ฟีฟ่าอนุมัติใช้ระบบ ‘จับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ’ ในบอลโลก

ฟีฟ่าอนุมัตินำระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ (SAOT) มาใช้ในศึกฟุตบอลโลกปลายปีนี้ โดยสัญญาว่าจะช่วยให้การจับล้ำหน้ามีความแม่นยำและไวยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ VAR ต้องตีเส้นกำหนดไลน์ล้ำหน้าเอง แต่พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้ระบบเอไอที่กำหนดไลน์ล้ำหน้าและหาจังหวะที่มีการสัมผัสลูกบอลให้ทันที

พวกเขาจะฝังเซ็นเซอร์ไว้ในลูกฟุตบอล Al Rihla ที่จะใช้ในฟุตบอลโลก, ซึ่งรับข้อมูล 500 ครั้งต่อวินาทีเพื่อหาจังหวะที่ลูกฟุตบอลถูกเตะ นักเตะทุกคนจะถูกจับความเคลื่อนไหวเพื่อดูตำแหน่งของพวกเขา คล้ายๆกับวิธีที่โกลไลน์ใช้

เวลาที่ VAR ใช้ไปกับการตัดสินจังหวะล้ำหน้านั้นน่าจะลดจากค่าเฉลี่ย 70 วินาทีลงมาเหลือ 25 วินาที ในขณะที่แฟนบอลในสนามและผู้ชมทางบ้านก็จะได้เห็นภาพกราฟฟิคสามมิติในจังหวะล้ำหน้า

ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า หัวหน้ากรรมการของฟีฟ่ามั่นใจว่าระบบพร้อมแล้ว และสิ่งนี้มีขึ้นเพื่อช่วยกรรมการตัดสินใจไม่ให้มาทำหน้าที่แทน

“เรามองบวกมาก ระบบพร้อมแล้ว” คอลลิน่า กล่าว

“ผมได้อ่านข่าวที่บอกว่าเป็นกรรมการหุ่นยนต์นะ ผมเข้าใจว่าเป็นพาดหัวที่ดีแต่ก็ไม่ใช่แบบนั้น”

“กรรมการยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินอยู่ ระบบกึ่งอัตโนมัติช่วยเพียงแค่ให้คำตอบว่านักเตะอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้ารึเปล่าเมื่อมีการสัมผัลลูกบอล การประเมินว่านักเตะฝ่ายตรงข้ามเข้ามาขัดจังหวะการเล่น, หรือเป็นจังหวะฟาวล์หรือแฮนด์บอลรึเปล่านั้นจะยังขึ้นอยู่กับกรรมการ”

“เป้าหมายของเราคือการช่วยให้กรรมการตัดสินใจในสนามได้อย่างถูกต้อง ถ้าเกิดบางสิ่งที่ผิดพลาดขึ้นมา, กรรมการอาจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อให้เห็นภาพได้ดีขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ยังเปิดกว้างสำหรับการถกเถียง”

ฟีฟ่าทดสอบระบบ SAOT ในการแข่งขันของพวกเขาตลอดสามปีที่ผ่านมา รวมถึงทดสอบใช้จริงในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกซึ่งก็ประสบความสำเร็จหลัง อลาเมรี่ ซาเยด ของ อัล จาซีร่า เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงเข้าแต่โดนจับล้ำหน้าโดย SAOT