สตีฟ แม็คมานามาน ตำนานดาวเตะของ ลิเวอร์พูล มองว่าอดีตต้นสังกัดของเขาไม่จำเป็นต้องเซ็นแข้งบิ๊กเนมเพิ่ม และดีพอที่จะคว้าแชมป์ได้หากทุกคนฟิตพร้อม
“หงส์แดง” คว้าตัว อิบราฮิม่า โคนาเต้ ปราการหลังจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาเสริมทัพเพียงรายเดียวเท่านั้นในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ขณะที่คู่แข่งแย่งแชมป์ทุ่มเงินกันหลัก 100 ล้านปอนด์
ยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ต้องเสีย จินี่ ไวจ์นัลดุม หลังสัญญาสิ้นสุดลง และแม้จะมีกระแสเรียกร้องให้หาตัวแทนของแข้งรายนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คว้าใครมาเพิ่มเติม
แม็คมานามาน มองว่า ลิเวอร์พูล ไม่จำเป็นต้องเสริมทัพเพิ่ม หลังทีมชุดปัจจุบันเคยโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม, ตอนไร้วิกฤตเรื่องอาการบาดเจ็บ, เมื่อ 2 ซีซั่นก่อน
“ผมแค่ไม่คิดว่า ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องซื้อนักเตะบิ๊กเนมในช่วงซัมเมอร์นี้ นั่นเป็นเพราะพวกเขามีทีมที่พร้อมคว้าแชมป์ลีกอยู่แล้ว” เขากล่าวกับ TEAMtalk
“ผมมองว่าคุณพอจะหาเหตุผลที่พวกเขาต้องเจอความลำบากและจบอันดับ 3 เมื่อฤดูกาลก่อนได้ พวกเขาเป็นจ่าฝูงช่วงคริสต์มาส และคุณสามารถเห็นได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นและผมก็เข้าใจมันได้”
“ย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนหน้านั้น และก่อนหน้านั้นอีกปี ผมยังคิดว่า ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดนั้นได้วางมาตรฐานเอาไว้ และทีมอื่นๆก็ต้องพยายามตามพวกเขาให้ทัน”
“ผมได้ยินมาว่าเราต้องหาคนมาแทน จินี่ ไวจ์นัลดุม แล้ว อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน, นาบี้ เกอิต้า และ เคอร์ติส โจนส์ ล่ะ? แล้วไหนจะ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, ติอาโก้, ฟาบินโญ่ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สันอีก ผมพูดมา 7 ชื่อแล้วนะ แล้วทำไมคุณต้องหาตัวแทนของ จินี่ ไวจ์นัลดุม เมื่อมีกองกลางอีกถึง 7 คน (เขาพูดก่อนที่ เอลเลียตต์ จะได้รับบาดเจ็บ)”
“แล้วพวกเขาก็จะบอกว่าต้องซื้อกองหน้าเพิ่ม แต่จะเอาไปเล่นตรงไหน? เรามีกองหน้า 4 คนและเราส่งลงได้แค่ 3 แล้วคุณจะเซ็นใครเข้ามาเพื่อให้นั่งเป็นตัวสำรองหรือ? ผมไม่เห็นด้วยนะ”
“มันอาจเป็นเรื่องเยี่ยมที่มีนักเตะระดับทีมชาติถึง 30 คน, มันยอดเยี่ยมที่เป็นทีมอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง, แต่คุณคงไม่อยากเห็นดราม่าเรื่องที่ต้องทำให้พวกเขายังคงแฮปปี้และต้องพยายามส่งลงสนามหรอกนะ”
“ฟอร์มการเล่นของ ลิเวอร์พูล เมื่อ 2 ปีก่อนมันยอดเยี่ยมมาก พวกเขาทำได้ 97 และ 99 แต้ม นั่นคือฟอร์มที่พวกเขาสามารถทำได้ และเป็นเป้าหมายให้ทีมอื่นๆต้องทำตาม”
“หากทุกคนฟิตพร้อม และไม่มีทีมไหนต้องเจอวิกฤตอาการบาดเจ็บแบบ ลิเวอร์พูล เมื่อซีซั่นก่อน ผมมองว่า ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ จะเป็นผู้กำหนดมาตรฐาน”