ม้าลาย ยังไม่ฟื้น! เปิดรังเจ๊า ซาแลร์นิตาน่า สุดมัน 2-2

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ยูเวนตุส กับ ซาแลร์นิตาน่า ที่สนาม อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม  ในศึก กัลโช่ เซเรียอา (อิตาลี) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ยูเวนตุส จะมาเล่นด้วยระบบ 4-4-2 นำโดยแข้งตัวหลักของทีม เหมือนเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น มัตเตีย เปริน,เบรเมอร์,เลอันโดร ปาเรเดส,เวสตัน แมคเคนนี่ ,มอยเซ่ คีน และ ดูซาน วลาโฮวิช

ขณะที่ ซาแลร์นิตาน่า จะมาสู้ด้วยระบบ 3-5-2 นำโดยแข้งขาประจำอย่าง ลุยจิ เซเป้,เฟเดริโก้ ฟาซิโอ้,จิอูลิโอ มักกิออเร่,ปาสคาล มาซซอคคี่ ,อันโตนิโอ คันเดรว่า และ คซิซตอฟ ปิออนเท็ค เป็นต้น

นาทีที่ 3

เริ่มเกมได้แค่สามนานที ซาแลร์นิตาน่า ก็ได้ทักทายก่อนเลย จากจังหวะที่ เบรเมอร์ วางบอลยาวให้ ปิออนเท็ค เกี่ยวเอาบอลลงในกรอบเขตโทษ ก่อนจะล็อคหลอกกองหลังหนึ่งจังหวะ แล้วปั่นด้วยซ้ายเน้นๆ แต่บอลสุดท้าย ดันหลุดกรอบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 18 ซาแลร์นิตาน่า ขึ้นนำ 1-0

ยูเวนตุส นั้งเกมไม่ได้เลย พวกเขาโดนทีมเยือน กดดันหนัก สุดท้ายก็ต้านไม่ไหว โดนนำไปก่อนลูกนึง จากจังหวะที่ กัวดราโด้ เคลียร์บอลในกรอบเขตโทษไม่ดี บอลลอยไปเข้าทาง มาซซอคคี่ สับขาหลอก แม็คเคนนี่ แตะบอลทีเดียวหลุดเข้าไปเปิดบอลที่สุดเส้นหลัง ย้อนกลับมาให้ คันเดรว่า เข้าฮอสโล่งๆ ไม่มีพลาดเป้า

นาทีที่ 45+2 ซาแลร์นิตาน่า หนีห่าง 2-0

ไปกันใหญ่! ยูเวนตุส มาเสียท่า โดน ซาแลร์นิตาน่า นำห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เบรเมอร์ โดนจับมาแฮนด์บอล ในกรอบเขตโทษ กรรมการเดินไปดูจอ แล้ววิ่งมาชี้ให้ทีมเยือนได้ลูกจุดโทษ จากนั้นก็เป็น ปิออนเท็ค ที่เดินมาสังหารลูกนี้ไม่มีพลาดเป้า 

หมดครึ่งเวลาแรก

ยูเวนตุส – 0

ซาแลร์นิตาน่า – 2

นาทีที่ 46

กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แปปเดียว อัลเลกรี ก็โชว์แก้เกม เขาเลือกถอด คีน ออกแล้วส่ง มิลิค ลงสนามแทน เพื่อเพิ่มมิติในเกมรุกให้มากขึ้น เพราะตัวที่เปลี่ยนลงไปสามารถโยกไปได้ทุกตำแหน่งในแดนหน้า 

นาทีที่ 51 ยูเวนตุส ตีไข่แตก 2-1

พอเปลี่วนตัวรุกคนใหม่เข้ามา เกมของ ยูเว่ ก็ดูดีขึ้นจนมาได้ประตูตีไข่แตก 2-1 จากจังหวะที่แนวรังของ ซาแลร์ อย่าง คูลิบาลี่ ไปเล่นยากหน้าประตู จนโดน คอสติช ฉกบอลจากเท้าไป ก่อนจะรีบครอสบอลให้ เบรเมอร์ เทคตัวโขกจ่อๆ ในกรอบหกหลา ไม่มีพลาดเป้า ยูเว่ ไล่มา 2-1  

นาทีที่ 90+3  ยูเวนตุส ตีเสมอ 2-2!!

ยูเวนตุส หลังจากเสียหลักไปพักใหญ่ ในที่สุดประตูปลุกชีพก็มาจนได้ เป็นจังหวะที่ กัวดราโด้ ลากเลื้อยกินแดน ขึ้นไปทางซ้าย ก่อนจะไปโดน  วิลเฮน่า ขัดขาล้มลงในกรอบเขตโทษ คราวนี้เป็น ยูเว่ บ้างที่ได้ยิงจุดโทษ แล้วก็เป็น โบนุชชี่ ที่วิ่งมายิง ติดเซฟในจังหวะแรก แต่เจ้าตัวยังตามไปซ้ำดาบสอง เข้าประตูได้อยู่ดี 

หมดเวลาการแข่งขัน กลายเป็นว่าทั้งสองทีมกอนกันไม่ลงผลักกันยิง จนสุดท้ายต้องจบด้วยผลเสมอ กันไปตามระเบียบ ด้วยสกอร์รวม 2-2