ดราม่าซ้อนดราม่า!! ทัพแซมบ้า “บราซิล” บุกมาทำได้แค่เสมอ “เอกวาดอร์” ไปแบบเข้มข้นด้วยสกอร์ 1-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพแร้ง เอกวาดอร์ เปิดสนาม เอสตาดิโอ โรดรีโก้ ปาซ เดลกาโด้, กีโต้ ประเทศเอกวาดอร์ ต้อนรับการมาเยือนของทัพแซมบ้า บราซิล ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอกวาดอร์  ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ กุสตาโว่ อัลฟาโร่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย คาร์ลอส กรูเอโซ่ กองกลางห้องเครื่อง กอนซาโล่ ปลาต้า ตัวทำเกมริมเส้น และ เอนเนอร์ วาเลนเซีย ศูนย์ตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน บราซิล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ติตี้ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย คาเซมีโร่ กองกลางห้องเครื่อง  ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว และ วินิซิอุส จูเนียร์ ศูนย์หน้าความเร็วสูงของทีม

นาที 2

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอกวาดอร์ ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำไว จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบบริเวณฝั่งซ้าย เปร์วีส เอสตูปินญาน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยลึกไปที่เสาไกลให้ เอนเนอร์ วาเลนเซีย ได้โฉบมาโขกกดลงพื้นเหน่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ระยะไม่กี่หลา ส่งบอลเฉียดเสาขวามือ สุดท้ายกระดอนหลุดออกหลังไปเองแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 6 GOAL!!!

ทีมเยือน ทัพแซมบ้า บราซิล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แล้วเป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ตามมาเก็บบอลเอาไว้ได้ที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหยิดไปที่เสาไกลให้ มาเธอุส กุนญ่า เทคตัวขึ้นโขกไปติดบล็อก สุดท้ายบอลกระฉอกมาเข้าทางปืนของ คาเซมีโร่ เจ้าตัวได้ซ้ำจ่อ ๆ ระยะเผาขน ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 15 ใบแดง!!!

สถานการณ์ของเจ้าบ้าน เอกวาดอร์ ต้องย่ำแย่ขึ้นไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะที่ อาเลชานเดร์ โดมิงเกซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น วิ่งออกมาตัดบอลหน้ากรอบเขตโทษแล้วเจตนาไปยกเท้าสูง เปิดปุ่มยันเข้าไปใส่ มาเธอุส กุนญ่า อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสิน วิลมาร์ โรลแดน เป่าฟาล์วทันที ก่อนจะขอวิ่งไปเช็ค VAR เพื่อความชัวร์ สุดท้ายกลับลงมาแจกใบแดงให้นายทวารเจ้าถิ่นโดยตรง ตะเพิดออกจากสนามไป

นาที 19

จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน บราซิล ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณเส้นหน้าหัวกระโหลกพอดี แล้วก็เป็น ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่มุดช้าไปหน่อย สุดท้ายเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไป ยังไม่ได้ลุ้นอะไรมาก

นาที 20 ใบแดง!!!

ทีมเยือน บราซิล ต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคนเช่นกัน เมื่อ เอเมอร์สัน รอยัล ที่พลาดโดนใบเหลืองเร็วตั้งแต่นาทีแรก เจ้าตัวไปเสียเหลี่ยมตัดฟาล์วโดนใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง สุดท้ายโดนไล่ออกจากสนามไปอีกคน ต้องกลับเข้าไปอาบน้ำก่อนเพื่อน

นาที 22

จากจังหวะต่อเนื่อง เจ้าถิ่น เอกวาดอร์ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย เปร์วีส เอสตูปินญาน เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น มอยเซส ไกเซโด้ ได้เทคตัวขึ้นโขกเน้น ๆ ทว่ากดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 31 VAR!!!

ทีมเยือน บราซิล หวิดต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่เก้าคน จากจังหวะที่ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาหวดสกัดบอลทิ้งหน้ากรอบเขตโทษ ทว่าจังหวะตามน้ำ เจ้าตัวยั้งขาไม่อยู่ไปโดนบริเวณหัวของ เอนเนอร์ วาเลนเซีย ร่วงลงไปนอน ผู้ตัดสิน วิลมาร์ โรลแดน ไม่รอช้า วิ่งมาควักใบแดงให้อย่างมั่นใจ ก่อนที่จะขอเช็ค VAR สุดท้ายกลับลงมาเปลี่ยนคำตัดสิน แจกเป็นใบเหลืองให้แทนชนิดงงกันทั้งสนาม

นาที 33

จังหวะนำต่อเนื่อง เจ้าถิ่น เอกวาดอร์ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ แล้วเป็น เปร์วีส เอสตูปินญาน รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ทว่ายังไม่เข้าเป้า สุดท้ายบอลยังเหินข้ามคานออกไปไม่ได้ลุ้น

นาที 42

เจ้าถิ่น เอกวาดอร์ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะไกล ทางฝั่งซ้ายเกือบครึ่งสนาม เปร์วีส เอสตูปินญาน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เอนเนอร์ วาเลนเซีย สอดมาโขกโล่ง ๆ เหน่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ส่งบอลสุดท้ายเฉียดเสาแรกซ้ายมือออกไปอีกอย่างน่าเสียดาย

นาที 45+3

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น เอกวาดอร์ ได้ลุ้นขึ้นมาอีกครั้ง จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบทางฝั่งซ้ายเหมือนเดิม แล้วก็เป็น เปร์วีส เอสตูปินญาน เจ้าเก่า รับหน้าที่เปิดบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษให้ เฟลิกซ์ ตอร์เรส ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ ที่กลางประตู ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อก สุดท้ายกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุมแทน

นาที 45+6

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน บราซิล เกือบได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ พาบอลลากจี้ขึ้นมาเองทางฝั่งซ้าย เจ้าตัวไหลเข้ากลางนิ่ม ๆ มาที่หน้าเขตโทษต่อให้ มาเธอุส กุนญ่า ได้ตั้งป้อมหวดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกเต็ม ๆ สุดท้ายกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัวได้ซ้ำอีกรอบ คราวนี้บอลเฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังแค่ไปนิดเดียวเท่านั้น

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพแซมบ้า ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ เป็นฝ่ายขึงเกมรุกบุกใส่คู่แข่งได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ เอกวาดอร์ 0 บราซิล 1 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอกวาดอร์ ที่เดินเครื่องบุกใส่ทีมเยือน แถมเกือบได้ประตูตีเสมอทันที จากจังหวะ เปร์วีส เอสตูปินญาน ตามมาเกี่ยวบอลเอาไว้ได้บริเวณสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดแบบไม่จับมาที่หน้าเสาแรกให้ ไมเคิ่ล เอสตราด้า ได้เข้าชาร์จจ่อ ๆ สวนตัวของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยกธงว่าลูกบอลได้ออกหลังไปก่อนแล้วตั้งแต่จังหวะแรก เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ ทัพแร้ง 

นาที 51

ทีมเยือน บราซิล ได้ลูกฟรีคิกระยะได้ลุ้น ประมาณ 30 กว่าหลา บริเวณหน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น คาเซมีโร่ รับหน้าที่ ขอลองส่องเอง วิ่งมาบรรจงกดด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงน้ำหนักใช้ได้ ทว่าทิศทางยังไม่ดีพอ สุดท้ายเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 59 VAR!!!

เจ้าถิ่น เอกวาดอร์ พลาดโอกาสที่จะได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะ เปร์วีส เอสตูปินญาน ติดเครื่องพาบอลแหวกทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนจะโดน ราฟินญ่า พุ่งสกัด เกี่ยวข้อเข้าทิ้งตัวร่วงลงไป ผู้ตัดสินเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษทันที ทว่าขอออกไปเช็ค VAR เพื่อความชัวร์ สุดท้ายเปลี่ยนใจ กลับลงมายกเลิกจุดโทษ แถมเป่าให้เป็นบอลของทางฝั่ง บราซิล อย่างน่าเสียดาย

นาที 67

ทีมเยือน บราซิล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ กาเบรียล เชซุส สปีดสอดไปรับบอลยาวทะลุช่องที่หน้ากรอบ เจ้าตัวกระชากเข้าไปในเขตโทษกำลังจะได้ง้างเท้าซัดโล่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่าเป็น เฮอร์นาน กาลินเดซ ผู้รักษาประตูตัวสำรองของเจ้าถิ่น อ่านเกมขาด ออกใาตัดบอลได้ไว ทิ้งตัวบล็อกเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 72

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย รูปเกมเปิดแลกกันอย่างสนุก จังหวะนี้ ทีมเยือน บราซิล ได้บุกขึ้นมาอีกระลอกตรงกลางที่ เฟร็ด เจ้าตัวจ่ายเร็วไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้กับ อเล็กซ์ ซานโดร ที่ดันสูงเติมขึ้นมา ได้ขอลองวางเท้าตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบเต็ม ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางดันไปตรงตัวของ เฮอร์นาน กาลินเดซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทุบทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 73

จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน บราซิล ยังเก็บแถมสองได้ที่ กาเบรียล เชซุส ได้ลากทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหาช่องตัดเข้าใน ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ สุดท้ายส่งบอลพุ่งแรงไปตรงตัวของ เฮอร์นาน กาลินเดซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เหมือนเดิม เซฟเอาไว้ได้ทัน

นาที 75 GOAL!!!

เจ้าถิ่น เอกวาดอร์ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา กอนซาโล่ ปลาต้า บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาแรก แล้วเป็น เฟลิกซ์ ตอร์เรส สลัดตัวประกบ โฉบมาโขกเหน่ง ๆ เต็มแรง ส่งบอลพุ่งผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เบียดเสาขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 90+7 VAR!!!

ก่อนหมดเวลา ช็อตดราม่ารอบสองของเกมก็เกิดขึ้น เมื่อ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาตัดบอลนอกกรอบเขตโทษ เจ้าตัวชกบอล ทว่าหมัดมันตามน้ำ เลยไปโดนหัวของ ไอร์ตัน เปรเซียโด้ จนร่วงลงไปนอนโอดโอย ผู้ตัดสิน ชี้เป็นให้เป็นลูกจุดโทษแถมแจกใบแดงให้กับนายทวารหงส์แดงทันที ทว่าสุดท้ายขอไปเช็ค VAR ก่อนที่จะกลับลงมาเปลี่ยนคำตัดสินอีกครั้ง แถมให้เล่นกันต่อไปไม่ได้ว่าอะไร รอดตัวไปสำหรับทัพแซมบ้า จบเกมมีการพูดถึงกรรมการแน่นอน

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน บราซิล บุกมาทำได้แค่เสมอกับเจ้าถิ่น เอกวาดอร์ ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! ทัพแซมบ้ายังคงนำจ่าฝูงของตารางอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับปารากวัย ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอกวาดอร์ รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนเหมือนเดิมเช่นกัน นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเปรู ในเช้าวันเดียวกันแต่คนละเวลา

สนับสนุนบทความโดย ufabet