ทีมพรีเมียร์รอหารือนำ ‘เพดานค่าเหนื่อย’ มาใช้

เดอะ ไทม์ส รายงานว่าสโมสรพรีเมียร์ลีกกำลังพิจารณาการนำกฏเพดานค่าเหนื่อยมาใช้ ด้วยการกำหนดให้ขึ้นอยู่กับรายได้ด้านลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของทีมที่จบอันดับสุดท้าย

ข้อเสนอดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะรักษาสมดุลของลีกสูงสุดแดนผู้ดี ด้วยการควบคุมเพดานค่าเหนื่อยซึ่งเป็นรายจ่ายใหญ่สุดของบรรดาทีมในพรีเมียร์ลีก

ข้อเสนอนี้ยังถูกมองเป็นตัวป้องกันไม่ให้ช่องว่างด้านการเงินระหว่างท็อปทีมและสโสมรที่เหลือในพรีเมียร์ลีกห่างกันเกินไป

มีการพูดถึงความกังวลในเรื่องช่องว่างของสโมสรหัวแถวกับทีมที่เหลือ เพราะแชมเปี้ยนส์ลีกจะมอบรายได้ให้มากขึ้นเมื่อมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในฤดูกาล 2024/25

ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกก็จะเพิ่มรายได้ให้กับสโมสรระดับท็อปของลีกด้วยเช่นกัน หากทีมไหนได้ไปเล่นทัวร์นาเมนต์ในปี 2025

รายงานยังยกตัวอย่างว่าหากมีการจำกัดค่าเหนื่อยในฤดูกาล 2021-22 ก็จะอยู่ประมาณ 402.4 ล้านปอนด์ ตัวเลขดังกล่าวเป็นการนำรายได้ของ นอริช ซิตี้ ทีมบ๊วยตารางที่รับค่าลิขสิทธิ์ทีวีไป 100.6 ล้านปอนด์มาคูณ 4

หากการจำกัดเพดานค่าเหนื่อยเกิดขึ้น ก็อาจจะส่งผลดีต่อยักษ์ใหญ่ในยุโรปด้วยเหมือนกันเพราะสโมสรแบบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือ เรอัล มาดริด จะเสนอค่าเหนื่อยจูงใจนักเตะได้สูงกว่า

เมื่อเดือนมกราคมรายงานระบุว่าค่าเหนื่อยของ เปแอสเช ในฤดูกาล 2021-22 นั้นสูงถึง 645 ล้านปอนด์ ทำให้พวกเขาเป็นสโมสรที่จ่ายค่าจ้างนักเตะเยอะที่สุด

ค่าเหนื่อยของ มาดริด ในซีซั่นดังกล่าวก็แตะ 458 ล้านปอนด์หลังพวกเขาจ่ายโบนัสคว้าแชมเปี้ยนส์ลีก

รายงานระบุว่าข้อเสนอจำกัดเพดานค่าเหนื่อยได้รับการคัดค้านจากบางสโมสรในระดับท็อป โดยจะมีการพูดคุยกันในการประชุมลีกสัปดาห์นี้

พรีเมียร์ลีกกำลังอัพเดตกฏการเงินให้เป็นไปในแนวทางเดียวกับกฏการเงินใหม่ของยูฟ่า โดยซีซั่นหน้าสโมสรที่เล่นฟุตบอลยุโรปจะใช้จ่ายเงินได้ไม่เกิน 90 เปอร์เซนต์ของรายได้และจะค่อยๆลดไปเรื่อยจนเหลือ 70 เปอร์เซนต์ในฤดูกาล 2025-26