เมสันยก ‘น้าคอน’ โคตรคลาสแวะเยี่ยมตอนเจ็บหนัก

ไรอัน เมสัน โค้ชของท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ เปิดเผยว่า อันโตนิโอ คอนเต้ เจ้านายเคยเดินทางไปเยี่ยมเขาถึงโรงพยาบาล ตอนได้รับบาดเจ็บศีรษะอย่างหนักจนต้องเลิกเล่น

เมสัน หัวกะโหลกร้าวระหว่างลงสนามให้ฮัลล์ ในเกมพบ เชลซี ที่ตอนนั้นโค้ชชาวอิตาเลี่ยน คุมทีมเมื่อปี 2017 ซึ่งอดีตมิดฟิลด์วัย 30 ปี ต้องประกาศแขวนเกือกแล้วเข้ารับงานโค้ชทีมเยาวชนกับสเปอร์ส ในปี 2018

คอนเต้ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามารับงาน “ไก่เดือยทอง” เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมดัน เมสัน ให้ขึ้นมาเป็นโค้ชทีมชุดใหญ่ทันที หลังเจ้าตัวเคยเป็นกุนซืออายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ตอนขัดตาทัพโจเซ่ มูรินโญ่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

เมสัน กล่าวว่า “พูดตรงๆ มันก็ค่อนข้างแปลก ตอนที่ผมเจ็บ เป็นตอนเจอทีมของเขาที่สแตมฟอร์ด บริดจ์”

“เขามาที่โรงพยาบาลเพื่อมาเจอผมกับครอบครัวหลังจากนั้น ผมย้อนความจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เพราะอาการบาดเจ็บ แต่มันมีรูปถ่ายตอนที่เขาอยู่ข้างเตียงของผม ผมคิดว่ามันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนอย่างไร เป็นคนที่มีคลาสมากๆเลยนะ”

“จากนั้น การติดทีมชาติหนเดียวของผมก็คือการเจอกับทีมอิตาลีของเขาเมื่อปี 2015 มันคือประวัติศาสตร์ และหวังว่าเราจะมาร่วมไม้ร่วมมือสร้างประวัติศาสตร์ที่ดีให้กับท็อตแน่มในตอนนี้นะ”

“ผมดีใจและตื่นเต้นที่ได้ร่วมทีมกับเจ้านายและเจ้าหน้าที่คนอื่นที่เขาพามา มันคือบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นสำหรับสโมสร เราจะทำงานอย่างหนัก พัฒนาและคว้าผลการแข่งขันที่ดีในระยะเวลาอันสั้นและระยะยาวด้วย”

“ผมได้คุยกับเจ้านายไปเมื่อวันอังคารหลังเสร็จการฝึกซ้อม เราคุยกันถึงการมาร่วมงานแล้วกลายเป็นส่วนหนึ่งในทีมสต๊าฟฟ์ มันเป็นสิ่งที่ผมตื่นเต้นมากเลยนะ”

“เขาคือหนึ่งในผู้จัดการทีมที่เก่งที่สุดในโลก สถิติของเขาบอกชัด เป็นโอกาสยิ่งใหญ่สำหรับผม และเป็นโอกาสที่สุดยอดของสโมสรแห่งนี้ที่ได้บอสมาคุมและช่วยเหลือทีม”

ด้าน คอนเต้ พูดย้อนความว่า “มันเป็นสถานการณ์ที่ประหลาดเลยนะ ผมไปที่โรงพยาบาลเพื่อเจอเขากับครอบครัว เพราะมันเป็นอาการบาดเจ็บร้ายแรง”

“ตอนที่เขาเป็นโค้ชให้สเปอร์ส 2 เดือนเมื่อฤดูกาลก่อน ผมก็ตามเขาอยู่นะ จากนั้นก็ได้มาที่ท็อตแน่มแล้วก็ได้เจอเขา เขาเป็นคนดีมากๆ ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับเขานะ”

“ร่วมมือกันทำงานและช่วยผมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นเพื่อปรับปรุงสิ่งต่างๆ รู้สึกเป็นของกันและกันและรู้สึกว่าการเล่นให้สโมสรแห่งนี้มีความหมายอย่างไร”