เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพฟ้าขาว ทีมชาติ อาร์เจนติน่า เปิดสนาม ซาน ฮวน เดล บิเซนเตนาริโอ, ซาน ฮวน ประเทศอาร์เจนติน่า ต้อนรับการมาเยือนของทัพแซมบ้า ทีมชาติ บราซิล ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ นัดที่ 13 เมื่อเช้าวันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ลิโอเนล สกาโลนี่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โรดดิโก้ เดอ ปอล มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ลิโอเนล เมสซี่ เพลย์เมกเกอร์ตัวเทพ และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน บราซิล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ติเต้ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ลูกัส ปาเกต้า เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว วินิซิอุส จูเนียร์ กองหน้ากึ่งปีกตัวทำเกมริมเส้น และ มาเธอุส กุนญ่า ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 15
เปิดฉากมา รูปเกมของทั้งคู่สนุกสูสี โอกาสยิงยังมีน้อย โดยเป็นทางฝั่งทีทเยือน ทัพแซมบ้า บราซิล ที่ได้เสียวก่อน จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วมาถึง เฟร็ด พาแหวกขึ้นมาจากครึ่งสนาม เจ้าตัวดึงจังหวะป้ายออกซ้ายต่อให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้กระชากเร็วบอลเข้าเขตโทษ ทว่าดันมาตกม้าตาย จับบอลลั่นตามไปเล่นไม่ทัน พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 17
สองนาทีถัดมา ทีมเยือน บราซิล ได้บุกขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะนี้ ลูกัส ปาเกต้า สอดมาเก็บบอลแล้วจ่ายยัดมาที่หน้าเขตโทษให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้พลิกตัวหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลกับ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ก่อนที่ศูนย์หน้าความเร็วสูงจะตามไปซัดเร็วเน้น ๆ แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลไม่เข้าเป้า ปลิ้นหลังเท้าหลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 19
ทีมเยือน บราซิล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ มาเธอุส กุนญ่า รับบอลมาตรงกลางสนาม ก่อนจะเล่นลูกลักไก่ ซัดไกลอย่างรวดเร็ว ส่งบอลลอยข้ามหัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปได้แล้ว ทว่าน้ำหนักเกินไปหน่อย ย้อยออกหลังไปชนิดได้เสียว
นาที 24
เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ต่อบอลกันขึ้นมาถึงพื้นที่อันตราย แล้วเป็น อังเคล ดิ มาเรีย ไหลมาที่หน้าเขตโทษให้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะวางเท้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกของ มาร์กินญอส ที่ยืนจังก้าขวางอยู่ ไม่ได้ลุ้นอะไร
นาที 27
ทีมเยือน บราซิล เร่งเครื่องได้บุกขึ้นอีกแล้ว จังหวะนี้ ลูกัส ปาเกต้า ไหลออกไปทางริมกรอบเขตโทษด้านขวาให้ ราฟินญ่า ขยับสอดขึ้นมารับบอล เจ้าตัวล็อคตัดเข้าในมาเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะบรรจงปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ ทว่าน่าเสียดาย หวดโดนใต้ลูกมากไปหน่อย บอลพุ่งเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 30
ครึ่งชั่วโมงผ่าน เกมต้องหยุดชะงักชั่วคราว เมื่อมีจังหวะ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ไปชักศอกใส่หน้าของ ราฟินญ่า จนร่วงลงไปกอง มีบาดแผลถึงขั้นปากแตก ผู้ตัดสินขอเช็ค VAR สุดท้ายมองว่าไม่ได้เจตนา ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป เล่นเอาผู้เล่นแซมบ้าโวยวายกันใหญ่ ซึ่งหลังเกมผู้ตัดสินในเกมนี้อย่าง อันเดรส คุนญ่า โดนลงดาบในฐานไม่ยอมแจกใบแดงอีกด้วย
นาที 31
เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า พยายามตั้งเกมบุกขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ อังเคล ดิ มาเรีย แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ได้วิ่งสอดเข้าไปยิงตามน้ำเน้น ๆ ด้วยขวา แต่บอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของ เอแดร์ มิลิเตา หลุดกรอบออกหลังไป อย่างน่าเสียดาย
นาที 39
ทีมเยือน บราซิล กลับมาเป็นฝ่ายได้บุกอีกแล้ว จังหวะนี้ เฟร็ด รับบอลมาจาก ดานิโล่ ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะของลองตั้งป้อมวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน้ำหนักน่ากลัว ทว่าทิศทางดันไปตรงตัวของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย
นาที 41
เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาถึงพื้นที่อันตราย แล้วเป็น มาร์กอส อากูนญ่า ขยับขึ้นมารับบอลทางซ้าย ก่อนจะไหลย้อนหักกลับมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ โรดรีโก้ เด ปอล จับให้นิ่งแล้วบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ระยะ 20 หลา ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะเสียบเสาไกลเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 45+1
ก่อนหมดครึ่งแรก เกมหยุดชะงักอีกแล้ว จังหวะนี้ ลูกัส ปาเกต้า กับ เลอันโดร ปาเรเดส มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนทำให้ผู้ตัดสินต้องมอบใบเหลืองให้แก่ทั้งคู่เพื่อสงบสติอารมณ์ ก่อนจะหมดครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ 0-0 !!!
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งคู่เปิดหน้าแลกกันได้อย่างสนุกสูสี เป็นเจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ที่ครองบอลได้มากกว่าอยู่นิดหน่อย ทว่าเป็นทางฝั่งทีมเยือน บราซิล ที่บุกขึ้นมาได้วูบวาบน่ากลัว ได้น้ำได้เนื้อกว่าอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 52
เปิดฉากครึ่งหลังมา ทีมเยือน บราซิล ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น ราฟินญ่า รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงหลุดกรอบออกไปเอง อย่างน่าเสียดาย
นาที 53
เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างจำใจ เมื่อ คริสเตียน โรเมโร่ เซนเตอร์แบ็ค มีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือทัพฟ้าขาว จัดการส่ง แชร์กแม็ง เปซเซญ่า ลงสนามมาเล่นแทนช่วงต้นครึ่งหลัง
นาที 60
หนึ่งชั่วโมงผ่าน ทีมเยือน บราซิล เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ เฟร็ด เก็บตกบอลแถวสองได้ตรงเส้นกรอบเขตโทษ เจ้าตัวพักหนึ่งจังหวะ ก่อนจะวางเท้าดีดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งผ่านมือของ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปตกชนคาน กระเด้งออกหลังไป อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 65
ทีมเยือน บราซิล ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ โชว์ท่ายาก ด้วยการทำท่าไมโล ดีดบอลด้วยขาหลังข้ามตัว นาอวล โมลีน่า อย่างเหนือชั้นทางมุมธงฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ ลูกัส ปาเกต้า ได้ตวัดยิงเน้น ๆ แต่โดนแปก ๆ ปลิ้นไปแฉลบ มาร์กอส อากูนญ่า กระดอนออกหลังไป อย่างน่าเสียดาย
นาที 72
ทีมเยือน บราซิล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ต่อบอลกันมาถึงที่หน้ากรอบ มาเธอุส กุนญ่า รับบอลมาแล้วทำชิ่งทะลุตามช่องคืนให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหลอกแนวรับเจ้าถิ่นตัดเข้าในมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะซัดเร็วทะลุบล็อก กระดอนพื้นไม่หนีตัวเท่าไหร่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 73
เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า มีโอกาสได้ลุ้นขึ้นมาบ้างเหมือนกัน จังหวะนี้ นาอวล โมลีน่า ดันเกมสูง ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะพยายามครอสเข้าในแต่ไปแฉลบ อเล็กซ์ ซานโดร แล้วบอลกระดอนเลยไปเข้าทาง ลิโอเนล เมสซี่ ได้สอดมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ กลางประตู ทว่าเป็น อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 76
คู่นี้เจอกันทีไร เกมดุเดือดทุกที จังหวะนี้ แอนโธนี่ กองหน้ากึ่งปีกตัวจี๊ด ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาของทัพแซมบ้า พลิ้วขึ้นมาโดน มาร์กอส อคุนญ่า เสียบเข้าใส่จากทางด้านหลังอย่างรุนแรง ก่อนที่ทั้งคู่จะลุกขึ้นมาปรี่ไปเอาหน้าอกกระแทกใส่กัน ผู้ตัดสินไม่รอช้า รีบวิ่งมาควักใบเหลืองให้แก่ทั้งสองคน ก่อนจะบานปลาย
นาที 90
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น อาร์เจนติน่า ได้ลุ้นยิงประตูขึ้นนำส่งท้าย เป็นจังหวะ ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวโยกแตะหลบ เฟร็ด ตัดเข้ากลางตามสูตร ก่อนจะได้เหลี่ยมบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่ก็ยังไม่มุมพอ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทัน