ประเดิมรังนิก!! “แมน ยูไนเต็ด” เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ “คริสตัล พาเลซ” ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพเดอะ อีเกิ้ลส์ คริสตัล พาเลซ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 15 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ป้ายแดงอย่าง ราล์ฟ รังนิก มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังจอมแกร่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพลย์เมกเกอร์จอมถล่มประตู และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าตัวเทพของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ชีคฮู คูยาเต้ กองกลางห้องเครื่อง วิลฟรีด ซาฮา กองหน้ากึ่งปีกจอมลากเลื้อย และ คริสติย็อง เบนเตเก้ ดาวยิงตัวความหวังของทีม

นาที 3

เปิดฉากครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เริ่มต้นอย่างคึกคัก ครองเกมบุกเข้าใส่และได้ทักทายก่อนทันที จากจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เล่นลูกสูตรจ่ายสั้นมาที่หน้าเขตโทษให้ อเล็กซ์ เตลลิส ได้ตั้งป้อมกดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลถากเสาสองซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปนิดเดียว

นาที 7

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ วิลฟรีด ซาฮา แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายอย่างสวยให้กับ คริสติย็อง เบนเตเก้ ได้วิ่งสอดไปรับบอล ก่อนจะซัดเร็วโดนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอลน้ำหนักเบาแถมยังไม่ตรงกรอบอีกต่างหาก ทำเสียของไปอย่างน่าเสียดาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา ถ้าเข้าก็อาจจะไม่ได้ประตูอยู่ดี

นาที 9

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ บุกขึ้นมาหาโอกาสได้ยิงอีกหน จังหวะนี้ วิลเฟร็ด ซาฮา ลากจี้ขึ้นมาทางกราบซ้าย เจ้าตัวทำชิ่ง 1-2 กับ คริสติย็อง เบนเตเก้ ส่งคืนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้อดีตเด็กผี วิ่งมาอัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ดันไปตรงตัวของ ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเข้าซองสบาย

นาที 12

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วก็เป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่ ยืนจังก้าท่าถนัด ก่อนจะซอยเท้าวิ่งมาบรรจงอัดด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ดันไม่ยอมมุดลงเหมือนเคย ลอยเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไม่ได้ลุ้นอะไร

นาที 18

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส บรรจงหยอดโด่งข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษอย่างสวยให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สปีดตามไปเกี่ยวไว้ได้ ก่อนจะพยายามพลิกกลับมายิง แต่โดน มาร์ค เกฮี ตามประกบติดหนึบ พุ่งมาขวางทางปืน บล็อกบอลออกหลังไปได้ทัน เสียเป็นเตะมุม

นาที 20

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินเกมรุกหลากหลายซ้ายทีขวาที เร่งเครื่องจะเอาประตูขึ้นนำฉลองเจ้านายใหม่ให้ได้ จังหวะนี้ ดีโอโก้ ดาโลต์ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้โฉบมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ แต่ก็ยังกดไม่ลง ส่งบอลหลุดกรอบออกไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 22

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะรอเพื่่อน ก่อนจะไหลย้อนเข้ากลางมาให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งสอดมากดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ทว่าโดนไม่เข้าข้อเท่าไหร่ บอลน้ำหนักเบาแถมไปตรงตัวของ บิเซนเต้ กวยต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 26

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จวนเจียนจะได้ประตูขึ้นนำมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ เป็นการประสานงานของโปรตุกีสคอนเน็คชั่น เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งชงกลับมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้วิ่งมาตวัดยิงโล่ง ๆ ด้วยขวาแบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นถูก บิเซนเต้ กวยต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ปฏิกิริยายังไว ผวาพุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทัน ช่วยทีมให้พ้นอันตรายไปได้อีกเปาะ

นาที 33

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เจดอน ซานโช่ รับบอลมาแล้วลากจี้เข้าใส่ นาธาเนียล ไคลน์ กินพื้นที่เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกตัดเข้าในก่อนจะรีบซัดเร็วด้วยขวาทันที ทว่าบอลพุ่งแฉลบบล็อกของแนวรับพาเลซ เปลี่ยนทางลอยโด่งย้อยไปตกบนหลังตาข่าย ได้เป็นลูกเตะมุม

นาที 39

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้างนาน ๆ ที จังหวะนี้ จอร์แดน อายิว รับบอลแล้วลากจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวเห็นไม่มีใครเข้าประกบ ก่อนจะตัดสินใจวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้น ผ่านหน้าปากประตู หลุดเสาไกลขวามือออกหลังไป ชนิดได้ลุ้น

นาที 45+1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ดีโอโก้ ดาโลต์ ดันสูงติดเครื่องลากลุยทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวทำชิ่ง 1-2 กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ตอกส้นกลับมาให้ดาวเตะโปรตุกีส ได้ซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งถากเสาไกล หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 66 เปอร์เซ็นต์ แถมมีโอกาสจบสกอร์ไปแล้วถึง 12 ครั้ง ขาดเพียงแค่ความเฉียบคมในจังหวะสุดท้ายเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ดีเอง ส่วนทางทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ยังถือว่าไม่เสียหายอะไร คอยรอโอกาสสวนกลับเร็วสวย ๆ อยู่เหมือนกัน สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ แมนยู 0 พาเลซ 0 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา ทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น แล้วเป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ค่อย ๆ ลำเลียงบอลกันมาถึง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวโยกแต่งเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะขอลองซัดไกลนอกกรอบ ส่งบอลเหินข้ามคานออกไปไกล ยังไม่ได้ลุ้นอะไรมาก

นาที 62

เกมดำเนินมาเกินหนึ่งชั่วโมงเต็ม เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของทีมเยือนได้เลย เดือดร้อนถึง ราล์ฟ รังนิก กุนซือฉายาศาสตราจารย์ลูกหนัง ต้องปรับหมากแก้เกมด้วยการถอดเอา เจดอน ซานโช่ ออกไปพัก แล้วจัดการส่ง เมสัน กรีนวู้ด ลงสนามมาเพิ่มมิติในเกมรุกแทน

นาที 68

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา แล้วเป็น อเล็กซ์ เตลลิส รับอาสา เล่นลูกลักไก่ หลอกยิงวิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยข้ามมือของ บิเซนเต้ กวยต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปได้แล้วทว่าดันไปตกใส่คานเต็ม ๆ กระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 71

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อบอลทำเกมกันขึ้นมาสวย จังหวะนี้ เมสัน กรีนวู้ด จ่ายเข้ากลางให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส พยายามล็อคหาช่องยิงแต่โดนขวาง สุดท้ายเจ้าตัวเลือกไหลกลับคืนมาให้ เมสัน กรีนวู้ด วิ่งสอดตัดหลังแนวรับมายิงเร็วแบบดีด ๆ โดนไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลหลุดกรอบออกหลังไปเลย

นาที 75

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ไทริค มิตเชลล์ บรรจงเปิดบอลโด่ง ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ เจมส์ ทอมกิ้นส์ โหม่งยัดย้อนกลับไปทางเสาแรกชงให้ จอร์แดน อายิว ที่ยืนกางมุ้งรอโล่ง ๆ คนเดียว ได้ซัดจ่อ ๆ ด้วยขวา ส่งบอลผ่านหน้าปากประตู พุ่งย้อนศรออกอีกฝั่งไปอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 77 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ดิโอโก้ ดาโลต์ ดันสูงจ่ายบอลมาให้กับ เมสัน กรีนวู้ด ได้ลากลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่ง เจ้าตัวโยกเข้าซ้ายแต่โดนขวางไม่มีช่องยิง ก่อนจะเลือกไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ เฟร็ด วิ่งมาวางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ บิเซนเต้ กวยต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งอันดับที่ 6 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนนอริช ซิตี้ ในคืนวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านคริสตัล พาเลซ อยู่อันดับที่ 13 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเอฟเวอร์ตัน ในคืนวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม ถัดมาหนึ่งวัน