เบนเตเก้ทั้งยิงทั้งจ่าย!! พา “เบลเยี่ยม” เปิดบ้านเอาชนะ “เอสโตเนีย” ไปได้แบบสบาย 3-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป ทีมชาติ เบลเยี่ยม เปิดสนาม คิง โบดวง สเตเดี้ยม, กรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ เอสโตเนีย ในศึกฟุตบอลฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม อี นัดที่ 7 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม ยานนิค คาร์ราสโก้ ปีกจอมลากเลื้อย และ คริสติย็อง เบนเตเก้ ศูนย์ตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เอสโตเนีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ฮาเบอร์ลี่ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย วลาดิสลาฟ เครด้า กองกลางห้องเครื่อง เฮนริค โอยาม่า ตัวทำเกมริมเส้น และ เซอร์เกย์ เซนยอฟ กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 5

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ที่โหมบุกเข้าใส่ทันที จังหวะนี้ ฮันส์ ฟานาเก้น ครองบอลที่หน้าเขตโทษแล้วแทงให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ได้วิ่งสอดไปเอาบอลที่สุดเส้นหลังในเขตโทษ เจ้าตัวล็อคหาช่อง ก่อนจะลากตัดเข้าในมาซัดมุมแคบที่หน้าเสาแรก ทว่าแนวรับทีมเยือนตามมาบล็อกได้ทัน บอลแฉลบออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 11 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร ยานนิค คาร์ราสโก้ พาบอลพลิ้วขึ้นมาเองทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตบเข้าไปที่หน้าปากประตู บอลไม่แรงมากแต่กดดันทำให้ มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวปัดไม่ดีกระฉอกไปเข้าทาง คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้าร่างใหญ่จาก คริสตัล พาเลซ ได้แปะโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 15

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม เกือบได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น เควิน เดอ บรอยน์ รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยเกือบเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาบินปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 21

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะ โธมัส เมอนิเย่ร์ เติมเกมสูง รับพาบอลขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตูให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งย้อนศรไปชนเสาแรกขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 22

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ฮันส์ ฟานาเก้น แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ วิ่งสอดหลุดเข้าไปถึงหน้าเสาขวามือ ก่อนจะได้ก้มหน้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปที่เสาไกลซ้ายมือโดน มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาล้มตัวปัดปลายมือเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว เสียเป็นลูกเตะมุมแทน

นาที 24

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง เป็นจังหวะสวนกลับเร็ว เควิน เดอ บรอยน์ วางบอลยาวข้ามแนวรับอย่างสวยให้ เอแด็น อาซาร์ ได้หลุดเดี่ยว กระชากขึ้นไปเองตั้งแต่กลางสนามถึงเขตโทษคนเดียวโล่ง ๆ แต่จังหวะสุดท้ายเจ้าตัวดันเลี้ยงบอลห่างตัวโดน มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน  ออกมาคว้าเอาไว้ได้ทันติดมือ น่าเสียดายของสุด ๆ จังหวะนี้

นาที 26

ทีมเยือน เอสโตเนีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ มาร์คัส พูม กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษตรงกลาง เจ้าตัวโยกหาช่องแต่งเข้าขวา ก่อนจะขอลองตะบันเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ถากเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปชนิดได้เสียว

นาที 31

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ เจสัน เดนาเยอร์ ได้เบียดขึ้นโขกคนเดียว ทว่าโดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลยังไม่เข้าเป้า สุดท้ายโดนกองหลังเอสโตเนีย หวดเคลียร์สกัดทิ้งออกมาก่อน

นาที 36

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลนิ่ม ๆ มาที่หน้าเขตโทษให้ ยานนิค คาร์ราสโก้ ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน้ำหนักน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า ลอยเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้นอะไรมาก

นาที 41

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ โธมัส เมอนิเย่ร์ เจ้าเก่า เติมเกมสูง พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวาเหมือนเดิม ก่อนจะบรรจงครอสเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น คริสติย็อง เบนเตเก้ วิ่งสอดมาเอี้ยวตัววอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบิลพุ่งแรงกระเด้งพื้น ทว่าดันไปตรงตัวของ มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ที่ได้ประตูขึ้นนำไว หลังจากนั้นก็เป็นฝ่ายครองบอลมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ปูพรมขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน เอสโตเนีย อยู่แทบจะฝั่งเดียว จวนเจียนจะได้ลูกที่สองอยู่หลายหน สุดท้ายสกอร์ตอนนี้ยังอยู่ที่ เบลเยี่ยม 1 เอสโตเนีย 0 !!! 

นาที 53 GOAL!!!

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เบลเยี่ยม ที่มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ คริสติย็อง เบนเตเก้ พักบอลดึงจังหวะไหลมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ยานนิค คาร์ราสโก้ ได้ลากมาก้มหน้าตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดหนีมือ มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบสามเหลี่ยมซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 59

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม เดินหน้าลุยเพื่อเอาประตูเพิ่มต่อ จังหวะนี้ ยานนิค คาร์ราสโก้ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เอแด็น อาซาร์ ได้วิ่งสอดไปเอาบอล ลากหลุดไปถึงหน้าเสาแรก ก่อนจะบรรจงเอี้ยวตัวกดด้วยขวาโล่ง ๆ ทว่าโดนไม่เต็มเท่าไหร่ บอลเบาแถมตรงตัวของ มัตเว อีโกเน่น ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสารออยู่แล้ว รับเอาไว้ได้ง่าย ๆ อย่างน่าเสียดายของสุด ๆ

นาที 61

เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ โชว์ความยอดเยี่ยม รับบอลมาแล้วลากเข้าไปหาช่องยิงในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกแต่งเข้าในได้เหลี่ยม ก่อนจะวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ มัตเว อีโกเน่น นายทวารทีมเยือน ผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาไกลขวามือ  ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว อย่างน่าเสียดาย

นาที 63

ทีมเยือน เอสโตเนีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วมาที่หน้าเขตโทษถึง คอนสแตนติน วาสซิเยฟ ได้ช่องพลิกตัวหวดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ถากเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้เสียว

นาที 70 GOAL!!!

ทีมเยือน เอสโตเนีย มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! จากจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม เราโน่ ซาปปิเน่น วิ่งหน้าตั้งไปรับบอลยาว ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดเน้น ๆ ไปติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดกระฉอกมาที่กลางประตูเข้าทาง เอริค ซอร์ก้า ได้ซ้ำโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 74 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดงแห่งยุโรป เบลเยี่ยม มาได้ประตูหนีห่างออกไปอีกครั้งเป็น 3-1 !!! จากจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลทะลุหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสลึกไปที่เสาไกลอย่างแม่นให้ ธอร์กาน อาซาร์ ดาวเตะของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้สอดมาโขกจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 76

ทีมเยือน เอสโตเนีย ยังไม่ถอดใจ จังหวะนี้ สวนกลับเร็วขึ้นมาอีกครั้งถึง มาร์คัส พูม ที่หน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ แต่บอลเบาไร้น้ำหนัก แถมตรงตัวของ  ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 87

ท้ายเกม เจ้าถิ่น เบลเยี่ยม เกือบได้บวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะ อเล็กซิส ซาเลอมาเกอร์ส ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะบรรจงยิงดีดไซด์ก้อยด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยเสียบเสาไกล เข้าประตูไป อย่างงาม ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสิน ดันยกธงว่าล้ำหน้า กรรมการ ฮาลิล อูุมุต เมเลอร์ จากตุรกี ขอเช็ค VAR เพื่อความชัวร์ สุดท้ายยืนยันให้เป็นลูกล้ำหน้าไปแล้วเหมือนเดิมอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เบลเยี่ยม เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน เอสโตเนีย ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 !!! คว้าแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ เป็นที่เรียบร้อย โดยนัดสุดท้ายยังมีโปรแกรมต้องออกไปเยือนเวลส์ ในคืนวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอสโตเนีย อยู่อันดับที่ 4 ไม่มีลุ้นอะไร นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนสาธารณรัฐเช็ก ในวันเวลาเดียวกัน