‘น้าทู’ รับสิงห์มีโชค-ชี้ ‘กัลลาเกอร์’ ตัดสินใจแย่

โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ เชลซี ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าทีมของเขามีโชคช่วยทำให้เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ และบอกว่า คอเนอร์ กัลลาเกอร์ กองกลางพลังหนุ่มตัดสินใจแย่ จากจังหวะตัดเกมจนโดนใบเหลืองที่ 2

“สิงห์น้ำเงิน” เปิดบ้านเอาชนะ “จิ้งจอกสยาม” ไป 2-1 จากการทำคนเดียว 2 ประตูของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

ทูเคิ่ล ติดโทษแบนไม่ได้ลงคุม เชลซี ที่ข้างสนาม แต่เขานั่งดูเกมอยู่บนอัฒจันทร์ และหลังจบการแข่งขัน กุนซือชาวเยอรมันก็ให้สัมภาษณ์ถึงฟอร์มโดยรวมของทีมว่า

“ผมคิดว่าช่วง 20-25 นาทีแรกเราเป็นฝ่ายได้ครองเกมทั้งหมด, เรามีโอกาสสำคัญหลายครั้ง, จังหวะของ ลอฟตัส-ชีค เป็นยิ่งกว่าโอกาสอีก”

“เราถูกปฏิเสธจุดโทษเพราะล้ำหน้า แต่มันแปลกประหลาดอยู่บ้าง เพราะผมดูผ่านมือถือและเห็นว่าไม่ล้ำหน้า, แต่ก็ไม่เป็นไร”

“ทันใดนั้น เราก็ต้องเหลือคนน้อยกว่า เพราะ คอเนอร์ โดนไล่ออก จากจังหวะที่เราพยายามขึ้นไปทำประตูจากลูกเซตพีซ, เราเหยาะแหยะอีกแล้วกับจังหวะแบบนี้ และถูกเกมโต้กลับเล่นงานครั้งใหญ่”

“ผมพอใจที่เราอดทนและแสดงทัศนคติที่จำเป็นต้องมีเพื่อมีโอกาสคว้าชัยชนะ, การรักษาคลีนชีทเป็นเป้าหมายของเราในช่วงครึ่งหลัง”

“แต่เราเสียประตูซึ่งไม่จำเป็นต้องเสีย, นั่นทำให้ช่วงท้ายเกมเรากดดันหนัก และเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ลุ้นถึง 2 ครั้ง”

“สุดท้ายแล้วเราโชคดีที่ไม่โดนประตูตีเสมอ แต่เราทำทุกอย่างเพื่อคว้าชัยชนะ และสภาพจิตใจก็ดีมากๆ”

เชลซี ต้องเหลือ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 28 จากจังหวะกำลังจะโดนสวนกลับแล้ว กัลลาเกอร์ ที่มีใบเหลืองติดตัวไปตัดเกมใส่ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ซึ่ง ทูเคิ่ล ก็กล่าวเพิ่มเติมถึงประเด็นนี้ว่า

“เป็นการตัดสินใจที่แย่ของ คอเนอร์ และทำให้เราเจอเงื่อนไขที่เสียเปรียบหนักมาก โดยเฉพาะเมื่อเราเพิ่งแพ้มาในเกมก่อน”

“วันนี้ คอเนอร์ ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ และเขาก็รู้ว่ามันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่, สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ และเราก็ได้คุยกันหลังจบเกมแล้ว”

“แน่นอนว่า คอเนอร์ ตัดสินใจได้แย่สุดๆ, และแน่นอนว่าเขาหงุดหงิด, ตอนนี้ทุกคนในทีมต่างอารมณ์เสีย เพราะใบแดงเกือบทำให้เกมของเราพังลงหมดเลย”

“มันไม่ใช่ความผิดของเขาเพียงคนเดียว เพราะตอนนี้เราเล่นลูกตั้งเตะกันได้ไม่เป็นระเบียบเลย, เราความความเชื่อมั่นและขาดความแม่นยำ”

“เราสะเพร่าในจังหวะเก็บบอล, เราตัดสินใจวิธีเล่นลูกตั้งเตะได้แย่, เราจำเป็นต้องหยุดทำแบบนั้นและพัฒนาขึ้นทันที, ทีมคุยกันเรื่องนี้แล้ว และผมไม่รู้ว่าทำไมมันยังเกิดขึ้นอีก”