นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง อาร์เซน่อล กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในศึก พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ อาร์เซน่อล จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 ที่คุ้นเคย นำโดยแกนหลักชุดเดิมจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อาร่อน แรมส์เดล,โอเล็กซานดาร์ ซินเชนโก้,มาร์ติน โอเดการ์ด,กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ และ บูกาโย่ ซาก้า
ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาสู้ด้วยระบบ 3-2-4-1 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง เอแดร์ซอน,อิลกาย กุนโดกัน,เควิน เดอ บรอยน์,เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และ แจ็ค กรีลิช เป็นต้น
นาทีที่ 2
เริ่มได้ไม่ถึง 2 นาที เจ้าบ้านก็มีจังหวะลุ้นประตูทันที จากจังหวะที่ มาร์ติเนลลี่ ครอสบอลจากริมเส้นเข้ากลางให้ เอ็นเคเทียร์ ยืนซัดด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่ยังไม่เป็นประตูเพราะติดบล็อกของ นาธาน อาเก้
นาทีที่ 24 แมนซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
อาร์เซน่อล ที่พยายามเล่นรัด แต่สุดท้ายก็มาพลาดเสียประตูจนได้ จากจังหวะที่ โทมิยาสุ โดน กลีลิช ไล่แพรสเร็วจ่ายคืนหลังขาดน้ำหนัก บอลไปเข้าทาง เดอ บรอยน์ จัดการชิพข้ามหัว แรมส์เดล ส่งบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ แมนซิตี้ ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 40 อาร์เซน่อล ตีเสมอ 1-1
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีท้าย อาร์เซน่อล ที่บดหนักอยู่นานหลายนาที ในที่าุดพวกเขาก็ตามตัฃีเสมอ1-1จนได้ จากจังหวะที่ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียร์ โดน เอแดร์ซอน กระแทกล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการดูทีท่าว่าไม่ได้เปรียบแล้ว จึงรีบวิ่งมาเป่าให้เจ้าถิ่นได้ลูกจุดโทษทันที แล้วก็เป็น บูกาโย่ ซาก้า ที่สังหารลูกนี้ไม่มีพลาด อาร์เซน่อล ตีเสมอ 1-1
หมดครึ่งเวลาแรก
อาร์เซน่อล – 1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 1
นาทีที่ 57
กลับมาต่อครึ่งหลังได้ไม่นาน อาร์เซน่อล ก็เกือบพลาดเสียประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ กาเบรียล ไปเสียเหลี่ยมตัดฟาวล์ใส่ ฮาลันด์ ในกรอบเขตโทษ โชคดีที่ VAR เช็คแล้วว่าจังหวะก่อนหน้า ฮาลันด์ ยืนล้ำหน้าอยู่ เจ้าถิ่นเลยรอดตัวไม่เสียจุดโทษ
นาทีที่ 72 แมนซิตี้ แซงนำ 2-1
แต่แล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มาได้ประตูแซงนำอีกครั้งจนได้ จากจังหวะที่ กาเบรียล จ่ายเสียให้ แบร์นาร์โด้ แย่งเอาบอลไปครองได้ ก่อนเจ้าตัวจะไหลตามช่องให้ กุนโดกัน แปะออกซ้ายอีกต่อให้ กลีลิช เติมมายิงโล่งๆ ส่งบอลพุ่งผ่านมือ แรมส์เดล ตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
นาทีที่ 82 แมนซิตี้ ยิงปิดกล่อง 3-1
ช่วงท้ายเกม อาร์เซน่อล โดนบุกหนักจนต้านไม่ไหว เสียประตูเพิ่มอีกแล้ว เป็นจังหวะที่ กุนโดกัน เลี้ยงบอลจี้เข้ากรอบเขตโทษ พอได้ระยะก็เลือกไหลให้ เดอ บรอยน์ จ่ายสั้นต่อให้ ฮาลันด์ วิ่งมาจับด้วยขวา ก่อนสลับไปยิงด้วยซ้าย ส่งบอลพุ่งผ่านมือ แรมส์เดล เข้าประตูไปแบบเหนือๆ แมนซิตี้ นำห่าง 3-1
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เล่นได้เหนือกว่าและใช้โอกาสไม่เปลือง ส่งผลให้พวกเขาบุกมาชนะ อาร์เซน่อล ในบ้านด้วยผลสกอร์รวม 3-1