เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า เปิดสนาม สตาดิโอน โอลิมปิโก้, กรุงโรม ประเทศอิตาลี ต้อนรับการมาเยือนของทัพม่วงมหากาฬ ฟิออเรนติน่า ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เอเอส โรม่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ไบรอัน คริสตันเต้ กองกลางห้องเครื่อง เฮนริค มคิทาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์จอมเทคนิค และ แทมมี่ อับราฮัม กองหน้าป้ายแดงที่เพิ่งย้ายมาสู่ทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ วินเชนโซ่ อิตาเลียโน่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า กองกลางห้องเครื่อง โฆเซ่ กาเยฆ่อน ตัวจี๊ดริมเส้น และ ดูซาน วลาโฮวิช ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 14
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกสูสี จังหวะนี้เป็นทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ที่ได้ลุ้นประตูก่อน เมื่อ เอริค ปุลการ์ โยนฟรีคิกจากกลางสนาม ลอยโด่งเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ นิโกลัส กอนซาเลซ ได้สปีดขึ้นมาโหม่งชงเข้ากลาง ไปชนตัวของ ไบรอัน คริสตันเต้ เปลี่ยนทางเข้ากรอบประตู แต่ยังดีที่ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยืนอยู่ไม่ห่าง รับเอาไว้ได้ทัน
นาที 17 ใบแดง!!!
เกมเริ่มมาได้ไม่นาน เป็นทางฝั่งทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ที่ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนตั้งแต่ต้นเกม เป็นจังหวะที่ โรเจอร์ อิบันเญซ เปิดบอลยาวจากแดนหลังข้ามแนวรับไปให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้บอลกำลังจะได้ลากหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในเขตโทษ แล้วเป็น บาร์โตเมีย ดราโกลสกี้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน วิ่งออกมาตัดฟาล์วกองหน้าป้ายแดงรายนี้ล้มลงไป ลูก้า ไพเร็ตโต้ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ไม่รีรอ วิ่งมาควักใบแดงโดยตรง ไล่เจ้าตัวออกจากสนามทันที
นาที 24
เจ้าถิ่น โรม่า เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ริค คาร์สดอร์ป เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปาดเลียดมาที่เสาแรก แล้วเป็น แทมมี่ อับราฮัม ข้ามหลอก ปล่อยบอลเลยมาให้ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ได้ตวัดยิงด้วยขวาเน้น ๆ แบบไม่จับ บอลพุ่งแรงโค้งสวย เฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 26 GOAL!!!
เจ้าถิ่น โรม่า มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะที่ แทมมี่ อับราฮัม สปีดขึ้นมารับลูกแทงทะลุช่องที่มุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย โยกตัดเข้าในมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายยัดตามช่องตรงกลางดื้อ ๆ ให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน พลิกบอลหลุดเดี่ยว ได้ล่อเป้าบริเวณจุดโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเน้น ๆ สวนตัว ปีเอโตร แทร์ราซเซียโน่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม ผู้ตัดสินทีแรกไม่ให้ประตู สุดท้ายเช็ค VAR แล้วกลับคำ กลายเป็นเจ้าถิ่น ที่ขึ้นนำจนได้
นาที 29
ทีมเยือน ฟิออเรติน่า ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา เอริค ปุลการ์ เปิดโค้งมาที่เสาไกลซ้ายมือให้ ดูซาน วลาโฮวิช ได้วิ่งสอดมาวางเท้าหวดด้วยซ้ายเต็ม ๆ แต่ทว่า บอลพุ่งแรงหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 31
เจ้าถิ่น โรม่า มีโอกาสได้ลุ้นประตูหนีห่าง เป็นจังหวะที่ นิโคโล่ ซานิโอโล่ ขโมยบอลจากเท้าของ ยุสเซฟ มาเล่ห์ มาได้ดื้อ ๆ เจ้าตัวกระชากพาบอลด้วยความเร็วขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อ พุ่งแรงเป็นจรวดไปที่เสาแรกขวามือ ปีเอโตร แทร์ราซเซียโน่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ต้องออกแรงเซฟ ผวาพุ่งไปปัดออกหลังได้ทันเฉียดฉิว ได้เป็นเตะมุม
นาที 34
ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า เกือบได้ประตูตีเสมอเหมือนกัน เป็นจังหวะโยนบอลยาวโต้กลับ ทิ้งมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า เจ้าตัวจับบอลลงพื้นอย่างนิ่มนวล ตามด้วยม้วนตัวพลิกบอลเร็วหนี มาติอัส บิญญ่า ไปได้อย่างสวย หลุดทะลุลากจี้เข้าไปที่เสาแรกขวามือ ก่อนจะบรรจงซัดด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปิดเสาไว้อยู่แล้ว ล้มตัวขวางได้ทันหวุดหวิด ได้เป็นเตะมุม
นาที 42
ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ได้บุกต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาอีกครั้ง แล้วเป็น เอริค ปุลการ์ เจ้าเก่า ที่เปิดบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลให้ ดูซาน วลาโฮวิช คนดีคนเดิม ได้โขกเหน่ง ๆ กดลงพื้นเน้น ๆ แต่บอลดันไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 43
ก่อนหมดครึ่งแรก เจ้าถิ่น โรม่า มีโอกาสลุ้นอีกครั้ง เป็นจังหวะ มาติอัส บิญญ่า จ่ายบอลขนานเส้นขึ้นหน้ามาให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ทางกราบขวา เจ้าตัวรับบอลมาแล้วเหลือบไปเห็นนายทวารทีมเยือนออกมาไกลจากปากประตู ก่อนจะตัดสินใจเปิดโด่งกึ่งยิงกึ่งผ่านไปที่เสาไกลซ้ายมือ บอลทิศทางเข้ากรอบประตูแบบได้ลุ้น แต่เป็น ปีเอโตร แทร์ราซเซียโน่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ถอยมารับไว้ได้ทัน
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก เป็นเจ้าถิ่น โรม่า ที่เกมรุกดูวูบวาบน่ากลัวกว่าพอสมควร ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้ว แถมตัวผู้เล่นยังมากกว่าอีกด้วย ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ถือว่ามีโอกาส สวนมาลุ้นประตูตีเสมออยู่หลายครั้งเหมือนกัน สุดท้ายทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ โรม่า 1 ฟิออเรนติน่า 0 !!!
นาที 52 ใบแดง!!!
เริ่มเกมครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น โรม่า ที่ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนบ้าง เป็นจังหวะเหมือนจะไม่มีอะไร อยู่ดี ๆ นิโคโล่ ซานิโอโล่ ไปไล่บอลใช้มือดึง นิโกลัส กอนซาเลซ ตัดฟาล์วตรงกลางสนาม เจ้าตัวมีใบเหลืองติดตัวอยู่ก่อนแล้ว ผู้ตัดสิน ลูก้า ไพเร็ตโต้ วิ่งปรี่มาแจกใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ตะเพิดมิดฟิลด์เจ้าถิ่นรายนี้ ออกจากสนามไป
นาที 55
ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า น่าจะได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ คริสเตียโน่ บิรากี บรรจงหยอดบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ นิโกลัส กอนซาเลซ ที่วิ่งสอดขึ้นมา โหม่งสะบัดเช็ดเข้ากลางให้ ดูซาน วลาโฮวิช ที่ยืนหันหลังให้ประตูพิงตัวประกบอยู่ ได้จับบอลลงแล้วพลิกบอลไปตวัดยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าโดนไม่ค่อยเต็มเท้า บอลเบาแถมตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ตะปบไว้ได้สบาย
นาที 59
หลังจากตัวผู้เล่นเท่ากัน เป็นทางฝั่งทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกใส่เจ้าอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เอริค ปุลการ์ เก็บบอลแถวสองได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ยิงสวนกลับเข้าไปอีกครั้ง บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ สุดท้ายเป็น รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น พุ่งไปรับไว้ได้ทัน
นาที 60 GOAL!!!
ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า มาได้ประตูตามตีเสมอจนได้เป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย คริสเตียโน่ บิรากี เล่นลูกสูตร จ่ายเลียดมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เอริค ปุลการ์ ได้บรรจงตักบอลโด่งไปที่หน้าเสาไกลขวามือให้ นิโคล่า มิเลนโควิช ได้วิ่งสอดมาจับบอลให้ลอยเข้าเหลี่ยม ก่อนจะฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายโล่ง ๆ พุ่งกระดอนพื้นลอดหว่างขา รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 62
เจ้าถิ่น โรม่า เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ ได้ลูกทุ่มทางขวา ริค คาร์สดอร์ป ทุ่มบอลเร็วมาให้ ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ ได้โชว์ความเหนือชั้น กระดกบอลข้ามหัว คริสเตียโน่ บิรากี หลบมาได้สวย ก่อนจะครอสบอลโค้งไปที่หน้าประตูให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้วิ่งโฉบมาโขกเหน่ง ๆ เต็มกบาลโล่ง ๆ พุ่งไปชนคานอย่างจังสนั่นหวั่นไหว บอลกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 64 GOAL!!!
เจ้าถิ่น โรม่า มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม เจ้าตัวกระชากพาบอลสวนกลับเร็วขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ แทงทะลุช่องต่อให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้ากลางมาที่หน้าประตูคืนมาให้ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ที่วิ่งสอดตามขึ้นมาได้ชาร์จจ่อ ๆ แต่ไม่โดน สุดท้ายบอลเลยไปที่หน้าเสาสองเข้าทาง จอร์แดน แวร์กตูต์ ได้แปด้วยซ้ายโล่ง ๆ ไม่จับ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 76
ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ดูซาน วลาโฮวิช ลากพาบอลขึ้นมาเอง เจ้าตัวไหลตามช่องต่อให้ มาร์โก เบนาสซี่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 79 GOAL!!!
เจ้าถิ่น โรม่า มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางกราบขวา เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ลากเลื้อยหนีผู้เล่นทีมเยือน ตัดเข้ามาตรงกลางถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะแทงทะลุช่องหักข้อตัดหลังแนวรับคิลเลอร์พาสให้ จอร์แดน แวร์กตูต์ ได้วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดด้วยขวาเน้น ๆ ตามน้ำสวนตัว ปีเอโตร แทร์ราซเซียโน่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 90
เจ้าถิ่น โรม่า ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ การ์เลส เปเรซ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ลากพาบอลจี้ขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวแทงบอลทะลุช่องให้ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะจิ้มเร็วจ่อ ๆ ยัดมุมแคบที่เสาแรกซ้ายมือ บอลพุ่งไปติดเซฟของ ปีเอโตร แทร์ราซเซียโน่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว ขวางบอลเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 90+3
ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะของ ดูซาน วลาโฮวิช ศูนย์หน้าเนื้อหอม ที่ได้ครองบอลบริเวณหน้าเขตโทษ เจ้าตัวหาโอกาสพลิกตัวเข้าเหลี่ยมยิงอย่างสวย ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีตัวเท่าไหร่ สุดท้าย รุย ปาตริซิโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังรับไว้ได้ทัน
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น เอเอส โรม่า เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 !!! เขยิบขึ้นมารั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะออกไปเยือนซาแลร์นิตาน่า ในวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านฟิออเรนติน่า ร่วงมาอยู่อันดับที่ 18 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับโตริโน่ ในวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม ก่อนหน้าวันนึง