แกรี่ เนวิลล์ ระบุ ตอนนี้ไม่ได้รู้สึกโกรธกับผลงานอันน่าผิดหวังของ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกต่อไป เพราะมันกลายเป็นความเอือมระอาแทน พร้อมเชื่อว่าที่จริงเหล่านักเตะยังแคร์สโมสรอยู่ เพียงแต่ขาดการชี้นำที่ดีจากคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงๆ ของทีมเท่านั้น
แกรี่ เนวิลล์ ตำนานแบ็กขวาของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าทุกวันนี้ตนไม่รู้สึกโกรธกับผลงานของอดีตต้นสังกัดอีกต่อไป เพราะมันเกิดขึ้นบ่อยจนกลายเป็นการเอือมระอาไปแล้ว หลังจากล่าสุด “ปีศาจแดง” ทำได้เพียงเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา
หลังจากฤดูกาลก่อนพวกเขาสามารถจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับ 2 ของลีกได้ ในซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมีผลงานโดยรวมที่น่าผิดหวังอย่างมากจนไม่เหลือลุ้นแชมป์อะไรตั้งแต่เข้าสู่ช่วงเดือนมีนาคม และตอนนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะไม่ติด 4 อันดับแรกของตารางคะแนนซึ่งเป็นโควตาที่จะทำให้พวกเขาได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าด้วย
หลังโดนถามว่าผลเสมอนัดล่าสุดมันทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะหมดลุ้นกับการติดท็อปโฟร์แล้วหรือไม่นั้น เนวิลล์ คนพี่ ก็ตอบว่า “ผมคิดแบบนั้นนะ วันนี้พวกเขาเล่นได้แย่มากๆ ผมเคยคิดว่าการพักเบรกทีมชาติอาจจะส่งผลดีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะมันทำให้พวกเขาได้พักจากการเล่นให้สโมสรสักหน่อยก่อนที่จะกลับมาสู้ใน 9 นัดสุดท้าย”
“ถ้าพวกเขายังเล่นได้แค่นี้แล้วน่ะนี่ก็จะเป็นช่วง 2 เดือนที่ยาวนานสำหรับนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แน่นอน เพราะวันนี้ภาพที่ออกมามันแย่มากๆ ผมคิดว่าโดยรวมแล้วตอนนี้ทีมเจอกับความไม่มั่นคงหลายอย่างมากเกินไป ทั้งเรื่องของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาวานี่, ผู้จัดการทีมคนใหม่, ราล์ฟ รังนิก คือสรุปแล้วพอจบฤดูกาลนี้เขาจะได้เป็นที่ปรึกษาจริงๆ รึเปล่า ?”
“เกมที่ออกมาในวันนี้มันทนดูได้ยากมาก เอาตรงๆ คือผมไม่รู้สึกโกรธแล้วนั ผมไม่คิดว่าคืนนี้จะมีแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนไหนที่เดินออกจากสนามด้วยความรู้สึกที่โกรธเลย เพราะเราอาจจะเลยเส้นของความโกรธไปแล้ว เราก็แค่รู้สึกเบื่อๆ วันนี้มันไม่มีอะไรเลย ผมเชื่อนะว่านักเตะน่ะรักสโมสร แต่พวกเขาขาดการชี้นำที่ดี ซึ่งนั่นมีต้นเหตุมาจากคนที่อยู่ในตำแหน่งเบื้องบนของสโมสร”