ออสเตรเลีย ทำได้ดวลฏีกา ชนะ เปรู คว้าตั๋วใบที่ 31 ไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ กาตาร์!!

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ออสเตรเลีย กับ เปรู   ที่สนามกลาง อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดี้ยม ในศึกฟุตบอลโลกรอบคีดเลือก *เพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ  (ทีมชาติ) เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ออสเตรเลีย จะมาในระบบ 4-5-1 พร้อมเอาเสาหลักของทีมลงสนามทุกตำแหน่ง เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็น แมต ไรอัน,อารอน มอย,แจ๊คสัน เออร์วิน,แมตธิว เลคกี้ และ มิตช์ ดุ๊ก

ขณะที่ เปรู จะมาสู้ด้วยระบบ 4-5-1 พร้อมจัดเต็มทีมชุดใหญ่ลงสนามเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น เปโดร กาเญเซ่,คาร์ลอส แซมบราโน่,หลุยส์ อัดวินคูล่า,แซร์โจ้ เปนญ่า และ อังเดร การ์ริโญ่ 

นาทีที่ 20 

ออสเตรเลีย ทำได้ดีกว่าในช่วง 20 นาทีแรก และเกือบได้ประตูออกนำก่อนด้วย จากจังหวะที่ บอยล์ โชว์พริ้วเลี้ยงแหวกแนวรับของ เปรู จนหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาได้สำเร็จ ก่อนจะกึ่งยิงกึ่งผ่าน เข้าไปที่หน้าประตู แต่โชคไม่ดีที่ลูกนี้ ไม่มีเพื่อนวิ่งมาชาร์จตามสูตร 

นาทีที่ 34 

เปรู ได้ลองส่องบ้างเกือบได้ประตํขึ้นนำเหมือนกัน จากจังหวะที่พวกเข้าได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ก่อนจะเปิดเข้ากลางมา แล้วเป็น คาร์ลอส แซมบราโน่ ที่ได้โขกเต็มๆ แต่ตอนเทคตัว น่าจะโดนเบียดนิดหน่อย ทำให้เขาควบคุมทิศทางลูกบอลไม่ได้ เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว 

นาทีที่ 40

ช่วงท้ายครึ่งแรก ออสเตรเลีย ยังคงเป็นฝ่ายขึงเกมรุกอยู่ข้างเดียว และมีโอกาสจะแจ้งอีกครั้ง จากจังหวะที่ แมทธิว เล็คกี เลี้ยงบอลไปจนสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้ากลางให้ แจ๊คสัน เออร์วิน ได้โขกเน้นๆ หลุดกรอบไม่ได้ลุ้น

หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 แต่ภาพรวม ออสเตรเลีย ทำได้ดีกว่า เปรู พอสมควร ถ้าครึ่งหลังพวกเขายังเล่นได้แบบนี้ โอกาสคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ก็พอมีหวังอยู่

นาทีที่ 53 

ออสเตรเลีย ได้จบสกอร์อีกแล้ว จากจังหวะที่ อารอน มอย รับบอลต่อมาจาก เออร์วิน ยึกยักหาเหลี่ยมยิงอนอกกรอบเขตโทษอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจ ฝืนยิงยัดเข้าไป ทั้งๆ ที่มีตัวประกบยืนบังอยู่ สุดท้ายก็หลุดออกหลังไปตามระเบียบ 

นาทีที่ 88 

ออสเตรเลีย กดดันหนัก จน เปรู เกือบสู่ขิตเหมือนกัน จากจังหวะที่ อารอน มอย จ่ายบอลออกทางซ้าย แล้วเป็น มาร์ติน บอยล์ ที่ควบไปเอาบอล ก่อนจะบรรจงตบเข้ากลางให้ อาเวอร์ เมบิล วิ่งมากดด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแรงเหมือนจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ กาเญเซ่ ไม่ยอม เขาพุ่งสุดตัวปัดบอลทิ้งออกไปได้ทัน 

นาทีที่ 90

ช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมก็ไม่เสี่ยงเปิดหน้าแลก กันอีกแล้ว เน้นครองบอลเผาเวลา เก็บแรงไปเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 

หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมจบเสมอในเวลาปกติ จนต้องไปชี้ขาดกันในช่วงต่อเวลาพิเศษ เพื่อหาทีมที่จะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ และก็เป็น ออสเตรเลีย ที่ชนะฏีกา แม่นโทษมากกว่า เปรู กลายเป็นชาติที่ 31 ที่ได้ตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย