ราฟินญ่าฮีโร่!! ซัดทดเจ็บ ช่วยทัพยูงทอง “ลีดส์ ยูไนเต็ด” เปิดรังเฉือนเอาชนะเดอะ อีเกิ้ลส์ ไปได้เฉียดฉิว 1-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดสนาม เอลแลนด์ โร้ด, เมืองลีดส์ มณฑลยอร์กเชอร์ตะวันตก ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพปราสาท เรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 14 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย คัลวิน ฟิลลิปส์ กองกลางห้องเครื่องทีมชาติอังกฤษ ราฟินญ่า เพลย์เมกเกอร์ตัวจี๊ด และ แดเนี่ยล เจมส์ รับบทศูนย์หน้าจำเป็น

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ปาทริค วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เจฟฟรีย์ ชลุปป์ กองกลางห้องเครื่อง วิลฟรีด ซาฮา กองหน้ากึ่งปีกจอมลากเลื้อย และ อ็อดซอนน์ เอดูอาร์ ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 8

เปิดฉากครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่า มีโอกาสได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ต่อบอลกันไปมาแล้วโดน ไทริค มิตเชลล์ สกัดแฉลบมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาเข้าทาง ราฟินญ่า สปีดมาตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ลอยเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุม

นาที 15 

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะ คัลวิน ฟิลลิปส์ วางบอลยาวจากแดนตัวเองทิ้งขึ้นมาให้ ราฟินญ่า ได้สปีดมาเก็บบอลได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งขวา เจ้าตัวพยายามจะพลิ้วเข้าเขตโทษแต่โดน ไทริค มิตเชลล์ สกัดออกมาที่หน้าเขตโทษย้อนเข้าทาง อดัม ฟอร์ชอว์ ถอยมาแต่งเข้าซ้าย ก่อนจะกลับตัวตวัดยิงหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเฉียดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้เสียว

นาที 18

ทีมเยือน ทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ จอร์แดน อายิว ได้บอลหลุดขึ้นทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวโชว์ความพลิ้วทะลุเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะโดน ปาสกาล สเตราค์ เหนี่ยวล้มลงไป ทว่าเป็น เควิน เฟรนด์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ยังคงนิ่ง ไม่ได้ว่าอะไร แถมให้เล่นต่อไป ผู้เล่นทีมเยือน โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่แต่ไม่เป็นผล

นาที 21

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้ออกหมัดแบบจะแจ้งบ้าง จังหวะนี้ บอลทุ่มทางขวามาที่หน้าเขตโทษให้กับ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ขยับมารับแล้วพลิกหนีแหวกตัวประกบตัดเข้าในขึ้นมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะได้ช่องตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ ระยะ 18 หลา ส่งบอลไต่หลังเท้า ปลิ้นไซด์ก้อย เฉี่ยวเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว แบบได้ลุ้น

นาที 23

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้บอลขลุกขลิกอยู่ที่หน้าหัวกระโหลก แล้วเป็น คัลวิน ฟิลลิปส์ สอดมาฉกไปได้ ก่อนจะกระชากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ตามด้วยก้มหน้ากดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่ายังไม่เข้าเป้า ลอยหลุดกรอบออกไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 40

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก รูปเกมของทั้งสองทีมน่าอึดอัดแบบสุด ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวะตัดเกมกันหนัก ชนิดถึงลูกถึงคนบริเวณกลางสนามด้วยกันทั้งคู่ โดยเป็น เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าในการครองบอลบุก ส่วนทางทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ก็สวนกลับขึ้นมาเป็นระยะ ๆ อย่างไรก็ดี โอกาสลุ้นจบสกอร์แบบจะแจ้ง แทบจะไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็นกันเลย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ครองบอลได้มากกว่าอยู่นิดหน่อย เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกได้เยอะกว่าคู่แข่งอยู่พอสมควร ส่วนทางฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ มีจังหวะสวนกลับที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน สุดท้ายต่างฝ่ายต่างยังทำอะไรไม่ได้ สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!

นาที 50

เริ่มครึ่งหลังมาได้แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ที่ได้ลุ้นทักทายก่อน จากจังหวะ ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษของ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ บรรจงปั่นเน้น ๆ ดันไปติดกำแพง บอลกระเด้งออกมาเข้าทาง วิลฟรีด ซาฮา วิ่งหวดสวนตูมเดียวกลับเข้าไป ทว่ายังไม่เข้าเป้าเหมือนเดิม ลอยเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 53

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ราฟินญ่า วางบอลยาวขวางสนามจากแดนตัวเอง ข้ามฟากเปลี่ยนแกนไปให้กับ แดเนี่ยล เจมส์ ได้เกี่ยวบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียดถวายพานไปที่กลางประตูให้ โรดริโก้ โมเรโน่ วิ่งสอดมาพยายามแตะบอลหนี บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน โล่ง ๆ จ่อ ๆ ทำบอลลั่นหลุดออกหลังไปเอง อย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 57

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ต่อบอลทำเกมกันขึ้นมาทางริมกรอบด้านซ้ายถึง แดเนี่ยล เจมส์ เจ้าตัวเงยหน้ามองแล้วจ่ายเลียดยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายดื้อ ๆ ให้ อดัม ฟอร์ชอว์ ที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ได้พลิกบอลแต่งเข้าขวา ก่อนจะวางเท้าก้มหน้ากดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของ ชีคู คูยาเต้ กระเด้งเปลี่ยนทางลอยไปตรงตัวของ บิเซนเต้ ไกวต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 64

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ไทเลอร์ โรเบิร์ต เก็บตกบอลจากซ้าย พลิกมาไหลเข้ากลางให้ อดัม ฟอร์ชอว์ ได้แต่งหนึ่งทีหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ แต่กดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดออกหลังไปไกล

นาที 74

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วมาถึง คริสติย็อง เบนเตเก้ ลากจี้ขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ซัดช้าไปติดบล็อกเต็ม ๆ ก่อนจะเป็น วิลฟรีด ซาฮา ตามมาเก็บบอลได้ในเขตโทษฝั่งซ้าย สุดท้ายยกโด่งไปที่หน้าเสาไกลถวายพานให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ได้เทคตัวขึ้นโขกสะบัดกดลงพื้นเหน่ง ๆ แบบไร้ตัว ส่งบอลกระเด้งเฉียดเสาขวามือ หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 78

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย สจ๊วร์ต ดัลลาส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาแรก แล้วเป็น โรดริโก้ โมเรโน่ สลัดตัวประกบ วิ่งโฉบมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลไปแฉลบ เจมส์ ทอมกิ้นส์ เปลี่ยนทางพุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย เฉียดเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวแบบเสียววาบ

นาที 79

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ มีโอกาสได้เสียวเหมือนกัน เป็นจังหวะ จอร์แดน อายิว ได้บอลทางกราบขวา เจ้าตัวเงยหน้ามอง ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตู แล้วเป็น คริสติย็อง เบนเตเก้ อาศัยความแข็งแกร่ง เบียดตัวชิงเหลี่ยมเอาชนะตัวประกบ สอดมาชาร์จจิ้มด้วยซ้าย เปลี่ยนทางกระเด้งกำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าโชคยังดี อัลล็อง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปฏิกิริยายังไว หมุนตัวกลับมาคว้าบนเส้นเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 83

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วทางกราบซ้าย วิลฟรีด ซาฮา แปะสั้น ๆ ต่อให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ติดเครื่อง กระชากตัดเข้ากลางขึ้นมาเองถึงหัวกระโหลก ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเน้น ๆ แต่หลักไม่ดีเท่าไหร่ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย อัลล็อง เมส์ลิเย่ร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทำได้แค่หันมองแล้วด้วย

นาที 90+3 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูชัยเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ราฟินญ่า บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เลียม คูเปอร์ โฉบมาโขกสะบัดเน้น ๆ ไปโดนมือของ มาร์ค เกฮี ผู้ตัดสิน ขอออกไปเช็ค VAR  สุดท้ายหันกลับมาชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพยูงทอง แล้วเป็น ราฟินญ่า รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! เขยิบมารั้งอันดับที่ 15 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเบรนท์ฟอร์ด ในคืนวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านคริสตัล พาเลซ อยู่อันดับที่ 12 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันเวลาเดียวกัน