WANDERING

รีวิว หนัง WANDERING

รีวิว หนัง WANDERING ภาพยนตร์แนวดราม่าจากนวนิยายชื่อดังที่จะทำให้คุณรู้สึกหนักเหมือนกับแบกรถบรรทุกไว้บนบ่า 

หากพูดถึงความดราม่าหลายคนมักจะนึกถึงสื่อจากเกาหลีเนื่องจากสื่อในประเทศนี้มักจะนำเสนอออกมาได้ซาบซึ้งและมีความลึกซึ้งในมิติของอารมณ์ ถึงจะทำให้เราสามารถร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรได้แต่ก็ต้องยอมรับเช่นเดียวกันว่าสื่อจากญี่ปุ่นนั้นหากเทียบแล้วอาจไม่ได้ทำให้เราร้องไห้ถึงขนาดนั้นแต่มีความสามารถในการทำให้เรารู้สึกหน่วงแถมยังหนักบนบ่าตลอดการรับชมได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว เป็นมิติความดราม่าที่แตกต่างกันแล้วแต่ความชอบของคน 

หากคุณชื่นชอบความดราม่าหนักหน่วงที่ทำให้คุณรู้สึกปวดหัวใจ เราขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง WANDERING ภาพยนตร์สัญชาติญี่ปุ่นที่ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนวางขายทั่วประเทศมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 2 ปี ซึ่งนวนิยายเรื่องนี้ได้รับการยกย่องรวมถึงยังได้รับการโหวตให้เป็นวรรณกรรมยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี 2020 อีกด้วย และสิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ดันเป็นผู้กำกับเกาหลีที่อยู่ในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นมาอย่างยาวนานอย่างอีซางอิลอีกต่างหาก ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความดราม่ามากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าเลยทีเดียว 

หนังดราม่า โรแมนติก

ต้องขอเติมเงินเอาไว้ตรงนี้ก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กซึ่งหากใครมีประเด็นทริกเกอร์เกี่ยวกับเด็กเราก็อยากจะให้เว้นภาพยนตร์เรื่องนี้ไปก่อน เพราะถึงแม้ว่าจะมีเด็กในภาพยนตร์แต่เรื่องราวนั้นแทบจะไม่มีความสดใสให้เราได้อมยิ้มเลยแม้แต่น้อย มันอาจจะไม่ได้เศร้าถึงขั้นที่ร้องไห้ออกมาแต่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังแบกรถบรรทุกเอาไว้บนบ่ายังไงอย่างนั้น หากคุณชื่นชอบภาพยนตร์แนวนี้ เราจะพาทุกคนไปดูพร้อมๆ กันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง 

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง WANDERING

WANDERING เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของเด็กนักเรียนชั้นประถมวัย 9 ปีคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก เธอมีปัญหาเนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน พ่อแม่ไม่ได้พาเธอไปอยู่ด้วยทั้งคู่แต่กลับทิ้งเธอไปอยู่กับป้า มันทำให้เธอรู้สึกเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เธอก็ไม่อยากจะกลับไปอยู่กับป้าอีกด้วยเพราะมันไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขเหมือนกับอยู่กับครอบครัวแต่อย่างใด 

ด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นเด็กหญิงที่กำลังเคว้งคว้างบนโลกที่กว้างใหญ่เกินกว่าที่เธอจะรู้จัก ในวันหนึ่งเธอได้บังเอิญพบเข้ากับชายหนุ่มระดับมหาวิทยาลัยคนหนึ่งที่มีอายุห่างกันถึง 10 ปีเลยทีเดียว เขาชวนให้เธอมาอยู่ด้วยกันด้วยความรู้สึกสงสาร แต่กลายเป็นว่าผ่านไปเพียงแค่ 2 เดือนเขากลับถูกตำรวจแจ้งจับในข้อหาคดีลักพาตัว ไม่เพียงเท่านั้นเขายังถูกสังคมตัดสินจนแทบจะไร้ที่ยืนอีกต่อไป เพียงเพราะว่าเขาต้องการจะยื่นมือเข้าไปช่วยเด็กหญิงคนหนึ่งที่เผชิญปัญหาครอบครัวเท่านั้น 

หลังจากที่เด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยถูกจับตัวไปก็ทำให้เธอต้องแยกออกจากเขา ทั้งที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาช่วงชีวิตที่เธอรู้สึกมีความสุขขึ้นมาบ้างก็คือช่วงที่อยู่กับเขาเท่านั้น ผ่านไปเป็นเวลายาวนานถึง 15 ปีเธอกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่ ต้องการที่จะแต่งงานสร้างครอบครัวที่อบอุ่นเพื่อลบปมในวัยเด็ก แต่เธอกลับได้เจอกับเขาอีกครั้ง และการพบกันในครั้งนี้ก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาทั้งสองคนไปตลอดกาล 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง WANDERING

WANDERING เป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กก็จริงแต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความมืดมน สามารถสะท้อนถึงประเด็นความเป็นมนุษย์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือจิตใจเองก็ตาม ตีแผ่ออกมาด้วยการใช้สภาพแวดล้อมเป็นเหตุผลรองรับว่าเพราะเหตุใดพวกเขาจึงมีพฤติกรรมเหล่านั้น นอกจากนี้ยังไปแตะประเด็นศีลธรรมที่ค่อนข้างสูงเสี่ยง ซึ่งถือว่าเป็นความกล้าอย่างมากที่นำเอาเรื่องนี้มาเล่าลงบนภาพยนตร์จอใหญ่

ต้องทำใจก่อนว่าภาพยนตร์แนวดราม่านั้นส่วนมากมักจะเล่าเรื่องราวแบบรอบต่ำ ไปแบบช้าๆ บางครั้งจึงทำให้รู้สึกน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่หากจับประเด็นได้รับรองว่าคุณจะรู้สึกอินไปกับตัวละครได้อย่างไม่ยากเย็นแน่นอน แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบภาพยนตร์แนวดราม่ารับรองว่าคุณจะรู้สึกเบื่อตลอดการรับชมเพราะนอกจากประเด็นเรื่องครอบครัว ความโศกเศร้าในวัยเด็ก นอกเหนือจากนี้ก็แทบจะไม่ได้ไปแตะประเด็นอะไรที่มากกว่านั้นเลยแม้แต่น้อย 

สิ่งที่ดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการที่ผู้กำกับได้ใส่ความมีมิติที่เป็นมนุษย์ให้กับแต่ละตัวละครออกมาได้อย่างค่อนข้างสม่ำเสมอ แต่ละคนจะมีความหลังและความทุกข์ที่เก็บเอาไว้ภายในใจแตกต่างกันออกไป เมื่อนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกันมันจึงกลายเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยดราม่าหนักอึ้งจนทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก เป็นความรู้สึกแบบหน่วงอยู่ในใจมากกว่าที่จะร้องไห้ออกมาแบบเป็นวรรคเป็นเวร

นอกจากนี้งานภาพของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสามารถสร้างบรรยากาศออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม หากสังเกตให้ดีจะพบว่าแต่ละฉากนั้นสามารถสะท้อนอารมณ์ของภาพยนตร์รวมไปถึงแต่ละตัวละครออกมาได้อย่างกำลังพอดี มีการใช้เทคนิคแสงธรรมชาติรวมไปถึงการย้อมสีภาพที่ช่วยให้ผู้รับชมเข้าถึงบรรยากาศภายในภาพยนตร์ได้มากขึ้นกว่าเดิม 


ตัวอย่างหนัง WANDERING

รีวิวหนัง WANDERING บางส่วนจาก trueid

หากจะว่าเป็นอีกหนึ่งหนังญี่ปุ่นที่ดีที่สุดอีกเรื่องประจำปีนี้ก็ไม่เกินเลยสำหรับเรา ดูจบแล้วรักมาก ๆ ทั้งเจ็บปวดและหนักหนาสาหัส เรื่องราวและประเด็นมีความทรงพลังและน่าสะเทือนใจ โดยหนังว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวที่กลับมาเจอกันกับชายหนุ่มอีกครั้ง หลังจากที่ชายหนุ่มถูกตำรวจจับไปเมื่อ 15 ปีก่อน เพราะเขาได้ชวนหญิงสาวคนนั้น (ที่ตอนนั้นยังคงเป็นเด็กหญิง) ไปอยู่ที่บ้านของเขาด้วยกัน ทำให้ผู้คนเข้าใจกันว่าเขาคือคนที่ลักพาตัวเด็กผู้หญิงไป

เป็นหนังที่มีความน่าสะเทือนอกสะเทือนใจทั้งในตัวเรื่องที่ค่อย ๆ มีการเปิดเรื่องราวแต่ละอย่าง เล่าเรื่องอย่างเชื่องช้าสามัญ แต่เปี่ยมด้วยพลังในแต่ละภาพที่ถ่ายออกมาได้งดงาม การเผยปมต่าง ๆ ของตัวละครออกมาทีละเล็กน้อยก็ทำให้หนังมีความเพลิดเพลินและชวนน่าติดตาม จึงทำให้ความยาว 2 ชั่วโมงครึ่งของหนังก็สามารถใช้เวลาเล่าได้อย่างคุ้มค่า แม้ครึ่งหลังนั้นหนังจะดูหมดพลังไปพอสมควร แต่พอหนังเล่าไปถึงช่วงท้ายที่มีการเผยปมใหญ่ที่สุดของหนังออกมา มันก็ส่งให้หนังออกมามีพลังและเต็มด้วยความรู้สึกอย่างยิ่ง ทั้งชวนอึ้งไปกับปมนั้น แต่ก็ชวนเข้าอกเข้าใจถึงความเจ็บปวดอันสาหัสที่หนังได้เล่ามา

ชอบประเด็นของหนังมาก ๆ การว่าด้วยความรักระหว่างผู้ใหญ่และเด็ก ในอีกแง่คือความรักระหว่างผู้ต้องหาและคนธรรมดา ที่ทำให้มีเรื่องของผู้คนในสังคม กระแสสังคม ความถูกต้องและศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งถ่ายออกมาได้อย่างชวนหนักอึ้ง ค่อนข้างตั้งคำถามหลายอย่างถึงความถูกผิดในความสัมพันธ์ ความรักที่มีระหว่างกันและกัน การมองตัวตนระหว่างจากสายตาภายนอกของผู้คนในสังคมในสายตาอันเหยียดหยาม การมองเห็นตัวตนที่เป็นอยู่จริงที่ทำให้เข้าใจถึงความเจ็บปวดอยู่ข้างในมากกว่าการด่าทอกระหนำว่าเป็นพวกใคร่เด็กที่ทุกคนต่างมองเป็น stereotype ทัศนคติมาตรฐานภาพจำที่ทุกคนเป็นเหมือนกัน ทั้งที่ทุกคนต่างมีตัวตนที่แตกต่างกัน มีชีวิตที่ไม่เหมือนกัน และมีความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญที่ต่างกัน ประเด็นก็เล่าออกมาได้เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มนุษย์มาก ๆ

ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้หนังออกมาดีเยี่ยมมากคือการแสดงของ “ซึสึ ฮิโรเสะ” ที่สามารถพลิกบทบาทจากภาพจำของสาวน่ารักและสาวมัธยมจากหนังญี่ปุ่นหลายเรื่องที่หลายคนน่าจะเคยผ่านตากัน มาสู่บทบาทของสาววัยทำงานที่เปี่ยมด้วยปมที่ฝังใจวัยเด็กและความรู้สึกอันหนักอึ้งที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนที่พยายามกีดกันตัวเธอ ส่วน “โทริ มัตสึซากะ” ก็ถือว่านักแสดงได้ดีมากเช่นกัน เป็นบทบาทที่น่าจดจำในมาดสุขุม เก็บตัว แต่เปี่ยมด้วยพลังของความเจ็บปวดที่เก็บกดไว้ในใจผ่านสีหน้าท่าทาง

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ “โยโกฮาม่า ริวเซย์”  ในบทของแฟนของนางเอก ที่เป็นการแสดงที่ทั้งน่าจดจำ สามารถถ่ายทอดอารมณ์และนิสัยตัวละครออกมาได้น่ากลัวน่าสะเทือนขวัญ มีความรุนแรงมาก ๆ จนทำให้คนดูรู้สึกหวาดกลัวได้อย่างดี ส่วนนอกจากประเด็นของการถูกตราหน้าจากสังคมที่พูดถึงได้น่าสะเทือนใจและมีมุมที่น่าสนใจอยู่ในนั้น การเสริมไปด้วยปมตัวละครหลักทั้งการว่าด้วยความรู้สึกไม่สมบูรณ์ของตัวตนของตัวเองจนนำไปสู่ความเจ็บปวดที่ก่อเกิดขึ้น ซึ่งก็ทำให้หนังออกมาน่าเศร้าสลด มันทั้งสะท้อนภาพและผู้คนในสังคม อีกทั้งมันก็เป็นหนัง Coming Of-Age หรือหนังก้าวข้ามผ่านวัยได้ดีเยี่ยม ถึงการที่ต้องก้าวผ่านความเจ็บปวดอันหนักอึ้งที่ต้องแบกรับไว้ตลอดเวลา การพยายามหาความงดงามจากสิ่งรอบข้างและจากตัวพวกเขาเองที่คอยเติมเต็มให้กันและกัน เพราะให้เพื่อให้พวกเขาก้าวข้ามผ่านความเจ็บปวดไปได้