เอซี มิลาน ประกาศทางการปลด เปาโล มัลดินี่ จากตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร ภายหลังกระแสข่าวไม่ลงรอยกับกลุ่มทุน เรดเบิร์ด เจ้าของทีม
วันจันทร์ที่ผ่านมา “ปีศาจแดง” จัดประชุมวางแผนสำหรับฤดูกาลหน้า และสื่ออิตาลีรายงานว่า การพูดคุยเป็นไปอย่างย่ำแย่ทำให้ความสัมพันธ์มาถึงจุดแตกหัก
มัลดินี่ ต้องการให้ เรดเบิร์ด ให้งบมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของค่าเหนื่อยนักเตะ ขณะที่ เกอร์รี่ คาร์ดินาลี่ หัวเรือใหญ่ของกลุ่มทุนอเมริกา ไม่แฮ็ปปี้กับผลงานเซ็นสัญญา โดยเฉพาะ ชาร์ลส์ เดอ เคตลาร์ และ ดิว็อค โอริกี้
นอกจากนี้ในตลาดซื้อขายที่จะมาถึง มัลดินี่ ต้องการเซ็นสัญญากับผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง มาร์โก อาร์เนาโตวิช และ โดมินิโก้ เบร์ราร์ดี้ แต่แผนของ เรดเบิร์ด มุ่งไปที่ผู้เล่นอายุน้อยมากกว่า
อีกหนึ่งเหตุขัดแย้งคือ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ในตำแหน่งเฮดโค้ชโดย เรดเบิร์ด ยืนยันให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปแน่นอน แต่ มัลดินี่ อยากให้ตัดสินกุนซือรายนี้เข้าชี้แจงผลงานก่อนตัดสินอนาคต
จากปัจจัยทั้งหลายทำให้มีกระแสข่าว ตำนานสโมสรผู้ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2018 เตรียมอำลาทีม และล่าสุด มิลาน ประกาศยืนยันโดยมีผลบังคับใช้ทันที พร้อมกล่าวขอบคุณสำหรับ สคูเด็ตโต้ 1 สมัย และได้กลับสู่เวทีแชมป์เปี้ยนส์ ลีก
Sky Italia ระบุว่า มัลดินี่ ไม่ได้เป็นฝ่ายตัดสินใจอำลาทีม โดยเขาเหลือสัญญาถึง 2024 แต่เจอคำสั่งเบื้องบนจาก คาร์ดินาเล่ โดยตรง
ประกาศสโมสรแจ้งอีกว่า ให้ทีมงานแมวมองซึ่งขึ้นตรงกับ จอร์จิโอ ฟูร์ลานี่ ซีอีโอสโมสร ทำหน้าที่แทน และแม้จะยังไม่มีการพูดถึง เฟรเดริค มาสซาร่า แต่คาดว่ามือขวาของ มัลดินี่ เตรียมตามหัวหน้าไปในไม่ช้า
สำนักข่าวแดนมักกะโรนี แฉเพิ่ม เตโอ เอร์นานเดซ, ราฟาเอล เลเอา และ ไมค์ เมญอง สามสตาร์ของทีมโกรธจัดเมื่อได้รับแจ้งว่า มัลดินี่ อำลาทีม และอาจพิจารณาอนาคตในถิ่น ซาน ซิโร่
“เราทุกคนตกใจมากกับเรื่องนี้ รวมถึงเหล่าผู้เล่นด้วย” พนักงานสโมสร มิลาน รายหนึ่งกล่าวกับนักข่าว
“ภายในเวลา 24 ชั่วโมง เราต้องเสียคนสำคัญไปทั้ง ซลาตัน และ มัลดินี่ ซึ่งเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก”