เวกฮอร์สต์ ยิง2ประตูท้ายเกมไม่ช่วยอะไร ดัตช์ยื้อสุดทาง พ่ายโทษ ฟ้าขาว 4-3 กลับบ้านตาม บราซิล

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เนเธอร์แลนด์  กับ อาร์เจนติน่า ที่สนาม ลูซาอิล ไอคอนิค สเตเดี้ยม ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 (ทีมชาติ) เมื่อวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เนเธอร์แลนด์ จะมาเล่นด้วยระบบ 3-4-3 นำโดยขาประจำนุคใหม่ของทีมอย่าง อันดรีส นอพเพิร์ต,เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค,เฟรงกี้ เดอ ยอง,โคดี้ กักโป และ เมมฟีส เดปาย 

ขณะที่ อาร์เจนติน่า จะมาสู้ด้วยระบบ 3-5-2 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ,ลิซานโดร มาร์ติเนซ,มาร์คอส อคูญ่า,อเล็กซิส แมค อลิสเตอร์ และ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นต้น 

นาทีที่ 24

คู่นี้กว่าจะมีโอกาสได้ลุ้นประตู ต้องรอจนถึง น.24 จากจังหวะยิงไกลของ เบิร์กไวจ์น แนวรุกตัวจี๊ดของเนเธอร์แลนด์ แต่น่าเสียดายบอลที่ยิงออกไปเบิร์กไวจ์น ดันหักข้อมากไปหน่อย บอลสุดท้ายจึงหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว 

นาทีที่ 32

จังหวะนี้ เนเธอร์แลนด์ เสียบอลตรงกลางสนามแล้วโดน อาร์เจนติน่า โต้กลับเร็วจนเกือบเสียประตูเหมือนกัน เริ่มจาก เดอ ยอง จ่ายบอลพลาดโดน  แมค อลิสเตอร์ ดักได้ ก่อนจะไหลต่อให้ เดอ ปอล สับไกนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งตรงกรอบ ร้อนถึง นอพเพิร์ต ต้องออกแรงเซฟปัดทิ้งออกหลังหวุดหวิด

นาทีที่ 35 อาร์เจนติน่า ขึ้นนำ 1-0

แต่แล้ว ทัพฟ้าขาว ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ เมสซี่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว ลากตะลุยกินแดน ดึงตัวประกบ2-3 คน ก่อนจะเลือกจ่ายคิลเลอร์พาสให้ โมลิน่า หลุดเข้าไปดีดบอลผ่านตัว นอพเพิร์ต ตุงตาข่าย ไม่มีเหลือ

หมดครึ่งเวลาแรก

เนเธอร์แลนด์ – 0

อาร์เจนติน่า – 1

นาทีที่ 73 อาร์เจนติน่า นำห่าง 2-0 

กลับมาเล่นครึ่งหลัง ก็ยังเป็น อาร์เจนติน่า ที่มาทำประตูเพิ่มได้อีกในช่วง 15นาทีท้าย จากจังหวะที่  อคูญ่า โดน ดุมฟรีส์ เลาะข้อเท้าในกรอบเขตโทษ กรรมการไม่รอช้า วิ่งมาชี้ให้ อาร์เจนติน่า ได้ลูกจุดโทษทันที จากนั้นก็เป็น เมสซี่ ที่รับหน้าที่สังหารประตูนี้เข้าไป ไม่มีพลาดเป้า 

นาทีที่ 83 เนเธอร์แลนด์ ตีไข่แตก 2-1 

เกมยังไม่จบ เนเธอร์แลนด์ มีลูกฮึดทำเกมบุกขึ้นมาได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ ทูน คอปไมเนอร์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวา โยนไปหน้าประตูให้ เวกฮอร์สต์ เทคตัวโขกเน้นๆ ส่งบอลผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ ตุงตาข่าย

นาทีที่ 90+11 เนเธอร์แลนด์ ตีเสมอ 2-2 !! 

ช่วงทดเจ็บนาทีท้าย เหมือนจะไม่มีอะไรแล้ว แต่แนวรับของ อาร์เจนติน่า ก็ไปพลาดทำฟาวล์ผู้เล่นของ เนเธอร์แลนด์ นอกกรอบเขตโทษระยะอันตราย จนสุดท้ายพวกเขามาโดนสูตรฟรีคิดของ เนเธอร์แลนด์ เล่นงาน หลอกว่าจะยิง แล้วเลือกจ่ายบอลทะลุช่องให้ เวกฮอร์สต์ หลุดเดี่ยวเข้าไปจิ้มบอลผ่านมือ เอมี่ มาร์ติเนซ ตุงตาข่ายอย่างสวย อย่างดราม่า 

หมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมเสมอกันในเวลาปกติ ทำให้ต้องไปแข่งกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ แล้วก็เป็น อาร์เจนติน่า ที่นิ่งกว่าในการดวลลูกจุดโทษ เอาชนะ เนเธอร์แลนด์ ไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-3