Author: Admin Entertain

หลังจากที่เราได้ชมการรวมทีมของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จากดีซีคอมิกส์กันไปแล้ว ถึงคราวที่เหล่าสัตว์สี่ขามากพลังพิเศษจะได้ออกโรง มาวาดลวดลาย สำแดงฤทธิ์เดชบนจอใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากที่ค่ายวอเนอร์ แอนิเมชั่นประสบความสำเร็จกับ The Lego Movie หรือ The Lego Batman ได้ต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการให้ผู้กำกับจาเรด สเติร์นมารับหน้าที่ในการตั้งคำถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากสัตว์เลี้ยงมีพลังพิเศษขึ้นมา DC League of Super-Pets เล่าเรื่องราวของคริปโต เจ้าตูบเพื่อนรักของซูเปอร์แมน ผู้ต้องกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการช่วยเหลือเหล่าจัสติส ลีก จากวายร้ายเล็กซ์ ลูเธอร์ คริปโตเลยต้องรวมทีมกับเหล่าเพื่อนสัตว์เลี้ยง ที่บังเอิญได้รับพลังพิเศษมาจากหินวิเศษ นอกจากนี้พวกเขายังต้องรับมือกับหนูตะเพาจอมวายร้ายอย่างลูลู่ อันที่จริงเรื่องราวที่ดูเบาบางไม่มีอะไรต้องคิดเยอะ…

ขบวนรถไฟความเร็วสูงที่เต็มไปด้วยนักฆ่า พวกเขาขึ้นมาทำไม แล้วตกลงแล้วใครจะเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย หนังแอ็คชั่นเพี้ยนๆ ผลงานของเดวิด ลิทช์ ผู้กำกับ Deadpool 2 กับ Bullet Train หนังแอ็คชั่นสุดเดือด ผลงานการกำกับของ เดวิด ลิทช์ ผู้กำกับ Deadpool 2 บอกเล่าเรื่องราวของเหล่านักฆ่าที่บังเอิญมาขึ้นรถไฟขบวนเดียวกัน จนเกิดการต่อสู้แบบวายป่วงตลอดเส้นทาง โดยหนังสร้างขึ้นจากหนังสือของ โคทาโร อิซากะหนึ่งในนักเขียนเรื่องลึกลับที่โด่งดังและได้รับความนิยมสูงสุดของญี่ปุ่น เลดี้บั๊กนักฆ่าดวงซวย (แบรด พิตต์) ชายผู้ตั้งใจจะทำงานของตัวเองให้สำเร็จลุล่วง อย่างมีความสุข โดยหลังจากงานของตัวเองเกิดพังไม่เป็นท่ามาหลายครั้งหลายหน แต่ดูเหมือนโชคชะตามักจะเล่นตลกอยู่กับเขาเรื่อยๆ ภารกิจล่าสุดเลดี้บั๊กจึงต้องเผชิญหน้ากับเหล่าศัตรูจากทั่วทุกมุมโลก…

Nope คือหนังอะไร หนังผี หนังคาวบอย หนังเสียดสีสังคม หนังสยองขวัญ หนังอาร์ท หรือหนังสัตว์ประหลาด หรือถูกทุกข้อ? ผู้กำกับ-เขียนบท จอร์แดน พีล เชี่ยวชาญนักในการผสมตระกูลหนัง เขย่าขวด ยั่วคนดูทั้งก่อนหนังฉายและระหว่างชมให้คาดเดาไปต่าง  ๆ นา ๆ ว่าหนังจะไปทางไหน โดยใส่ความแปลกประหลาดเฉพาะตัวที่ทั้งหลอนทั้งตลกไประหว่างทาง หนังสองเรื่องแรกของเขา Get Out! และ Us เป็นหนังที่ซ่อนประเด็นเชื้อชาติและประวัติศาสตร์ของคนผิวสีไว้ภายใต้เปลือกหนังสยองขวัญทั้งแบบแนบเนียนเรียกร้องให้คิดลึกและทั้งแบบโจ่งแจ้งไปได้พร้อม ๆ กัน3+ดูภาพทั้งหมด สำหรับหนังเรื่องล่าสุด Nope – แปลว่า “ไม่” แต่อยากจะตะโกนสวนไปว่า “ชั่ย!” – พีลดูสนุกสนานกับการเล่าเรื่อง การสร้างฉาก…

สิ่งแรกที่ต้องบอกไว้ก่อนแบบจริงใจเลยก็คือ ที่ผมกำลังจะพูดเกี่ยวกับหนัง Look Both Ways นี้ ไม่มีความเป็นกลางครับ เพราะผมตกหลุมรักหนังเรื่องนี้เข้าจังเบ้อเร่อเลยล่ะ มีหนังอยู่แนวหนึ่งที่จริงๆ ผมชอบมาก แต่เนื่องด้วยไม่ค่อยมีหนังแนวนี้ออกมาสักเท่าไร ผมเลยมักจะลืมนึกถึงไป นั่นคือหนังแนว What If ครับ หนังที่เล่าเรื่องราวคู่ขนานประมาณว่า ถ้าคุณเลือกแบบนี้ชีวิตก็จะไปทางนี้ แต่ถ้าเลือกอีกแบบชีวิตก็จะไปอีกทาง แบบเรื่อง Sliding Doors น่ะครับ และเรื่องนี้ก็เป็นแนวนั้นแบบเต็มๆ กับเรื่องของนาตาลี (Lili Reinhart) สาวน้อยที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนสนิทที่ชื่อเก้บ (Danny Ramirez) แล้วหนังก็ดำเนินไปถึงทางแยกครับ ทางหนึ่งก็คือจะเป็นอย่างไรถ้านาตาลีเกิดท้อง? และอีกทางคือถ้าเธอไม่ท้องแล้วชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร? ว่าตามจริงหนังอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมดน่ะนะครับ…

ถ้ามีคนเห็นผมตอนนั่งดู Malignant อาจคิดว่าผมโรคจิตก็เป็นได้ครับ เพราะผมดูไปยิ้มไปเกือบตลอดเรื่องเลย จริงๆ อยากดูหนังเรื่องนี้มานานพอสมควรแล้วครับ แต่ไม่สบโอกาสเพราะทั้งภรรยาและลูกต่างก็ไม่ถูกกับหนังสยอง ครั้นจะดูตอนพวกเขาอยู่ก็อาจต้องดูไป Pause ไปให้สะดุด เลยตัดสินใจรอจนอยู่บ้านคนเดียวแล้วเปิดดูครับ จะได้ดูต่อเนื่องแบบครบถ้วนทางอารมณ์ แล้วพอได้ดูก็ถูกใจครับ เข้าทางผมอย่างยิ่งเลยล่ะ – ได้ข่าวว่า Stephen King กับ Nicolas Cage ก็ชอบหนังเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน หนังมาในแนวฆาตกรรมซ่อนเงื่อนยุค 80 – 90 ตามความตั้งใจของผู้กำกับ James Wan ที่คิดพล็อตเรื่องร่วมกับ Ingrid Bisu ภรรยาของเขา โดยทำออกมาเพื่อคารวะหนังแนว Giallo อันหมายถึงหนังแนวฆาตกรรมของอิตาลีที่จะผสมผสานระหว่างความซ่อนเงื่อน เปื้อนเลือด และบรรยากาศหลอน และผู้กำกับที่ถือเป็นจอมสำหรับหนังแนวนี้ก็คือ Dario Argento ครับ…

ไม่แน่ใจเหมือนกันครับว่าจะมีปีต่อไปไหม เพราะปีแรกออกมาถือว่าเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เด็ดขาดเป็นพิเศษอะไร สไตล์เรื่องมาแนว Constantine + Supernatural ครับ ตัวเอกคือ มาเรีย อบาสคัล (Mena Suvari) นักล่าปีศาจที่มีปีศาจแฝงอยู่ในตัวเธอครับ สิ่งที่เธอทำก็คือตระเวนไปทั่วเพื่อสยบปีศาจ ก่อนที่ปีศาจในร่างเธอจะทำการดูดกลืนพวกมันเป็นอาหาร หนังไปถ่ายทำที่เซาธ์แคโรไลน่าครับ บรรยากาศกลิ่นอายได้อารมณ์วูดูผสมปีศาจแบบบ้านทุ่งอยู่เหมือนกัน (คล้ายๆ นิว ออร์ลีนส์ แต่จะไม่หม่นเท่าน่ะครับ) และ Suvari ก็ดูสวย มีเสน่ห์มากๆ โดยส่วนตัวแล้วดีใจครับที่เธอได้กลับมาเล่นบทนำ เพราะเธอต้องเล่น 2 บทด้วย…

ปรับโหมดมาดูหนังชีวิตที่มาพร้อมกับแนวคิดและไอเดียการเล่าเรื่องที่เหมือนกับการรีไซเคิลหยิบกลับมาใช้ซ้ำใหม่ ในหนังดราม่าเรื่องเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “Look Both Ways สองทาง” ที่อาจจะเป็นโครงสร้างคล้าย ๆ กับหนังแนวเหมือนกันที่เคยได้ดูเมื่อสัก 20 ปีที่แล้ว แต่เมื่อนำมาเรียบเรียงเล่าแบบนี้อีกครั้งในปัจจุบันนี้ คำถามคือว่า…วิธีแบบนี้ยังจะเวิร์กอยู่หรือไม่? Look Both Ways เล่าเรื่องราวในคืนก่อนวันรับปริญญา ชีวิตของ นาตาลี ต้องดำเนินไปในเส้นทางคู่ขนาน ในเส้นทางแรก เธอพบว่าตัวเองตั้งครรภ์และใช้ชีวิตอยู่เลือกที่จะอยู่ที่บ้านเกิดของตัวเอง ขณะที่ในอีกเส้นทางหนึ่ง เธอไม่ได้ท้องและเลือกย้ายไปอยู่ลอสแอนเจลิส การก้าวเดินไปในทั้งสองเส้นทางนี้ ทำให้นาตาลีได้สัมผัสประสบการณ์รักพลิกชีวิต เดินตามฝันในการเป็นศิลปิน และได้ค้นพบตัวตนของเธออีกครั้ง นี่คือผลงานของผู้กำกับหญิงดาวรุ่งไฟแรงชาวเคนยา “วานุริ…

เท่าที่เห็นตอนนี้ คะแนนนิยมของซีรี่ส์นี้ถือว่าไม่เลวครับ เหมือนจะมีคนโดนใจอยู่ไม่น้อย แต่ผมเองนั้นต้องขอสารภาพเลยครับว่า ดูแล้วก็โอเค ชอบในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้ชอบมากเท่ากับ DareDevil หรือ Jessica Jones 2 ตอนแรกนี่ผมว่าเวิร์กครับ เปิดเรื่องเกริ่นเล่าปูเข้าพล็อตหลักได้ดี มีปมให้เราสนใจอยู่พอสมควร แต่ตอนที่ 3 – 9 สำหรับผมนั้นถือว่าออกแนว “เรื่อยๆ” ถ้าให้พูดตรงๆ คือผมว่าจริงๆ ถ้าเขียนบทรวบให้เหลือ 2 – 3 ตอนได้ก็คงจะดี ว่าง่ายๆ คือมันดูเป็นการ…

The Librarians เริ่มต้นจากการเป็นหนังสำหรับฉายทีวีครับ ทำออกมา 3 ภาคโดยมี Noah Wyle แสดงเป็น ฟลินน์ คาร์เซ่น ยอดบรรณารักษ์ที่มีหน้าที่ปกป้องสมบัติมหัศจรรย์ทั่วโลก และล่าสุด The Librarians ก็ถูกสานต่อในรูปแบบซีรี่ส์ครับ ซึ่งปี 1 ก็ทำออกมาได้สนุกสนาน ดูแล้วไม่ผิดหวังทีเดียว โดยฉบับซีรี่ส์ในปีแรกนี้ บทของฟลินน์กลายเป็นบทสมทบครับ ส่วนตัวเอกก็กลายเป็นเหล่าบรรณารักษ์รุ่นใหม่อย่าง เจค สโตน (Christian Kane), แคนแซนดร้า ซิลเลียน (Lindy Booth) และ เอเซคีล โจนส์ (John…

Guillermo del Toro สร้างชื่อจากการที่เขาเป็นผู้กำกับสายหนังดูเอามัน แต่ก็ทำหนังที่มีเนื้อหาจริงจัง หนักหน่วง ควบคู่กันไปได้เป็นอย่างดี ผลงานอย่าง Pan’s Labyrinth , Hellboy , Pacific rim และงานระดับ Oscar อย่าง The Shape Of Water การันตีว่าเขาคือคนทำหนังคุณภาพคนหนึ่งของวงการ11+ดูภาพทั้งหมด11+ดูภาพทั้งหมด เอกลักษณ์ของหนัง Guillermo del Toro คือการสร้างโลก Gothic ที่งดงามและเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดที่มีมนุษยธรรม แต่มีมนุษย์ที่ชั่วร้าย มีการดีไซน์สิ่งต่างๆในหนังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง และเรื่องราวของ Pinocchio นั้นเป็นอะไรที่เขาหลงไหลมาเนิ่นนาน และถึงเวลาที่เขาจะนำมันมาเล่าเรื่องราวบนแผ่นฟิล์ม11+ดูภาพทั้งหมด11+ดูภาพทั้งหมด Pinocchio ฉบับของ Guillermo del Toro นั้นจะพาคนดูย้อนกลับไปสู่รากเหง้าของ Pinocchio อ้างอิงจากนวนิยายของ Carlo Collodi ในปี 1883 ซึ่งออกมาในรูปแบบ Stop-motion เขาได้เล่าเรื่องที่มืดมนและบิดเบี้ยวของเทพนิยายอิตาลีสุดคลาสสิก ซึ่งที่ผ่านมามันได้ถูกสร้างเป็นทั้งละครโทรทัศน์ ละครเวที และดัดแปลงในรูปแบบต่างๆมานับไม่ถ้วนเป็นเวลากว่า 100 ปี