เหมือนฉายหนังเก่า!! ลิเวอร์พูล แม่นโทษย้ำแค้น สิงห์บลูส์ คว้าดับเบิ้ลแชมป์

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ที่ สนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ในศึก เอฟเอคัพ *รอบชิงชนะเลิศ (อังกฤษ) เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาในระบบ 4-3-2 นำทัพโดยนักเตะหน้าคุ้นอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,ธิอาโก้ อัลคันทาร่า,ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เหมือนเดิมทั้งหมด 

ขณะที่ เชลซี จะมาสู้ด้วยระบบ 3-4-2-1 พร้อมจัดเต็มชุดใหญ่ เข็นแม้กระทั่ง ก็องเต้ ที่สภาพไม่เต็มร้อยมานั้งอยู่ข้างสนามด้วย ส่วนตัวหลักที่จะลงสนาม ก็มี โรเมลู ลูกากู,เมสัน เม้าท์,จอร์จินโญ่ และ รีซ เจมส์ เป็นต้น 

นาทีที่ 3

เริ่มเกมได้ 3 นาที ลิเวอร์พูล ก็ได้ทักทายก่อนเลยจากจังหวะที่ ดิอาซ เลี้ยงบอลขึ้นเกมทางกราบซ้าย หลุดเข้าไปในเขตโทษได้สำเร็จ ก่อนจะปาดเรียด ไปที่กลางประตู แต่น่าเสียดายที่ ธิอาโก้ วิ่งมาชาร์จไม่ถึงบอล พลาดโอกาสจบสกอร์ เฉยเลย 

นาทีที่ 8

ลิเวอร์พูล จบไม่ได้อีกแล้ว จากจังหวะขึ้นเกมของ ดิอาซ จากทางซ้าย ลากไปจนสุดเส้นหลัง ก่แนจะตบกลับเข้ากลางให้เพื่อน เติมมายิง แต่บอลสุดท้าย มันย้อนหลังทั้ง มาเน่ และ ซาลาห์ เกินไป ทำให้ไม่ได้ยิงกันทั้งคู่

นาทีที่ 28

เชลซี ได้ตอบโต้บ้างจนเกือบได้ประตูออกนำ จากจังหวะที่ พูลิซิช ลากบอลดึงตัวประกบของ ลิเวอร์พูล สองคนก่อนจะเห็นช่องจ่ายให้ อลอนโซ่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่จังหวะจบสกอร์ เจ้าตัวดันยิงไปติดเซฟของ อลิสซอน ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย 

หมดครึ่งเวลาแรก ทั้งสองทีมผลัดกันรุกผลัดกันรับตลอด รูปเกมถือว่าสูสีกันมาก ขาดแค่จังหวะในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้นที่ยังขาดๆ เกินๆ กันอยู่ เชื่อว่าครึ่งหลังถ้าใครแก้โจทย์นี้ได้ก่อน ประตูแรกมาแน่ 

นาทีที่ 48

ครึ่งหลังเป็น เชลซี ที่ดูวูบวาบมากกว่า เฉียดได้ประตูออกนำอยู่บ่อยครั้ง ลูกนี้ก็เหมือนกัน เมื่อพวกเขาได้ฟรีคิก นอกกรอบเขตโทษเยื้องไปทางขวา แต่น่าเสียดายที่ลูกนี้ อลอนโซ่ ดันยิงไปชนคานกระ เด้งออกหลังไปแยบน่าเจ็บใจ 

นาทีที่ 52 

ลิเวอร์พูล ขึ้นเกมสวยเกือบปิดงานได้ จากจังหวะที่ ดิอาซ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว พลิกหนีแนวรับของ เชลซี จนเจอช่องยิง เจ้าตัวจึงกดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลถากเสาแรกออกไปนิดเดียว 

นาทีที่ 90

ก่อนเข้าสู่ช่วยทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูล ก็ได้ลุ้นจาก ดิอาซ อีกแล้ว แต่ลูกนี้ดูเหมือนว่า ดิอาซ จะบดมากไปหน่อย บอลเลยไม่แรงหนีมือของ เมนดี้ เซฟสบายๆ 

หมดเวลาการแข่งขัน คู่นี้จบ 90 นาทีด้วยผลเสมอ ตามคาด จึดต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก จนท้ายที่สุดแล้ว ก็ยืดเยื้อถึงขั้นดวลจุดโทษ และเป็น ลิเวอร์พูล ที่แม่นกว่าชนะไปด้วยสกอร์รวม 6-5 คว้าแชมป์เอฟเอคัพปีนี้ไปครองได้ ในที่สุด 

สนับสนุนไฮไลท์มันส์ๆ จาก ufabet