แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนยันว่า ริชาร์ด อาร์โนลด์ จะก้าวขึ้นมาเป็นซีอีโอคนใหม่ของสโมสรเมื่อ เอ็ด วูดเวิร์ด ออกจากตำแหน่งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์
วูดเวิร์ด แจ้งขอลาออกจากตำแหน่งมาตั้งแต่เดือนเมษายนปีก่อน ให้หลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เข้าไปเกี่ยวข้องกับยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ ลีก แต่เขาจะสละเก้าอี้แบบเป็นทางการในสิ้นเดือนนี้และยุติช่วงเวลา 9 ปีที่เจอทั้งเสียงชมและเสียงตำหนิ
ปัจจุบัน อาร์โนลด์ รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการและเขาจะเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอของสโมสร ซึ่งชื่อตำแหน่งจะแตกต่างจากของ วูดเวิร์ด ที่เป็นรองประธานฝ่ายบริหาร
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เคยไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงที่ วูดเวิร์ด บริหารสโมสร และเชื่อว่าเขาอำลาไปโดยที่เสียใจกับความผิดพลาดเรื่องการเลือกกุนซือและเสริมทัพหลังหมดยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
การแต่งตั้งกุนซือถาวรคนใหม่นั้นถูกพิจารณาว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จในสนามของ “ปีศาจแดง” โดยที่ ราล์ฟ รังนิค กุนซือขัดตาทัพต้องเจอกับความท้าทายในการพาทีมลุ้นท็อปโฟร์และปัญหาในห้องแต่งตัว
ถึงแม้ อาร์โนลด์ จะดูแลการคัดเลือกกุนซือถาวรคนใหม่ให้สโมสร แต่เชื่อกันว่าเขาสนับสนุนการกระจายอำนาจบริหารและวางแผนให้ จอห์น เมอร์ทัฟ ผู้อำนวยการฟุตบอลและ ดาร์เรน เฟลตเชอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคมีบทบาทมากขึ้น
แหล่งข่าวระบุว่าแม้ เมอร์ทัฟ กับ เฟลตเชอร์ จะรายงานสิ่งต่างๆต่อ อาร์โนลด์ แต่ซีอีโอคนใหม่จะไม่ลงไปยุ่งย่ามกับทุกอย่างโดยเฉพาะในเรื่องด้านฟุตบอล
อาร์โนลด์ เป็นตัวเลือกที่ได้รับการสนับสนุนจาก วูดเวิร์ด กระนั้น ตระกูลเกลเซอร์ และบอร์ดบริหารก็พิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกเขามาทำหน้าที่ซีอีโอ
สำหรับ วูดเวิร์ด นั้นจะใช้เวลาหลายเดือนถัดจากนี้พิจารณาว่าจะทำอะไรต่อ เขาจะยังมีส่วนร่วมในการประชุมของบอร์ดบริหารจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนเพื่อช่วยการปรับเปลี่ยนเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เขาจะไม่รับงานที่ปรึกษาของสโมสร
เชื่อกันว่า วูดเวิร์ด ยังอยากทำงานในวงการฟุตบอลต่อไปหากได้รับโอกาสที่เหมาะสม และพบปะกับผู้คนมากมายนับตั้งแต่ประกาศว่าจะลงจากตำแหน่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด