เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพอัศวินส้ม ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เปิดสนาม เดอ คุปส์, เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ต้อนรับการมาเยือนของทัพไวกิ้ง ทีมชาติ นอร์เวย์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม จี นัดสุดท้าย เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เฟร้งกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ตัวทำเกมริมเส้น และ เมมฟิส เดอปาย ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน นอร์เวย์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ สตาเล่ โซลบัคเค่น มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย มาร์ติน โอเดการ์ด เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่ ตัวทำเกมริมเส้น และ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 13
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ที่ครองบอลบุกและได้ทักทายก่อน จากจังหวะ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ เมมฟิส เดอปาย ได้เบียดเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ ส่งบอลไปตรงตัวของ ออร์ยาน นีลันด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 15
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ บุกมาอีกระลอกทางฝั่งขวา จังหวะนี้ เดนเซล ดุมฟรีส์ เติมเกมสูงขึ้นมาตามสไตล์ เจ้าตัวบรรจงเปิดเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น เมมฟิส เดอปาย พยายามสอดมาไขว้ยิง ทว่าบอลน้ำหนักเบาแถมตรงตัวของ ออร์ยาน นีลันด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 17
เจ้าถิ่น ทัพอัศวินสีส้ม เนเธอร์แลนด์ โหมบุกอย่างหนักต่อเนื่อง จังหวะนี้ ขึ้นเกมมาทางขวาฝั่งขวาอีกแล้ว คราวนี้เป็น สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น เปิดบอลดีดไซด์ก้อยเข้าไปที่กรอบ 6 หลาหน้าประตูให้ เมมฟิส เดอปาย สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งเอาชนะแนวรับทีมเยือน ได้โขกเหน่ง ๆ แต่น่าเสียดาย บอลดันไปตรงตัว ออร์ยาน นีลันด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง
นาที 26
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ พับสนามบุกอยู่ฝั่งเดียวจริง ๆ จังหวะนี้ แย่งบอลมาได้แล้วสวนกลับเร็วตรงกลางสนาม ดาวี่ คลาสเซ่น ทิ้งบอลยาวออกซ้ายให้ อาร์โนต์ ดานจูม่า ได้ลากตัดเข้าเขตโทษ ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยผ่านมือ ออร์ยาน นีลันด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้ลุ้น
นาที 27
เจ้าถิ่น ทัพกังหัน เนเธอร์แลนด์ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ แฟรงกี้ เดอ ยอง บรรจงหยอดบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เดนเซล ดุมฟรีส์ ที่เติมสูงสอดขึ้นมารออยู่ ได้เบิ้ลบอลจังหวะเดียวครอสไปที่หน้าเสาไกลให้ เมมฟิส เดอปาย ได้โขกจ่อ ๆ แต่บอลดันพุ่งไปเข้ามือของ ออร์ยาน นีลันด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่พอดี รับเข้าซองเอาไว้ได้ อย่างน่าเสียดาย
นาที 40
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เกมยังเป็นของเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ลุ้นส่งท้ายจากจังหวะที่ แนวรับของทีมเยือน นอร์เวย์ สกัดบอลไม่ดีลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง เมมฟิส เดอปาย ตัดสินใจถอยมาตั้งป้อมหวดวอลเลย์สวนตูมเดียว ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่หนีตัวเท่าไหร่ ออร์ยาน นีลันด์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับเข้าซองเอาไว้ได้ทัน
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ทัพอัศวินสีส้ม เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน นอร์เวย์ อยู่แทบจะฝั่งเดียว ขาดเพียงแค่จังหวะจบในพื้นที่อันตรายเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ดีพอ สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 46
เริ่มครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพไวกิ้ง นอร์เวย์ ที่ครึ่งแรกเกมเป็นรองอย่างชัดเจน ตัดสินใจปรับหมากด้วยการเปลี่ยนเอา มอร์เท่น ธอร์สบี้ กับ โอลา โซลบัคเคน ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง คริสเตียน ธอร์สท์เวลสท์ และ เยน เพตเตอร์ เฮาเก้ ลงสนามมาเล่นแทน
นาที 55
ทีมเยือน นอร์เวย์ ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ได้ทุ่มไกลทางฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ แล้วเป็น มัตไตส์ เดอ ลิคต์ เคลียร์สกัดไม่ดี บอลเลยมาตกเข้าทาง คริสเตียน ธอร์สท์เวลสท์ ได้ซัดมุมแคบในเขตโทษฝั่งซ้าย ส่งบอลพุ่งผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกล หลุดออกหลังไปนิดเดียวชนิดได้เสียว
นาที 66
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น โชว์ลีลากระชากลากเลื้อยหนีตัวประกบหลุดเข้าไปทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะครอสโด่งข้ามไปที่เสาสองให้ อาร์โนต์ ดานจูม่า สอดมาซัดเน้น ๆ มุมแคบแบบไม่จับ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย อีกครั้งหนึ่ง
นาที 75
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย รูปเกมค่อนข้างน่าอึดอัด เป็นทางฝั่งทีมเยือน นอร์เวย์ สถานการณ์บีบบังคับให้ต้องเดินหน้าลุย ไม่งั้นอดไปเล่นเพลย์ออฟ เพราะอีกสนามทางฝั่ง ตุรกี ได้ประตูขึ้นนำไปแล้ว หากทัพไวกิ้งไม่สามารถบุกมาเอาชนะเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ได้หละก็ เตรียมเก็บกระเป๋าปิดฉากฟุตบอลโลก 2022 ได้เลย
นาที 77
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ ไม่ปล่อยเกมให้เป็นของทางฝั่งทีมเยือนนานเกินไป จังหวะนี้บุกขึ้นมาได้จบ เมื่อ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ได้บอลหลุดขึ้นมาทาวริมกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้าไปที่กลางประตูถึง เมมฟิส เดอปาย จับหนึ่งทีแล้วซัดเร็วไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งกลับมาที่เจ้าตัว ได้ซ้ำอีกที คราวนี้หลุดกรอบออกไปไกล
นาที 80
ทีมเยือน นอร์เวย์ ได้ฟรีคิกนอกกรอบ ระยะค่อนข้างไกล แล้วเป็น มาร์ติน โอเดการ์ด บรรจงเปิดโด่งเข้าไปลุ้นที่หน้าประตูเข้าทาง สเตฟาน สตรานด์เบิร์ก เบียดเอาชนะตัวประกบ ได้เทคตัวขึ้นโหม่ง บอลเข้ากรอบแต่ไม่มุมเท่าไหร่ มีเพื่อนพยายามชาร์จแต่ไม่ทัน สุดท้ายกระเด้งเข้ามือของ แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับสบาย
นาที 84 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูดับฝันของทีมเยือนพร้อมตีตั๋วเข้ารอบ ขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ บอลชุลทุน แล้วเป็น ดาเล่ย์ บลินด์ ดักกลับมาจ่ายต่อไปที่หน้าเขตโทษให้ อาร์โนต์ ดานจูม่า ก่อนจะไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาโล่ง ๆ ให้ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น สอดมาซัดเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งเสยเพดาน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 90+1 GOAL!!!
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ มาได้ประตูปิดกล่องหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลลูกเตะมุมได้แล้วโต้กลับเร็วสาดมาถึง เมมฟิส เดอปาย โหม่งต่อให้ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ติดเครื่องพาบอลกระชากหนีคู่แข่งทะลุเข้าไปเองในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะจ่ายถวายพานให้ เมมฟิส เดอปาย ที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ได้ซัดโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เนเธอร์แลนด์ เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน นอร์เวย์ ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วนทางด้านนอร์เวย์ ร่วงมาอยู่อันดับที่ 3 ของตาราง ตกรอบเป็นที่เรียบร้อย