กรีลิชปลดล็อค-เดอบรอยน์ซัดเบิ้ล!! “แมนซิตี้” ใจทมิฬ เปิดบ้านถล่มทัพยูงทอง 7-0 นำโด่งจ่าฝูง

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 17 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-1-3-2 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์  ริยาด มาห์เรซ ปีกจอมพลิ้ว และ ฟิล โฟเด้น กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย สจ๊วร์ต ดัลลัส กองกลางสารพัดประโยชน์ ราฟินญ่า เพลย์เมกเกอร์ตัวจี๊ด และ แดเนี่ยล เจมส์ รับบทศูนย์หน้าจำเป็น

นาที 3

เปิดฉากมา เป็นเจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โหมบุกใส่คู่แข่งทันที จังหวะนี้ แจ็ค กรีลิช สบโอกาสของลองยิงด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นประตู อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ นายด่านทีมเยือน เซฟเอาไว้ทันเวลา

นาที 6 

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะ ดักบอลได้แล้วสวนกลับเร็วจากกลางสนามมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งสอดหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจ่ายถวายพานให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้ซัดหน้ากรอบ 6 หลาเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลถากเสาแรก หลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 8 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ โรดรี้ เอร์นานเดซ กระชากบอลแหวกทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาตัดบอลได้ไว ปั๊มกระฉอกออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ได้หวดสวนโล่ง ๆ นอกกรอบระยะ 18 หลา ส่งพุ่งผ่าน สจ๊วร์ต ดัลลัส ที่ยืนคุมเส้นอยู่ พยายามสกัดแต่หวดโดนไม่ดี บอลปลิ้นเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือ

นาที 13 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างออกไปอย่างรวดเร็วเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ต่อเนื่องจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ดีเอโก้ ยอเรนเต้ โหม่งเคลียร์กลับออกมาเข้าทาง ริยาด มาห์เรซ ได้ตั้งป้อมบรรจงครอสบอลจากทางริมเส้นด้านขวาเข้าไปที่กลางประตูให้ แจ็ค กรีลิช โฉบมาโขกเน้น ๆ เต็มกบาลผ่านมือ อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 27

เกมยังคงเป็นของเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่เพียงฝ่ายเดียว จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ลากบอลมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะของลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าดันไปตรงตัวของ อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 28 VAR!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบจะโดนใบแดง จากจังหวะ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่ยืนเป็นตัวสุดท้าย ไปวิ่งตัดหน้า ราฟินญ่า แล้วเหมือนเจตตาใช้มือปัดบอลก่อนหลุดเข้าเขตโทษ ผู้เล่นทีมเยือน พยายามโวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษ ทว่าผู้ตัดสิน พอล เทียร์นี่ย์ ยังใจแข็งไม่ได้ว่าอะไร ส่วนทางด้าน VAR เช็คแล้วก็ยังยืนยันว่าไม่ได้เป็นแฮนด์บอล โชคดีไปสำหรับทัพเรือใบ

นาที 32 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ ประสานงานดันอย่างสุดสวย โรดรี้ เอร์นานเดซ แทงบอลดีดไซด์ก้อยทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งสอดหลุดเข้าไปซัดมุมแคบสวนตัว อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาแรก เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม

นาที 38

ทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ครึ่งแรก เมื่อ เจมี่ แช็คเคิลตัน มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทัพยูงทองต้องเปลี่ยนเอา มาเตอุสซ์ คลิช ลงสนามมาเล่นมิดฟิลด์แล้วขยับเอา สจ๊วร์ต ดัลลัส ลงไปยืนแนวรับแทนในช่วงเวลาที่เหลือ

นาที 41

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เควิน เดิน บรอยน์ จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ ฟิล โฟเด้น ได้โยกหาช่อง ก่อนจะซัดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นเฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่ยืนมองแล้วด้วย

นาที 45+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะที่ เควิน เดอะ บรอยน์ พลิกบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายได้สวย ก่อนจะสบโอกาสได้วางเท้าหวดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ทว่ากดไม่ลง ส่งบอลพุ่งแรงแถมติดส่าย เหินข้ามคาน หลุดกรอบออกหลังไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่

หมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ทัพเรือใบเป็นฝ่ายพับสนามบุกใส่ทีมเยือน ทัพยูงทอง อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูทิ้งห่างออกไปไกลแล้วถึงสามลูกด้วยกัน สกอร์ตอนนี้ แมนซิตี้ 3 ลีดส์ 0 !!!

นาที 49 GOAL!!! 

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูทิ้งห่างออกไปเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายบอลออกขวาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ขยับเข้าไปในเขตโทษ เจ้าตัวโยกตัดเข้าในเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะซัดเน้น ๆ ไปแฉลบขาของ จูเนียร์ ฟีร์โป้ พุ่งเปลี่ยนทางผ่านหน้า อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 52

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้น ประมาณ 20 หลา บริเวณริมกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วเป็น ริยาด มาห์เรซ รับอาสา เล่นลูกลักไก่หลอกยิง วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าดันไปตรงตัวของ อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาปัดทิ้งข้ามคานไปได้ทันหวุดหวิด

นาที 54

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวโยกเข้าซ้าย ก่อนยกบอลข้ามแนวรับอย่างสวย ลอยลึกเลยไปที่เสาไกลให้ อิลคาย กุนโดกัน สอดมาดีดด้วยขวาแบบไม่จับ ส่งบอลผ่านหน้าปากประกบ ถากเสาขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 55

ทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะผิดพลาดของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ โขกสกัดไม่ดีมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง สจ๊วร์ต ดัลลัส วิ่งมายิงสวนด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ไซด์โค้งไปเช็ดเสาเหลี่ยมนอก ปลิ้นหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 61

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะ แจ็ค กรีลิช ขยันตามมาฉกบอลจาก ราฟินญ่า บอลหลุดมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ ไหลเร็วต่อให้กับ  ริยาด มาห์เรซ โล่ง ๆ ในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะปาดเลียดไปที่หน้าประตูให้ ฟิล โฟเด้น ชาร์จจ่อ ๆ เข้าประตูไป เสียดายโดน VAR จับล้ำหน้า เจ้าตัวถลำไปแค่นิดเดียวเท่านั้น น่าเสียดายสุด ๆ จังหวะนี้ 

นาที 62 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 5-0 !!! จากจังหวะความผิดพลาดของ อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกบอลไม่ดี แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน เก็บได้แล้วจ่ายมาที่หน้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะตั้งป้อมวางเท้าตะบันด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ ระยะกว่า 25 หลา ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดผ่านมือของนายทวารลีดส์ เสยเพดานเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 74 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูครึ่งโหล 6-0 !!! จากจังหวะ ครอสทางขวาโค้งเข้าไปที่กรอบ 6 หลาถึง แฟร์นานดินโญ่ ได้โขกเหน่ง ๆ โดน อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟออกมาเข้าทางปืนของ จอห์น สโตนส์ ได้ซ้ำดาบสองเน้น ๆ ซัดเต็มข้อเสยใต้คานเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 78 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่องสวรรค์ชั้นเจ็ด จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ฟิล โฟเด้น บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปทางเสาไกล แล้วเป็น นาธาน อาเก้ สลัดหนีตัวประกบ เทคตัวเอาชนะ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ ได้กระโดดโหม่งเหน่ง ๆ คนเดียว ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก เรือใบนำไปถึง 7-0 !!!

นาที 88

ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 30 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วก็เป็น เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงน้ำหนักใช้ได้ ทว่าทิศทางไม่มุมเท่าไหร่ อัลลอง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับเอาไว้ได้ทัน

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 7-0 !!! นำโด่งจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้ โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านลีดส์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 16 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับอาร์เซน่อล ในคืนวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม ก่อนหน้าหนึ่งวัน