‘วาเลนเซีย’ รับเหมือนฝันเป็นจริง-โค้ชยันพร้อมลงเจอกังหัน

เอนเนอร์ วาเลนเซีย ยอมรับเหมือนฝันเป็นจริงจากการทำ 2 ประตูพา เอกวาดอร์ ชนะนัดเปิดบอลโลก ขณะที่ กุสตาโว่ อัลฟาโร่ กุนซือของพวกเขายืนยันว่าหัวหอกคนสำคัญพร้อมลงเกมต่อไปเจอ เนเธอร์แลนด์

คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เอกวาดอร์ ประเดิมสนามฟุตบอลโลก เอาชนะ กาตาร์ ทีมเจ้าภาพ 2-0 จากการทำคนเดียว 2 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรกของ เอนเนอร์ วาเลนเซีย

อดีตนายใหญ่ โบค่า จูเนียร์ส ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมที่ อัล เบย์ท สเตเดี้ยม กล่าวถึงฟอร์มของลูกทีม

“ผมต้องให้เครดิตลูกทีม สำหรับทัศนคติ, ความทุ่มเท และวิธีการเล่นของพวกเขา โดยเฉพาะหลังจากเราเจออุปสรรคตอนแรกเกม ซึ่งเรายิงได้แต่ถูกยึดประตูคืนเพราะล้ำหน้า”

“เราเดินหน้าต่อไปหลังจากนั้น และผมคิดว่าเราสมควรเป็นผู้ชนะอย่างชัดเจน, ผมหวังว่าผลการแข่งขันนัดนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

“นี่คือเกมสำคัญที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้สำหรับเรา, เราไม่เพียงแต่เริ่มต้นทัวร์นาเมนท์โดยการเจอกับทีมเจ้าภาพเท่านั้น เรายังต้องต่อสู้กับประวัติศาสตร์ด้วย”

“บางทีประวัติศาสตร์อาจเข้าทางคุณ และบางทีก็อาจเป็นศัตรูกับคุณ แต่ลูกทีมของผมอยู่เหนือเรื่องเหล่านั้น พวกเขาทุ่มเทสุดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราชนะเกมนี้”

“แต่ก็เป็นแค่การเริ่มต้นสำหรับเราเท่านั้น เราต้องแสดงให้เห็่นอีกครั้งว่าเราสามารถทำอะไรในบ้างในเกมนัดถัดๆ ไป”

วาเลนเซีย ถูกเปลี่ยนออกช่วงนาทีที่ 77 โดยดูเหมือนว่าเขาจะมีอาการบาดเจ็บติดตัว แต่อัลฟาโร่ ยืนยันว่าหัวหอกวัย 33 ปีพร้อมลงสนามในเกมถัดไปกับ เนเธอร์แลนด์ วันศุกร์นี้

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เอนเนอร์ จะได้ลงสนามเจอกับ เนเธอร์แลนด์, ก่อนหน้านี้มีบางคนที่ เอกวาดอร์ ตั้งข้อสงสัยในตัวเขา แต่ตอนนี้เราได้เห็นถึงสิ่งที่เขาสามารถมอบให้ทีม”

ผลงานของ วาเลนเซีย ทำให้เขาบวกเพิ่มสถิติยิงประตูให้ทีมชาติไปเป็น 37 ประตูจาก 75 นัดรั้งตำแหน่งผู้ยิงได้มากสุดตลอดกาล นอกจากนี้ยังเพิ่มจำนวนประตูที่ทำได้ในฟุตบอลโลกเป็น 5 ลูก โดยก่อนหน้านี้ทำไว้ 3 ประตูเมื่อปี 2014

ดาวยิงจาก เฟเนร์บาห์เช่ ให้สัมภาษณ์เปิดเผยความรู้สึกของเขาหลังจบเกม

“เรารู้อยู่แล้วว่าจะเป็นเกมที่ยาก อย่างไรก็ตามเราได้ผลสกอร์ที่ต้องการ, เรายิงขึ้นนำ 2 ประตูอย่างรวดเร็วซึ่งช่วยให้เราครองเกมได้และคว้าสามแต้ม”

“ผมเคยฝันหลายครั้งเกี่ยวกับชัยชนะในนัดเปิดสนาม แล้วก็เหมือนกับฝันเป็นจริงที่ผมทำประตูได้, เราต้องฝันต่อไปเพราะนั่นมีแต่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น”