“เชลซี” บุกมาเอาชนะ “อาร์เซน่อล” คาถิ่น 2-0 !!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เปิดสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย กรานิต ชาก้า กองกลางห้องเครื่อง เอมิล สมิธ โรว์ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ กองหน้าตัวความหวังของทีม

ฃขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย จอร์จินโญ่ มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะเกม เมสัน เมาน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ โรเมลู ลูกากู ศูนย์หน้าตัวใหม่ป้ายแดงของทีม

นาที 2

เปิดเกมมาไม่ทันไร เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ที่ได้ทักทายก่อนเลย เป็นจังหวะ สาดบอลยาวขึ้นหน้ามาให้กับ บูกาโย่ ซาก้า ได้พักบอลลง ก่อนจะจ่ายตั้งให้ เอมิล สมิธ โรว์ วิ่งมาส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษทันที บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวไปคว้าไว้สบาย ๆ ไม่มีปัญหา

นาที 15 GOAL!!!

ทีมเยือน สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวด 1-0 !!! เป็นจังหวะ มาเตโอ โควาซิช เปิดบอลออกไปยังกรอบเขตโทษด้านขวาให้กับ รีซ เจมส์ ที่เติมเกมสูง ดันขึ้นมารับบอล ก่อนจะบรรจงปาดเลียดไปที่หน้าปากประตูถวายพานให้ โรเมลู ลูกากู ศูนย์ป้ายแดง ซัดจ่อ ๆ ด้วยขวา ระยะเผาขนไม่ถึง 2 หลา เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 20

ทีมเยือน เชลซี ได้บุกขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ มาร์กอส อลอนโซ่ สอดขึ้นมารับบอล หลุดมาถึงกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโค้งไปที่กลางประตูให้กับ โรเมลู ลูกากู ที่อาศัยความสูงใหญ่ เบียดเอาชนะ ปาโบล มารี เทคตัวขึ้นโหม่งได้เต็ม ๆ แต่ทว่ากดไม่ลง บอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 23

ทีมเยือน เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ รีซ เจมส์ ลากพาบอลจี้กินพื้นที่ขึ้นมาเองถึงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อน แล้วตวัดย้อนกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ เมสัน เมาน์ท ได้วิ่งมาขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงไปติดบล็อกของ ปาโบล มารี กระดอนออกหลังไป

นาที 29

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ แซมบี โลก็องก้า เก็บตกแถวสองได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ แต่สุดท้ายบอลปลิ้นหลังเท้า ส่งบอลหลุดกรอบ ลอยออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 35 GOAL!!!

ทีมเยือน เชลซี มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะต่อบอลสวนกลับกันขึ้นมา โรเมลู ลูกากู ปล่อยบอลเร็วต่อให้ เมสัน เมาน์ท เจ้าตัวป้ายบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ รีซ เจมส์ ที่วิ่งเติมขึ้นมา รอบอลโล่ง ๆ ได้จัดการหวดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อสวนตัว แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 45

ช่วงก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล พยายามบุกอย่างหนัก แต่ก็ยังเจาะแนวรับทีมเยือนไม่เข้า โอกาสได้ลุ้นที่สุดก็เห็นจะเป็นจังหวะที่ บูกาโย่ ซาก้า โดนสอยร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ เช็ค VAR อยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับลงมาให้เล่นต่อไป ไม่ให้จุดโทษสำหรับเจ้าถิ่น

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เชลซี ที่ได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่ช่วงต้นเกม แล้วหลังจากนั้นก็ยังเป็นฝ่ายครองบอลขึงเกมรุก บุกใส่เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล อยู่แทบจะฝั่งเดียว สุดท้ายมาได้ประตูเพิ่มอีกหนึ่งเม็ด ออกนำไปก่อนแล้วถึง 2-0 !!!

นาที 52

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ที่โถมบุกเข้าใส่ทันที จังหวะนี้ดันสูงกันขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษของทีมเยือน แล้วเป็นเจ้าหนู บูกาโย่ ซาก้า ขอลองตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ระยะกว่า 25 หลา บอลพุ่งแรงทำท่าจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ทิศทางไม่ค่อยห่างตัวเท่าไหร่ สุดท้าย เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาไปปัดข้ามคานเอาไว้ได้ทัน เสียเป็นเตะมุม

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 57

ทีมเยือน เชลซี สวนกลับเร็วขึ้นมา จังหวะนี้ รีซ เจมส์ ลากพาบอลมาเอง จ่ายยัดต่อมาให้ โรเมลู ลูกากู เจ้าตัวแต่งบอลแล้วชิ่งต่อมาให้ เมสัน เมาน์ท ที่เติมขึ้นมา ได้บรรจงซัดเน้น ๆ หน้าหัวกระโหลก บอลพุ่งแรง ถากเสาขวามือ หลุดออกหลังไปแบบได้ลุ้นทีเดียว

นาที 60

เจ้าถิ่น ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย นิโกล่าส์ เปเป้ เปิดบอลโค้ง ลอยโด่งลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น ปาโบล มารี ได้โหม่งตั้งย้อนกลับเข้ามาตรงกลางประตูให้ ร็อบ โฮลดิ้ง เทคตัวขึ้นโขกสะบัดคนเดียวเน้น ๆ บอลพุ่งแรงหนีมือ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปได้แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังเฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 61

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เกมรุกเจ้าถิ่น แทบไม่สามารถเจาะแนวรับทีมเยือน เข้าไปทำอันตรายใด ๆ ได้เลย จังหวะนี้ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือยังละอ่อน เริ่มนั่งไม่ติด ตัดสินใจส่ง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมย็อง ศูนย์หน้าตัวเก่ง ที่ยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่ฟิตพอ หลังเพิ่งหายจากอาการโควิด-19 มา ลงสนามมาเล่นแทนเจ้าหนู บูกาโย่ ซาก้า ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ค่อยออกเท่าไหร่ ไปพักที่ข้างสนาม

นาที 68

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ เซนดริก โซอาเรส ดันเกมสูง หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเลียดเข้ากลางให้ เอมิล สมิธ โรส์ จับบอลแรกได้สวย กำลังจะได้ง้างเท้ายิงไม่กี่หลาอยู่แล้ว แต่เป็น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ตามลงมาช่วย แหย่ขาสกัดจังหวะสุดท้าย เอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 77

ทีมเยือน เชลซี กลับมาเป็นฝ่ายได้บุกบ้าง จังหวะนี้เกือบจะได้ประตูเพิ่ม เมื่อ เมสัน เมาน์ท บรรจงหยอดบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษให้ โรเมลู ลูกากู ได้โฉบมาโขกเหน่ง ๆ บอลทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดชนอย่างจัง ช่วยทีมไม่ให้เสียประตูไว้ได้อย่างหวุดหวิด

นาที 86

ทีมเยือน เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ บอลสุดท้ายมาถึง โรเมลู ลูกากู ได้ลากจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะไหลต่อให้ ไค ฮาแวร์ทซ์ ที่วิ่งสอดตัดหลังขึ้นมา ได้ซัดเน้น ๆ พยายามจะให้ลอดหว่างขาของ แบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น แต่สุดท้ายยังไม่พ้น กระดอนออกมาแล้วแนวรับตามมาเคลียร์ได้ทัน

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เชลซี บุกมาเอาชนะเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนได้สำเร็จ โดยนัดต่อไปจะมีคิวออกไปเยือนลิเวอร์พูล ในวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านอาร์เซน่อล ร่วงไปอยู่รองบ๊วยของตารางคะแนน นัดต่อไปต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเดียวกัน