เผย ‘บุนเดสลีก้า’ พิจารณาฟอร์แมต ‘เพลย์ออฟหาแชมป์’

บุนเดสลีก้าตกเป็นข่าวพิจารณาถึงการนำระบบเพลย์ออฟหาแชมป์ตอนจบฤดูกาลมาใช้ ซึ่งหลายสโมสรแสดงตัวไม่เห็นด้วย

ตอนนี้ บาเยิร์น มิวนิค กวาดแชมป์บุนเดสลีก้ามาแล้ว 9 ฤดูกาลติดและซีซั่นนี้ก็ทำท่าจะเป็นของพวกเขาอีกครั้งหลัง

พวกเขากำลังนำจ่าฝูงของลีกที่ 9 คะแนนและเหลือเกมให้ลงสนามอีก 13 นัดด้วยกัน แชมป์สมัยที่ 10 ติดต่อกันจึงไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อม

อย่างไรก็ตามการที่ครองแชมป์อยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้ทำให้ลีกน่าตื่นเต้น รายงานระบุว่าเดเอฟแอลจึงพิจารณาไอเดียการนำระบบเพลย์ออฟหาแชมป์ในช่วงจบฤดูกาลมาใช้

โดนาต้า ฮอฟเฟ่น ซีอีโอใหม่ของเดเอฟแอลกล่าวกับ บิลด์ ว่า “ไม่มีอะไรต้องห้ามสำหรับผม ถ้าหากการเล่นเพลย์ออฟช่วยเราได้, เราก็จะถกกันในเรื่องเพลย์ออฟ”

หลายสโมสรในบุนเดสลีก้าไม่เห็นด้วยกับไอเดียดังกล่าวรวมถึงทีมอย่าง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, ไอน์ทรัคท์ แฟรงเฟิร์ต และ อูนิโอน เบอร์ลิน แต่บางส่วนก็เห็นคล้อยตามกัน

โอลิเวอร์ คาห์น ซีอีโอของ “เสือใต้” กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมพบว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นกับการพิจารณาระบบใหม่ๆอย่างการเพลย์ออฟสำหรับแชมป์บุนเดสลีก้า”

“ฟอร์แมตการลุ้นบุนเดสลีก้าด้วยรอบรองชนะเลิศและนัดชิงจะทำให้แฟนๆได้ตื่นเต้น ดังนั้นเป็นเรื่องเมคเซนส์ที่จะมีการพูดคุยถึงไอเดียแบบนี้ บาเยิร์น ก็เปิดกว้างต่อไอเดียใหม่ๆอยู่เสมอ”

ถึงอย่างนั้น อูลี่ เฮอเนส อดีตประธานของ บาเยิร์น เองตำหนิไอเดียดังกล่าวและมองว่านี่เป็นเหมือนการโจมตีสโมสรเสียมากกว่า

“นั่นเป็นความเห็นของเขานะ ไม่ใช่ความเห็นผม ผมมองว่านั่นเป็นเรื่องที่น่าขัน” เฮอเนส บอก

“ในบุนเดสลีก้าน่ะ ทีมไหนก็ตามที่ทำผลงานดีสุดหลังจากผ่านไป 34 เกมและผ่านมรสุมต่างๆมาก็ควรคว้าแชมป์ นั่นมันกฏมาต้าน บาเยิร์น มิวนิค ชัดๆ! ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความตื่นเต้นเลย”

“ผู้อำนวยการคนใหม่ของเดเอฟแอลมัวแต่ใช้เวลาไปกับการหาวิธีไม่ให้ บาเยิร์น ครองแชมป์ฝั่งเดียว”

“และเพราะอย่างนั้นพวกเขาถึงมาพร้อมกับไอเดียนี้ ไม่มีลีกใหญ่ในโลกลีกไหนที่ใช้ระบบเพลย์ออฟ ไม่ใช่ที่อังกฤษ, ไม่ใช่ที่สเปน, ไม่ใช่ที่อิตาลี, ไม่ใช่ที่ฝรั่งเศส”

ผู้บริหารของสโมสรอื่นก็แสดงความเห็นต่อไอเดียนี้แตกต่างกันไป

ฮานส์-โยอาคิม วัตซ์เก้ ซีอีโอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวไว้ว่า “ผมไม่ได้ชื่นชอบไอเดียเพลย์ออฟหรอกนะ แต่จากภาพรวมแล้วก็ไม่ควรมีการห้ามคิดถึงฟอร์แมตในแบบอื่น”

ถึงอย่างนั้น รูดี้ โฟลเลอร์ ผู้อำนวยการกีฬาของ เลเวอร์คูเซ่น บอกอย่างตรงไปตรงมาว่า “เป็นวิธีการที่ผิดสุดๆ ผมไม่เห็นด้วยเลยสักนิด”