ เอ็มโปลี 1 ยูเวนตุส 2 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอ็มโปลี ที่บุกเข้าใส่ทีมเยือนทันที จังหวะนี้ เปตาร์ สโตยาโนวิช ดันสูงได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่เสาแรกให้กับทาง อันเดรีย ปินามอนติ ได้วิ่งสอดมาซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปชนิดได้เสียว

นาที 57

ทีมเยือน ยูเวนตุส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ลูก้า เปเยกรินี่ ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น มานูเอล โลคาเตลลี่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเหน่ง ๆ ส่งบอลหลุดกรอบออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไรมากมาย

นาที 62

เกมดำเนินมาเกินหนึ่งชั่วโมง โอกาสจบสกอร์แบบเหน่ง ๆ ของทั้งสองทีมยังมีให้แฟน ๆ ได้เห็นไม่มากในครึ่งหลัง เป็นทีมเยือน ยูเวนตุส ที่ครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย จังหวะนี้ ฮวน กวาดราโด้ มีพื้นที่มีเวลา ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ จูเลียโม่ วิคาริโอ นายทวารเจ้าถิ่น พุ่งเซฟเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 66 GOAL!!!

ทีมเยือน ยูเวนตุส มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม แล้วเป็น ฮวน กวาดราโด้ ดึงรอแล้วไหลต่อให้กับ อัลบาโร่ โมราต้า กระชากขึ้นมาเองถึงหน้ากรอบ ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องให้ ดูซาน วลาโฮวิช ได้แตะบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ สุดท้ายบรรจงยกข้ามตัวของ จูเลียโม่ วิคาริโอ นายทวารเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเหนือชั้น เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ อีกทั้งยังเป็นเม็ดที่ 20 ในเซเรีย อา ฤดูกาลนี้ ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยว ๆ อีกด้วย

นาที 75

เจ้าถิ่น เอ็มโปลี เกือบได้ประตูตีตื้น จากจังหวะที่ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ บริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย เนดิม บาจรามี่ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าหาประตู ส่งบอลพุ่งไปแฉลบเปลี่ยนทาง ทำท่าจะเลี้ยวเสียบเสาไกลขวามือเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ถอยมาโหม่งเคลียร์ไปชนคานอย่างจัง สุดท้ายกระเด้งออกไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 76 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เอ็มโปลี มาได้ประตูตีตื้นเป็น 3-2 !!! เป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกฟรีคิกที่ถูกเคลียร์ทิ้งออกมา แล้วก็เป็น เซบาสเตียโน่ ลูเปอร์โต้ เก็บบอลแถวสองได้ทางกราบขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู ไม่โดนใครสุดท้ายเลยไปถึง อันเดรีย ลา มานเทีย ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้สอดมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ที่หน้าเสาสอง ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นสวนตัวผ่านมือของ วอยเซียจ เชสนี่ นายทวารทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 77

ทีมเยือน ยูเวนตุส ตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จังหวะนี้ ต่อบอลกันขึ้นมาทางขวาที่ ฮวน กวาดราโด้ เจ้าตัวไหลนิ่ม ๆ เข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้กับ อาร์ตูร์ วิ่งหวดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ไม่เข้าเป้า เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 80

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เอ็มโปลี บอมบ์โด่งเข้าใส่ทีมเยือน แล้วก็เป็น เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ ที่โหม่งสกัดบอลไม่ขาดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง อันเดรีย ลา มานเทีย ได้ซัดสวนนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไดน้ำหนักแต่ไร้ทิศทาง ลอยหลุดกรอบออกหลังไปไกล นี่ก็ยังไม่ได้ลุ้น

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน ยูเวนตุส บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เอ็มโปลี ไปได้ด้วยสกอร์ 3-2 !!! รั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนนอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับ สเปเซีย ในคืนวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอ็มโปลี รั้งอันดับที่ 13 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือน เจนัว ในคืนวันเดียวกันแต่คนละเวลา