เมาน์ทยิงหนึ่งจ่ายหนึ่ง!! “เชลซี” บุกมาเฉือนเอาชนะ “วัตฟอร์ด” ไปได้ถึงถิ่นชนิดหืดขึ้นคอ 2-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพแตนอาละวาด “วัตฟอร์ด” เปิดสนาม วิคาเรจ โร้ด, เมืองวัตฟอร์ด มณฑลฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 14 เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เคลาดิโอ รานิเอรี่ มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย มูสซ่า ซิสโซโก้ กองกลางห้องเครื่องพันธุ์แกร่ง เอ็มมานูเอล เดนนิส ปีกจอมลากเลื้อย และ โจชัว คิง ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โธมัส ทูเคิ่ล มาเล่นในระบบ 3-4-2-1 นำทีมโดย เมสัน เมาน์ท เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม คริสเตียน พูลิซิช ตัวทำเกมริมเส้นความเร็วสูง และ ไค ฮาแวร์ตซ์ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 3

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพแตนอาละวาด วัตฟอร์ด ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะเปิดโด่งเข้าเขตโทษ แล้วเป็น ชูเอา เปโดร มีโอกาสได้ตวัดยิงเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งตรงกรอบ ทว่าเป็น เทรโวห์ ชาโลบาห์ ขวางทางปืนแหย่เท้าสกัดออกหลัง ช่วยจ่าฝูงรอดเสียประตูอย่างรวดเร็ว เอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 6

เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ กีโก้ เฟเมเนีย บรรจงวางบอลโด่งเข้าไปที่หน้าประตู แล้วเป็น โจชัว คิง ได้พยายามเทคตัวขึ้นโหม่งแต่ไม่โดน บอลเลยไปตกใส่หน้าตักของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เปลี่ยนทางหวิดเข้าประตูตัวเองอยู่แล้ว ทว่าเป็น เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาเหินไปปัด ป้องกันเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 12

เกมต้องหยุดชะงักไปพักใหญ่ ๆ เมื่อมีเหตุฉุกเฉิน มีแฟนบอลหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หลังจากที่ มาร์กอส อลอนโซ่ มองเห็นความผิดปกติบนอัฒจรรย์ เจ้าตัวรีบชี้บอกให้เชิ้ตดำอย่าง เดวิด คูต รีบเป่าหยุดเกมเพื่อให้ทีมแพทย์วิ่งขึ้นไปช่วยเหลือ ผู้เล่นทั้งสองฝั่งถูกสั่งให้เดินเข้าห้องแต่งตั้งทันที เกมหยุดไปมากกว่า 20 นาที สุดท้ายกลับมาเล่นกันต่อ โดยสายข่าวรายงานว่า แฟนบอลรายนั้นปลอดภัยเป็นที่เรียบร้อย

นาที 17

เกมกลับมาลงเล่นกันอีกครั้งหลังจากหยุดไปกว่าครึ่งชั่วโมง เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ที่ได้โอกาสลุ้นก่อน จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น อิมราน ลูซ่า รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ติดกำแพง บอลกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัวอีกครั้ง คราวนี้หวดสวนกลับเข้าไปอีกที บอลกระดอนออกหลังไป ไม่มีอะไร

นาที 18

ทีมเยือน ทัพสิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ รูเบน ลอฟตัส ชีค โหม่งบอลโด่งข้ามแนวรับ หนุนกลับเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ เมสัน เมาน์ท ได้พลิกตัวสอดหลุดไปตัดสินใจง้างเท้าซัดมุมแคบด้วยขวาเต็มแรง ส่งบอลพุ่งไปชนเสาแรกขวามืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 29 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ดันสูงขึ้นมา บรรจงหยอดบอลจากทางกราบซ้ายเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ มาร์กอส อลอนโซ่ สอดไปเกี่ยวบอลลง ก่อนจะตวัดเลียดเข้ากลางเขตโทษให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ไหลต่อสั้น ๆ มาที่หน้าเสาไกลขวามือโล่ง ๆ ตั้งให้ เมสัน เมาน์ท วิ่งมาวางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 32

ทีมเยือน เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ คริสเตียน พูลิซิซ กระชากเร็วจี๋ขึ้นมาเองถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปที่กลางประตู ได้ล่อเป้ายิงด้วยซ้ายเน้น ๆ สวนตัวของ ดาเนี่ยล บาชแมนน์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ทว่าดันมีธงยกขึ้นมาว่าเป็นลูกล้ำหน้าของแข้งเมืองเบียร์ไปก่อนแล้ว เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ สิงห์บลูส์

นาที 35

เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ จังหวะนี้ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ตั้งป้อมบรรจวเปิดจากขวาเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ชูเอา เปโดร ถอยมาดีดไขว้กลับหลังส่งต่อมาให้ แดนนี่ โรส ในเขตโทษฝั่งซ้าย ได้วิ่งปรี่มาวางเท้าตะบันด้วยซ้ายโล่ง ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงไปตรงตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่แล้ว ผวาปัดออกมาได้ทันหวุดหวิด

นาที 43 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพแตนอาละวาด วัตฟอร์ด มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ มูสซ่า ซิสโซโก้ ขโมยบอลมาจาก รูเบน ลอฟตัส ชีค ได้ตรงกลางสนาม เจ้าตัวลากจี้สวนกลับเร็วขึ้นมาแล้วแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เอ็มมานูเอล เดนนิส ได้โยกสับขาหลอก อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ไปหนึ่งที ก่อนจะซัดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ลอดหว่างขาของกองหลังทีมชาติเยอรมัน พุ่งกระดอนเสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 45+4

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด เกือบได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำ จากจังหวะ เอ็มมานูเอล เดนนิส ได้บอลบริเวณหน้ากรอบฝั่งขวา ก่อนจะแทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ มูสซ่า ซิสโซโก้ สอดไปยิงตามน้ำจ่อ ๆ ติดเซฟของ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ป้องกันเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ที่ครองบอลได้มากกว่าอยู่นิดหน่อย โอกาสมีพอ ๆ กัน แต่จังหวะจบสกอร์เป็นทางฝั่งทีมเยือน เชลซี ที่ทำได้ดีกว่าพอสมควร สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 1-1 !!!

นาที 46

เริ่มครึ่งหลังมา โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือของทางฝั่งทีมเยือน เชลซี แก้เกมด้วยการถอดเอา ซาอูล นิเกซ ที่โดนใบเหลืองไปแล้วหนึ่งใบ ออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง ติอาโก้ ซิลวา เซนเตอร์แบ็คตัวเก๋า ลงสนามมาช่วยประคองแนวรับแทน แล้วขยับเอา เทรโวห์ ชาโลบาห์ ขึ้นไปเล่นเป็นกลางรับ

นาที 67

ครึ่งหลังดำเนินมาเกินหนึ่งชั่วโมง รูปเกมของทั้งสองทีมค่อนข้างน่าอึดอัด โอกาสเข้าทำแบบจะแจ้งแทบไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็นกันเลย จังหวะนี้เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ที่ได้ลุ้นเล็ก ๆ จากลูกยิงไกลด้วยซ้ายนอกกรอบของ อิมราน ลูซ่า ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล

นาที 68

ทีมเยือน ทัพสิงห์บลูส์ เชลซี ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ถอยต่ำมาล้วงบอล เจ้าตัวติดเครื่อง เลี้ยงตะลุยทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดยิงเร็วด้วยซ้าย ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อกของ วิลเลี่ยม ทรูสต์ เอค็อง เปลี่ยนทางเกือบมุดเสาแรกเข้าประตู ทว่าเป็น ดาเนี่ยล บาชแมนน์ มือกาวเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดีปิดมุมรออยู่แล้ว รับเอาไว้ได้ทันอยู่มือ

นาที 72 GOAL!!!

ทีมเยือน เชลซี มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ค่อย ๆ ต่อบอลเซ็ตเกมกันขึ้นมา อันโตนิโอ รือดิเกอร์ บรรจงตักบอลออกไปทางซ้ายให้ มาร์กอส อลอนโซ่ โฉบมาโหม่งชงเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายต่อให้ เมสัน เมาน์ท สอดมารับบอลที่สุดเส้นหลัง ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางถวายพานให้ ฮาคิม ซิเย็ค วิ่งมาซัดตวัดยิงด้วยซ้าย ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดแสกหน้า ดาเนี่ยล บาชแมนน์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสยเพดานเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 82

ทีมเยือน เชลซี ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ไค ฮาแวร์ตซ์ เปิดบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษลอยไปเข้าทาง ฮาคิม ซิเย็ค ได้สอดมาทิ้งตัวโหม่งเหน่ง ๆ ทว่าบอลน้ำหนักเบา แถมทิศทางไม่หนีมือเท่าไหร่ ดาเนี่ยล บาชแมนน์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้ไม่มีปัญหา

นาที 90+3

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ได้ลุ้นประตูตีเสมอเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ ได้ฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น ยูราย คุชก้า รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าไม่หนีมือเท่าไหร่ เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดทิ้งข้ามคานออกหลังไปได้ทัน 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เชลซี บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น วัตฟอร์ด ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 !!! รั้งจ่าฝูงของตารางคะแนนอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในคืนวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านวัตฟอร์ด รั้งอันดับที่ 17 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา