เซฟราฟา!! “เอฟเวอร์ตัน” วิ่งลืมตาย ฮึดแซงเอาชนะ “อาร์เซน่อล” ช่วงท้ายเกม 2-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน เปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 15 เมื่อค่ำคืนวันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ มาเล่นในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย อัลลัน กองกลางห้องเครื่อง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกตัวจี๊ด และ ริชาร์ลิซอน กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย มาร์ติน โอเดการ์ด เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม บูคาโย่ ซาก้า มิดฟิลด์ตัวทำเกมริมเส้น และ อเล็กซ็องด์ ลากาแซตต์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 10

เปิดฉากมา ช่วงต้นครึ่งแรกมา ทั้งสองทีมผลัดกันครองบอลบุก แต่ยังไม่มีฝั่งไหนได้หลุดเข้าไปจบสกอร์แบบเหน่ง ๆ ในพื้นที่อันตราย โอกาสลุ้นทำประตู ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น

นาที 13

เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ บอลยาวมาที่ริชาร์ลิซอน เจ้าตัวติดเครื่อง กระชากขึ้นมาเองจากกลางสนามฝั่งซ้ายถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะโยกหาช่อง สบโอกาสกดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 18

ทีมเยือน ทัพไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ บุกเจาะแต่โดนแนวรับท๊อฟฟี่สกัดออกมา แล้วเป็น โธมัส ปาร์เตย์ เก็บแถมสองเอาไว้ได้ ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบ ระยะกว่า 30 หลา ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า ลอยเหินข้ามคานออกไปไกล ยังไม่ได้ลุ้น

นาที 22

เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ เมื่อ บูกาโย่ ซาก้า ปีกทีมชาติอังกฤษของทางฝั่งทีมเยือน อาร์เซน่อล ไปถูกแข้งเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน อย่าง เบน ก็อดฟรีย์ เข้าปะทะกระแทกไปตรงบริเวณหัวเข่า จนทำให้ดาวเตะทัพปืนใหญ่ร่วงลงไปนอนกองกับพื้น ผู้ตัดสินรีบเรียกทีมแพทย์ให้ลงมาดูอาการ แต่สุดท้ายไม่เป็นอะไรมาก ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้ไม่มีปัญหา 

นาที 25

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะ เดมาไร เกรย์ พยายามจ่ายบอลให้เพื่อนแต่ไปติด กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ สกัดทิ้งกลายเป็นตั้งให้ ริชาร์ลิซอน ได้แทงทะลุช่องยัดดื้อเข้าไปที่กลางเขตโทษให้ อับดูลาย ดูกูเร่ หมุนตัวพลิกยิงด้วยขวาเน้น ๆ แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลแปก ๆ กลิ้งหลุดเสาไกลซ้ายมือออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 27

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน บุกขึ้นอีกระลอก จังหวะนี้ เดมาไร เกรย์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปยังพื้นที่ว่างกลางเขตโทษ แล้วเป็น ริชาร์ลิซอน วิ่งสอดมาที่จุดนัดพบ พยายามจะเข้าชาร์จแต่ถึงบอลช้าไปหน่อย สุดท้ายบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู หลุดออกหลังอีกฝั่งไปแบบได้เสียวเหมือนกัน

นาที 29 VAR!!!

เกมต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เมื่อ เบน ก็อดฟรีย์ เหมือนจงใจไปเหยียบเข้าที่ใบหน้าของ ทาเคฮิโระ โทมิยาซุ แบ็คขวาของอาร์เซน่อล ขณะล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้นจนเสียเลือด ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ขอวิ่งออกไปเพื่อเช็คดู VAR อยู่นาน สุดท้ายไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า เป็นความโชคดีของเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ที่ไม่โดนอะไรเลย ไม่รู้ว่ารอดใบแดงไปได้ยังไง

นาที 31

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อ เยอร์รี่ มิน่า เซนเตอร์แบ็คตัวหลัก ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาหลังจากหายหน้าหายตาไปร่วม 2 เดือน โชคร้ายมีอาการบาดเจ็บซ้ำ สุดท้ายเล่นต่อไปไม่ไหว ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือสมองเพชร จัดการส่งเอา เมสัน โฮลเกตส์ ลงมาเล่นแทนในตำแหน่งเดียวกัน

นาที 44 VAR!!!

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งขวา แอนดรอส ทาวน์เซนด์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางเขตโทษ แล้วเป็น ริชาร์ลิซอน สอดมาที่จุดนัดพบ ได้โขกสะบัดเหน่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสุดสวย ทว่ามีสัญญาณ VAR จากข้างสนามว่าหัวหอกทีมชาติบราซิล ออกตัวเร็วไปหน่อย ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว สุดท้ายโดนริบประตูคืน เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ ท๊อฟฟี่

นาที 45+2 GOAL!!!

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ทีมเยือน ทัพไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะที่ คีแรน เทียร์นี่ย์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ มาร์ติน โอเดการ์ด สอดมากระโดดยิงสลับขาด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงย้อนศรหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เบียดเสาแรกซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน อาร์เซน่อล ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ถึง 62 เปอร์เซ็นต์ ทว่าเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ที่บุกขึ้นมาได้ลุ้นมากกว่าเยอะแต่จังหวะสุดท้ายเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เอง ก่อนจะมาโดนทัพปืนใหญ่ ใช้โอกาสครั้งแรก ๆ ของเกม ชิงยิงขึ้นนำไปก่อนได้สำเร็จ สกอร์ตอนนี้ เอฟเวอร์ตัน 0 อาร์เซน่อล 1 !!!

นาที 47

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ที่ได้ลุ้นตีเสมอทันที จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร แอนโธนี่ กอร์ดอน ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวบอมบ์โด่งเข้าไปลุ้นที่หน้าประตู บอลลอยย้อยทำท่าจะเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังไม่เหม่อ ถอยมาผวาปัดออกหลังเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 53

ทีมเยือน อาร์เซน่อล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบฝั่งซ้าย แล้วก็เป็น มาร์ติน โอเดการ์ด รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลโด่งโค้งสวย ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ กาเบรียล มากัลเญส ได้สอดมาโขกกดลงพื้นเน้น ๆ แต่บอลดันพุ่งไปตรงตัวของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 58 VAR!!!

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง อัลลัน จ่ายบอลเร็วมาที่หน้ากรอบให้ อับดูลาย ดูกูเร่ แทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ริชาร์ลิซอน วิ่งสอดหลุดไปซัดมุมแคบเน้น ๆ เบียดเสาแรก เข้าประตูไป ทว่าเจอฤทธิ์ของ VAR อีกครั้ง โดนริบประตูคืนอีกหน เพราะดาวยิงแซมบ้า ปลายเท้าล้ำหน้าไปนิดเดียว

นาที 60

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือน ได้ลุ้นหนีห่างเล็ก ๆ จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว มาร์ติน โอเดการ์ด แทงบอลเร็วขึ้นหน้าให้กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้สปีดมาถึงบอลแล้วแตะหนี จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ออกตัดบอลนอกกรอบเขตโทษอย่างไกล ก่อนจะพยายามซัดไกลเน้น ๆ ส่งบอลลอยไปตกใส่ตาข่ายหลังคาน หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 67

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เดมาไร เกรย์ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ไมเคิ่ล คีน สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แต่ยังไม่เข้าเป้า ส่งบอลกระดอนถากเสาไกลซ้ายมือออกไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 80 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ เดมาไร เกรย์ ขอลองวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ส่งบอลพ่งแรงโค้งสวยหนีมือ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนคานเต็ม ๆ กระเด้งมาเข้าทางปืนของ ริชาร์ลิซอน ได้โหม่งซ้ำโล่ง ๆ ลอยย้อยเสียบหน้าต่างเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 84

ทีมเยือน อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ บูกาโย่ ซาก้า พาบอลขึ้นทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวสับขาหลอกตัวประกบไปหนึ่งชุด ก่อนจะโยกไปครอสโด่ง ลอยลึกมาที่หน้าเสาสองเข้าทาง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้โหม่งเหน่ง ๆ เต็มกบาล ส่งบอลพุ่งไปชนเสาซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งกลับมาชนตัวเองออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 90

ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน โหมบุกใสทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ อับดูลาย ดูกูเร่ เก็บตกบอลได้ที่หน้ากรอบ เจ้าตัวขอลองฉวยโอกาส กระชากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดมุมแคบยัดไปที่เสาแรกเน้น ๆ ทว่าบอลเบาแถมไปตรงตัวของ แอรอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมรออยู่แล้ว รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 90+2 GOAL!!!

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน เกรย์ มาได้ประตูชัยเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อังเดร โกเมส จ่ายบอลฝากออกไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ เดมาไร เกรย์ ได้ติดเครื่องลากจี้เข้าใส่ ทาเคฮิโระ โทมิยาซุ ก่อนจะโยกตัดเข้ากลางมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ตามด้วยบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด โค้งสวยไปชนเสาไกลขวามืออย่างจัง กระเด้งเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 90+7

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน อาร์เซน่อล ได้ลุ้นตีเสมอเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ ปิแอร์ เอมเมอริค โอบาเมย็อง วิ่งสอดมาวางเท้าซัดด้วยขวาตามน้ำเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านพลิกแซงเอาชนะทีมเยือน อาร์เซน่อล ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! เก็บชัยนัดแรกในรอบ 9 เกมได้สำเร็จ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านอาร์เซน่อล รั้งอันดับที่ 7 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเซาธ์แฮมป์ตัน ในคืนวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม ก่อนหน้าหนึ่งวัน