มาห์เรซซัดเบิ้ล!! “แมน ซิตี้” ชุดผสม เปิดบ้านไล่ถล่ม “วีคอมบ์” 6-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก) เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม, เมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีม วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส (ลีกวันอังกฤษ) ในศึกฟุตบอลถ้วย คาราบาว คัพ รอบที่สาม เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 21 กันยายน 2564 ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เควิน เดอะ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์จอมแอสซิสต์ ริยาด มาห์เรซ ตัวทำเกมริมเส้น และ เฟร์ราน ตอร์เรส ศูนย์หน้าดาวรุ่งตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกเร็ธ เอนส์เวิร์ธ มาเล่นในระบบ 3-1-4-2 นำทีมโดย โดมินิค เกป กองกลางห้องเครื่อง เจสัน แม็คคาร์ธี่ ตัวจี๊ดริมเส้น และ แบรนดอน ฮันแลน กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 7

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ริยาด มาห์เรซ ลากบอลจี้ขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจะโยกเปิดไปที่เสาไกลให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้วิ่งสอดมาพุ่งทิ้งตัวชาร์จโล่ง ๆ ระยะ 6 หลา ทว่าช้าไปนิดเดียว บอลวืดหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 13

ทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะ เจสัน แม็คคาร์ธี่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางขวา ก่อนจะตั้งป้อมเปิดบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลให้ อเดบาโย อคินเฟว่า ได้โหม่งตั้งย้อนกลับเข้ามาที่หน้าประตูให้ ซัลเลย์ ไคไค โหม่งเหน่ง ๆ ไปติดเซฟของ แซค สเตฟเฟ่น ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดทิ้งออกไปได้ทัน

นาที 16

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาใหม่อีกระลอก จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ จ่ายยัดเข้าไปในเขตโทษให้  ฟิล โฟเด้น ได้ซัดติดบล็อก ถัดมาเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เก็บแถวสองได้ เจ้าตัวไหลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ซัดอีกทีก็ยังติดบล็อกของแนวรับทีมเยือน ที่ยืนเต็มพื้นที่ไปหมด บอลกระเด้งออกมาต้องเริ่มตั้งเกมกันใหม่

นาที 17

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มขยับเข้าใกล้การได้ประตูมากขึ้นเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลลากจี้ขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวโยกเข้าซ้ายแล้วเปิดเร็วเข้าไปในเขตโทษให้ เฟร์ราน ตอร์เรส สอดมาโขกหน้ากรอบ 6 หลาเน้น ๆ คนเดียว ทว่าบอลดันไปตรงตัวของ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวรับเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 20

ทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะ จอร์แดน โอบิต้า โชว์ความพลิ้ว กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเห็นช่องแล้วซัดเร็ว ยัดมุมแคบไปติดเซฟ แซค สเตฟเฟ่น ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดมาเข้าทาง เจสัน แม็คคาร์ธี่ โชคยังดีที่เจ้าตัวเจ้าไม่ถึงบอล สุดท้ายหลุดออกหลัง ได้เป็นเตะมุม

นาที 22 GOAL!!!

จังหวะต่อเนื่อง ทีมเยือน สีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส สร้างเซอร์ไพรส์ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เปิดโด่งเข้ามาที่กลางประตู แล้วเป็น แซค สเตฟเฟ่น ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ออกมาชกบอลไปเข้าทาง ซัลเลย์ ไคไค ได้ซัดเร็วแฉลบบล็อกไปเข้าทาง ไรอัน ทาฟาซอลลี่ ในกรอบ 6 หลา ได้หมุนตัวตวัดบอลถวายพานให้ แบรนดอน ฮันแลน ได้แปโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย 

นาที 29 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูตามตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ฟิล โฟเด้น ลากแหวกขึ้นมาได้สวย เจ้าตัวแทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้สปีดตามเข้าไปเก็บบอล โยกตัดเข้าในหนึ่งที ก่อนจะซัดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งกระดอนพื้นหนีมือ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกล เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 32

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ฟิล โฟเด้น เลี้ยงจี้ครองบอลดึงจังหวะหาช่องอยู่ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายสั้น ๆ ไหลให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้แต่งเข้าเหลี่ยมแล้วก้มหน้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงโค้งสวยไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งมาชนหลังของ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน คว้าบอลที่หน้าปากประตูเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 37

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สวนกลับขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะนี้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลากจี้กินแดนขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะดึงจังหวะแทงออกซ้ายให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้เอี้ยวตัวปั่นเร็วด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าบอลเบาแถมไปตรงตัวของ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทิ้งตัวเอาขาเซฟเอาไว้ได้ทัน

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 42

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน เควิน เดอะ บรอยน์ จ่ายบอลไปบริเวณมุมกรอบเขตโทษให้ ริยาด มาห์เรซ เจ้าตัวโยกตัดเข้าในหาช่องตามสูตร ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งไปชนเสาไกลเต็ม ๆ กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 43 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนำเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ จอร์จ วิลสัน เอสแบรนด์ พาบอลขึ้นมาเองทางซ้าย ลากจี้เข้าหาตัวประกบเข้าไปในเขตโทษ เจ้าตัวโยกหลอกแล้วกระชากหนีไปสุดเส้นหลัง ก่อนจะล็อคกลับมา แล้วจ่ายถวายพานเข้ากลางให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ โล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือ

นาที 45+1 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ เล่นลูกสูตร จ่ายสั้นย้อนมาที่หน้ากรอบเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น แต่งเข้าซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมวางเท้าตะบันเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งไปติดปลายมือ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยื่นแขนขวางเอาไว้ได้นิดนึง ทว่าด้วยความแรง สุดท้ายปัดไม่พ้น บอลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พลาดท่าโดนทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ยิงนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม หลังจากนั้นก็กลับมาเป็นฝ่ายครองบอล พับสนามบุกอยู่แทบจะฝั่งเดียว ได้ประตูพลิกแซงออกนำไปก่อนแล้วถึง 3-1 !!! 

นาที 47

เปิดฉากครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เร่งเครื่องใส่ทันที จังหวะนี้สวนกลับเร็วขึ้นมา เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลขึ้นมาเอง เจ้าตัวจ่ายออกซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะจ่ายป้ายเปลี่ยนแกนมาทางขวาแทนให้ ริยาด มาห์เรซ ได้ซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 50

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ อีแกน ไรลีย์ เติมเกมสูง ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะครอสไปที่เสาแรกให้  ฟิล โฟเด้น ได้วิ่งสอดมาโขกเหน่ง ๆ ไปตรงตัวของ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมคุมเสาอยู่ เซฟช่วยเอาไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง

นาที 53

ทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ได้ฟรีคิกทางกราบขวา โจ เจค็อบสัน รับหน้าที่ บรรจงเปิดบอลโด่งเข้าไปลุ้นที่กลางประตู แล้วเป็น อเดบาโย อคินเฟว่า ได้เทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลุดเสาไกลออกไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย

นาที 60 

เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พับสนามบุกอยู่ข้างเดียว จังหวะนี้ เควิน เดอ บรอยน์ โชว์ความพลิ้ว กระชากแหวกขึ้นมาเองทางกราบซ้าย เจ้าตัวลากจี้เข้าเขตโทษแล้วโยกเข้าใน ก่อนกดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ล้มตัวรับเข้าซองเอาไว้ได้ไม่พลาด

นาที 67

ทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส เกือบได้ประตูตีตื้น เป็นจังหวะ ลูกทุ่มมาให้ แบรนดอน ฮันแลน ทางกราบขวา เจ้าตัวเลี้ยงลุยเข้าเขตโทษ ก่อนจะครอสเข้ากลางให้ จอร์แดน โอบิต้า ได้ซัดโล่ง ๆ ทว่าเป็น แซค สเตฟเฟ่น ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น พุ่งออกมาปิดมุมได้ไว เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

นาที 71 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-1 !!! เป็นจังหวะ ถ่ายบอลกันไปมาหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือน ฟิล โฟเด้น ขยับมารับบอลจาก เควิน เดอ บรอยน์ ในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดถวายพานไปที่เสาไกลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้วิ่งสอดมาชาร์จด้วยขวาจ่อ ๆ เบียดเสาเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 83 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 5-1 !!! เป็นจังหวะ เควิน เดอ บรอยน์ โชว์ความเหนือชั้น แทงบอลทะลุช่องทำชิ่ง 1-2 เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายคืนให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้หลุดไปตวัดย้อนเข้ากลางจังหวะเดียวให้ ริยาด มาห์เรซ ได้วิ่งมาแปที่จุดนัดพบ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 88 GOAL!!!

เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตู ฃปิดกล่องเป็น 6-1 !!! เป็นจังหวะโต้กลับเร็ว โคล พัลเมอร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา กระชากแหวกขึ้นมาเองจากกลางสนามถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะเอี้ยวตัวปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งผ่านมือ เดวิด สต็อคเดล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านไล่ถล่มทีมเยือน วีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส ไปได้ด้วยสกอร์ 6-1 !!! ทะลุผ่านเข้ารอบต่อไปของฟุตบอล คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ โดยรอบที่ 4 จะมีการจับฉลากประกบคู่กันในคืนวันพุธที่ 22 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้