แดนนี่ เมอร์ฟี่ อดีตนักเตะชื่อดังมองว่า สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับ แกรห์ม พอตเตอร์ ในการคุมทีมเชลซี คือการต้องรับมือกับอีโก้ของเหล่าสตาร์ดัง
เชลซี แต่งตั้งอดีตกุนซือไบรท์ตันเข้ารับตำแหน่งเฮดโค้ชด้วยสัญญายาว 5 ปี ซึ่ง เมอร์ฟี่ เผยว่าเขารู้สึกดีใจที่ได้เห็นผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ ได้รับโอกาสสำคัญกับสโมสรระดับนี้
“ปฏิกิริยาแรกของผมตอนที่เชลซี ปลดโธมัส ทูเคิ่ล ก็คือพวกเขาใจร้อนเกินไป เขาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลที่ฉลาด และปฏิบัติตัวได้ดี แล้วเขาก็เคยได้แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีกด้วย
“แต่ถ้าจะสะท้อนถึงเรื่องนี้ หากท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีมคนใหม่มีวิสัยทัศน์ที่แตกต่างออกไปในวิธีการบริหารทีม มันคงดีที่สุดที่จะทำการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเอาช่วงเวลาของโบห์ลี่กับลอส แอนเจลีส ดอดเจอร์สเป็นที่ตั้ง เสถียรภาพจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา เขามีผู้จัดการทีมคนเดิมในอเมริกามา 7 ปี และสัญญาระยะยาวที่เขามอบให้รีซ เจมส์ ก็บ่งบอกถึงแผนการระยะยาว
“ดังนั้น แกรห์ม พอตเตอร์ มีโอกาสที่วิเศษเลย และผมก็ดีใจที่งานนี้ตกไปถึงมือของกุนซืออังกฤษ กุนซือผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลหลังเคยทำงานในต่างประเทศมาแล้ว
“ไม่มีผู้จัดการทีมชาวอังกฤษ คว้าถ้วยรางวัลเมเจอร์มาตั้งแต่แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ ทำได้กับพอร์ตสมัธเมื่อปี 2008 นั่นมันนานเกินไปแล้ว แต่พอตเตอร์มีทักษะทางการโค้ช และมีขุมกำลังที่จะยุติสถิติดังกล่าว พร้อมนำพาถ้วยรางวัลมาสู่สแตมฟอร์ด บริดจ์
“ที่น่าตลกคือ ผมคิดว่าความรู้ด้านการเสริมทัพนี่เขาแสดงให้เห็นแล้วกับไบรท์ตัน ซึ่งมันคงจะเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เขามีความนอบน้อมและความนิ่งที่จะนำพาเสถียรภาพมาให้กับเชลซี
“ส่วนที่ยากคือการจัดการกับอีโก้ของเหล่าสตาร์ ที่จะไปเคาะประตูห้องแล้วขอคำอธิบายว่าทำไมถึงไม่ติดทีม
“นี่จะเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด และเป็นบางอย่างที่เขาจะต้องเรียนรู้อย่างรวดเร็ว ผมรู้จากการเล่นให้ลิเวอร์พูล เทียบกับชาร์ลตันและฟูแล่ม ว่าสถานะของนักเตะสามารถแตกต่างกันได้เยอะเลย ผู้จัดการจำเป็นต้องสื่อสาร และคุยกันแบบตรง ๆ
“นักเตะเชลซีส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นทีมชาติ และมีถ้วยรางวัลมากมายในประวัติการทำงาน คงเป็นสิ่งที่ต้องทำอะไรมากกว่า ในการอธิบายสถานการณ์ให้พวกเขารับฟัง หากเทียบกับผู้เล่นที่ไม่แฮปปี้กับออสเตอร์ซุนด์ส, สวอนซี หรือไบรท์ตัน”