ต้องลุ้นถึงนัดสุดท้าย!! “เนเธอร์แลนด์” นำสองเม็ดก่อนจะโดน “มอนเตเนโกร” ฮึดรัวตามตีเสมอ 2-2

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทีมชาติ มอนเตเนโกร เปิดสนาม พอดโกริก้า ซิตี้ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทัพอัศวินส้ม ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม จี นัดที่ 9 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิโอแดร็ก ราดูโลวิ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย สเตฟาน ซาวิซ ปราการหลังตัวแกร่ง มาร์โก ยานโควิช กองกลางห้องเครื่อง และ อูรอส เยอร์เยวิช ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เฟร้งกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ดอนเยลล์ มาเล่น ตัวจี๊ดริมเส้น และ เมมฟิส เดอปาย ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม

นาที 10

เปิดฉากมาช่วงต้นเกม เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ ที่ครองบอลบุกใส่เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ทันทีตามคาด ทว่าโอกาสจบสกอร์ในพื้นที่สุดท้ายแบบจะแจ้งของทั้งคู่ ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น

นาที 16

เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ได้ลุ้นทักทายก่อน จากจังหวะที่ เกมรับฮอลแลนด์เปิดพื้นที่กันเยอะมาก แล้วเป็น ซาร์โก โทมาเซวิช วางบอลยาว ลอยโด่งเข้าไปในเขตโทษให้ วลาดิมีร์ โยโววิช วิ่งสอดแทรกระหว่างแนวรับคู่แข่งไปเอาบอลที่จุดนัดพบ ก่อนจะจับบอลแรกหนี จัสติน ไบโลว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่แตะยาวเกินไปหน่อยทำให้เหลือมุมยิงน้อย สุดท้ายซัดเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 25 GOAL!!!

ทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูออกนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ มาร์โก ยานโควิช ไปทำพลาดเข้าบอลช้า กลายเป็นไปเลาะเข้าที่ข้อเท้าของ ดาวี่ คลาสเซ่น ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่รอช้า เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทัพอัศวินสีส้ม ก่อนจะเช็ค VAR ยืนยันให้อีกที สุดท้ายเป็น เมมฟิส เดอปาย รับหน้าที่สังหาร ซัดเลียดเข้าประตูไป ไม่พลาด

นาที 30

เกมดำเนินมาครบครึ่งชั่วโมง หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร เดินเกมได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายเปิดฉากรุกเข้าใส่ทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ อย่างต่อเนื่องได้แบบไม่เป็นรอง พยายามสร้างสรรค์โอกาสได้ดี ทว่ายังไม่ดีพอที่จะทำอันตรายแนวรับอัศวินสีส้มได้เลย

นาที 36

ทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ น่าจะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ดอนเยลล์ มาเล่น กระชากพาบอลพลิ้วขึ้นมาเอง หลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเลียดเข้าไปที่กลางประตู บอลเลยไปยังเสาไกลเข้าทาง อาร์เนาต์ ดานจูม่า ได้ปรี่มาง้างเท้าซัดเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งไปหา เมมฟิส เดอปาย พยายามไขว้หลังสะกิดเปลี่ยนทางให้เข้ากรอบแต่ไม่สำเร็จ บอลผ่านหน้าประตู ถากโคนเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 40

เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกระลอก จังหวะนี้ มีลูติน ออสมายิช แย่งบอลได้กลางสนาม ก่อนจะไหลเร็วมาที่หน้าเขตโทษให้ มาร์โก ยานโควิช ได้หาโอกาสสับไกนิกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทำท่าจะเสียบเสาซ้ายมือเข้าประตูอยู่แล้ว แต่เป็น จัสติน ไบโลว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ พุ่งปัดพ้นอันตรายได้ทันหวุดหวิด เสียเป็นเตะมุม

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่จังหวะได้ลุ้นต้องยกให้ทางเจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ที่ทำได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ทัพอัศวินสีส้ม ยิงนำจากลูกจุดโทษไปก่อนแล้ว สกอร์ตอนนี้ มอนเตเนโกร 0 เนเธอร์แลนด์ 1 !!!

นาที 46

เริ่มครึ่งหลังมา หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือมากประสบการณ์ของทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ ไม่พอใจรูปเกม ปรับหมากด้วยการถอดเอา ดอนเยลล์ มาเล่น ไปพักที่ข้างสนามอย่างไว ก่อนจะจัดการส่ง สตีเฟ่น เบิร์กไวจน์ ตัวจี๊ดอีกคน ลงมาสร้างสรรค์เกมรุกริมเส้นแทน

นาที 54 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ไหลบอลป้ายออกไปทางริมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ แบ็คขวาจอมบุกที่เติมสูงขึ้นมาตามสไตล์ ครอสเลียดเข้าไปที่หน้าประตูให้ เมมฟิส เดอปาย ได้เข้าฮอสชาร์จเน้น ๆ ตรงกรอบ 6 หลาผ่านมือ มาติย่า ซาร์คิซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 60

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ คอนโทรลเกม ครองบอลคุมสถานการณ์เอาไว้ได้หมด ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น มอนเตเนโกร รูปเกมยังไม่มีอะไรดีขึ้น โอกาสสร้างจังหวะจบสกอร์ แทบไม่มีให้เห็น

นาที 75

15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถพลิกเกมได้เลย ส่วนทางด้าน เนเธอร์แลนด์ ที่นำไปก่อนแล้วสองประตู เล่นเน้นความแน่นอน เคาะบอลหาโอกาสไปเรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ มีก็ทำ ไม่มีก็เอาบอลกลับมาตั้งกันใหม่ชิล ๆ

นาที 77

ทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ สตีเฟ่น เบิร์กไวจน์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไป กำลังจะซัดบอลทว่ามี สเตฟาน ซาวิซ ตามมาสไลด์ขวางได้ในจังหวะง้างเท้ายิง ช่วยเซฟทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 82 GOAL!!!

เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ มีลูติน ออสมายิช รับบอลมาแล้วแทงตามช่องเร็วไปที่ อิลิย่า วูโคติช แข้งตัวสำรอง ได้หลุดเดี่ยวไปแตะบอลหลบ จัสติน ไบโลว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ก่อนจะได้แปมุมแคบทางซ้ายในเขตโทษโล่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 86 GOAL!!!

เจ้าถิ่น มอนเตเนโกร มาได้ประตูพลิกนรก ตามตีเสมอเป็น 2-2 !!! จากจังหวะ อิลิย่า วูโคติช ไหลบอลออกไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ ริสโต้ ราดูโนวิช บรรจงคริสโด่งข้ามฟาก ลอยลึกไปที่เสาไกลขวามือให้ นิโกล่า วูโนวิช เทคตัวเอาชนะเหนือ ดาเล่ย์ บลินด์ ได้โขกเต็ม ๆ ผ่านมือ จัสติน ไบโลว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน เนเธอร์แลนด์ บุกมาทำได้แค่เสมอกับเจ้าถิ่น มอนเตเนโกร ไปด้วยสกอร์ 2-2 !!! ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม โดยนัดสุดท้ายจะเปิดบ้านพบกับนอร์เวย์ ในวันคืนวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ซึ่งถ้าเสมอหรือชนะ จะผ่านเข้ารอบทันที ส่วนทางด้านมอนเตเนโกร รั้งอันดับที่ 4 ของตาราง ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับตุรกี ที่ต้องการคะแนนแบบสุด ๆ ในวันเวลาเดียวกัน