เวนเกอร์ไม่ทำงี้! กูรูสับอีก ‘พี่ต้า’ ดีใจเวอร์แสดงว่าปืนตกต่ำ

ริชาร์ด คีย์ส กูรูฟุตบอล แสดงทัศนะวิจารณ์ มิเกล อาร์เตต้า อีกครั้ง โดยบอกว่าการดีใจหลังเอาชนะ ฟูแล่ม แสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ตกต่ำมากแค่ไหน และหากเป็น อาร์แซน เวนเกอร์ จะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน

“ปืนใหญ่” เปิดบ้านแซงชนะ ฟูแล่ม 2-1 และหลังจบเกม แฟนบอลที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เฉลิมฉลองกันยกใหญ่ และ อาร์เตต้า ก็ดีใจไม่แพ้กัน

คีย์ส ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้วิเคราะห์เกมดังกล่าวทางช่อง beIN รู้สึกไม่ประทับใจภาพที่เห็น และแสดงความเห็นตรงกับ แอนดี้ เกรย์ คู่หูว่า อาร์เตต้า ดีใจเกินเหตุ

คำวิจารณ์ของ คีย์ส ถูกโจมตีอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เขายังคงยืนยันในความคิดเห็นเดิม โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ได้เขียนบทความลงในเว็บไซต์ของตัวเอง วิจารณ์ท่าทางของ อาร์เตต้า อีกครั้ง โดยกล่าวว่า

“ผมจะบอกให้ชัดเจนอีกครั้ง, อาร์เซน่อล ดีใจเกินเหตุกับการชนะ ฟูแล่ม ได้, การทำแบบนั้นเป็นการไม่เคารพคู่แข่ง, และสำหรับผม นั่นเป็นเครื่องชี้วัดว่า อาร์เซน่อล ตกต่ำมากแค่ไหน”

“ผมไม่โทษกองเชียร์พวกเขานะ, ผมเข้าใจได้ที่พวกเขามีความสุขกับชัยชนะ, พวกเขาจ่ายค่าตั๋วมากพอที่จะสนุกกับมัน”

“แต่ อาร์เตต้า กับสตาฟฟ์โค้ชของเขาออกอาการมากเกินไป, พวกเขาวิ่งไปมาราวกับว่าเพิ่งคว้า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก”

“พวกเขาชนะ ฟูแล่ม ทีมน้องใหม่ 2-1, แค่นั้นและไม่มีอะไรมากกว่านั้น, เก็บการดีใจแบบนั้นไว้ใช้กับการชนะสเปอร์ หรือ ลิเวอร์พูล หรือเมื่อทีมมีผลงานยิ่งใหญ่เหมือนที่ นิวคาสเซิล ทำในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดีกว่า”

“ผมย้ำอีกที ชัยชนะกับ ฟูแล่ม ถูกเฉลิมฉลองมากเกินไป – และนั่นคือเรื่องน่าอับอาย”

“ถ้าเป็นผู้จัดการ อาร์เซน่อล ที่เป็นของจริงอย่าง จอร์จ เกรแฮม หรือ อาร์แซน เวนเกอร์ คงจะเดินออกจากสนามอย่างสง่างาม และเข้าอุโมงค์ไปโดยรู้อยู่เต็มอกว่าทีมเอาตัวรอดไปได้อีกหนึ่งนัด”

“แฟนบอล อาร์เซน่อล ไม่พอใจในสิ่งที่ผมพูด – แต่ลองคิดดูดีๆ สิ, นั่นมัน ฟูแล่ม นะ, ไม่เอาน่า”

“แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ อาร์เตต้า ได้รับอนุญาติให้ยืนบนเส้นข้างสนามตลอด 90 นาที – โบกมือไปมาเหมือนกังหันลม?”

“อาร์เตต้า ยืนบนเส้นข้างสนามแบบชัดเจนเลย, โค้ชคนอื่นต้องอยู่ในพื้นที่ของตัวเอง – แต่ดูเหมือนว่ากฏนี้จะใช้ไม่ได้กับ อาร์เตต้า, มีใครบอกผมได้ไหมว่าเป็นเพราะอะไร?”

“พื้นที่สำหรับโค้ชถูกแบ่งไว้ชัดเจน และอาร์เตต้า ไม่ควรเดินไปมาข้ามเขตนั้น, แต่เขาก็ยังทำอยู่บ่อยครั้ง บางทีถึงขั้นล้ำเข้าไปในสนามด้วยซ้ำ”