เอ็มบั๊ปเป้ซัดเบิ้ลใส่ทีมเก่า!! “ปารีส” เปิดบ้านไล่ทุบเอาชนะ “โมนาโก” ไปได้เบาะ ๆ 2-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดสนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต้อนรับการมาเยือนของทีม เอเอส โมนาโก ในศึกฟุตบอล ลีก เอิง ฝรั่งเศส นัดที่ 18 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม ลิโอเนล เมสซี่ เพลย์เมกเกอร์เทพประทาน และ คีลิยัน เอ็มบั๊กเป้ ศูนย์หน้าตัวจี๊ดของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เอเอส โมนาโก ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ นิโก้ โควัช มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย โอเรเลียง ชูอาเมนี่ กองกลางห้องเครื่อง อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ วิสซาม เบน เยแดร์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 2

เริ่มเกมมาแค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน เอเอส โมนาโก ได้ทักทายก่อน แถมเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่การเข้าทำครั้งแรก จากจังหวะที่ โซฟิยาน ดิย็อป แย่งบอลจาก มาร์โก แวร์รัตติ มาได้แล้วลากต่อมาทำชิ่ง 1-2 กับ วิสซาม เบน เยแดร์ หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าซัดเน้น ๆ สวนตัวของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย

นาที 7

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้โอกาสทักทายบ้าง จากจังหวะ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ แทงตามช่องให้ ฆวน เบร์นาต หบุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่กลางประตูให้ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม วิ่งมาซัดด้วยซ้ายโล่ง ๆ แต่ยังไม่เข้าเป้า เจ้าตัวยิงเหินข้ามคานออกไปเอง ไม่ได้ลุ้นอะไร

นาที 12 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ฌิบริล ซิดิเบ้ ไปเสียเหลี่ยมย่ำใส่เท้าของ อังเคล ดิ มาเรีย ล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ค VAR ก่อนที่สุดท้ายจะกลับลงมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทางฝั่งเปแอสเชทันที แล้วเป็น คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด

นาที 23

ทีมเยือน โมนาโก บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ยูสซูฟ โฟฟาน่า แทงบอลทะลุช่องให้ วิสซาม เบน เยแดร์ วิ่งสอดไปแตะหนีแนวรับเจ้าถิ่น ก่อนจะได้ดวลเดี่ยวแต่ซัดไม่ผ่าน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟออกมาที่หน้ากรอบเข้าทาง อูเรเลียง ชูอาเมนี่ ได้หวดซ้ำสวนกลับเข้าไปเน้น ๆ ทว่าบอลก็ยังติดบล็อก กระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 28

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วก็เป็น ลิโอเนล เมสซี่ รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางยังไม่เข้าเป้า ลอยเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล

นาที 39

ทีมเยือน โมนาโก บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะ โซฟิยาน ดิย็อป รับบอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวพาบอลลากตัดเข้ากลางมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจปั่นเองด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปถูกแนวรับเจ้าถิ่น กระโดดบล็อกเอาไว้ได้ทัน สุดท้ายกระดอนหลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน

นาที 44

ทีมเยือน โมนาโก ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เกลสัน มาร์ตินส์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตูให้ อูเรเลียง ชูอาเมนี่ สอดมาแหย่ขาชาร์จด้วยขวาโล่ง ๆ แต่บอลสุดเหยียดเกินไปหน่อย โดนไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่ บอลผิดเหลี่ยมเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง

นาที 45+1 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร ลิโอเนล เมสซี่ ฉกบอลจากความผิดพลาดของคู่แข่ง  ลากพาบอลขึ้นมาเองจากกลางสนามถึงหน้ากรอบ ก่อนจะจ่ายตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายโล่ง ๆ ให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้เอี้ยวตัววางเท้าปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเล่นกันได้อย่างสนุกสูสี เป็นทางทีมเยือน เอเอส โมนาโก ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่จังหวะจบในพื้นที่สุดท้ายยังไม่มีความเฉียบคมพอ ทว่ากลับมาโดนเจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่เกมรุกวูบวาบน่ากลัวกว่าเยอะ ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนถึงสองลูก สกอร์ตอนนี้ เปแอสเช 2 โมนาโก 0 !!!

นาที 47

เริ่มครึ่งหลังมา ทีมเยือน โมนาโก ได้ลุ้นทักทายก่อน จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ลากบอลจากครึ่งสนามมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองอัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ แต่บอลเบาไร้น้ำหนัก พุ่งเลียดไม่ห่างตัวเท่าไหร่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ล้มตัวตะครุบเอาไว้ได้สบาย ไม่มีพลาด

นาที 50

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวตั้งแต่ต้นครึ่งแรก เมื่อ ฆวน เบร์นาต โชคร้ายมีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ จัดการส่ง ธีโล่ เคห์เรอร์ ลงมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค แล้วขยับเอา อับดู ดิยัลโล่ ลงมาเล่นเป็นวิงแบ็คแทน

นาที 65

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น ลิโอเนล เมสซี่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เฉียดสามเหลี่ยมเสาซ้ายมือ หลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 71

เกมดำเนินมาสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะ ลิโอเนล เมสซี่ เล่นชิ่ง 1-2 เร็วกับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ หลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่สตาร์ฟ้าขาว จะก้มหน้าซัดเล่นทางเน้น ๆ สวนตัว อเล็กซานเดอร์ นูเบล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ส่งบอลไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 76

ทีมเยือน เอเอส โมนาโก ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น กีเยร์โม่ มาริปาน ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ตามน้ำ ส่งบอลดันไปตรงตัวของ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 80

เจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หวิดได้บวกสกอร์เพิ่มอีกครั้ง จากจังหวะ ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ความพลิ้วป่วนแนวรับคู่แข่งอย่าง กีเยร์โม่ มาริปาน จนเสียคน ได้ลากบอลหลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่อดีตดาวเตะบาร์ซ่าจะบรรจงชิพบอลหนี อเล็กซานเดอร์ นูเบล ผู้รักษาประตูทีมเยือน โค้งผ่านหน้าปากประตู ลอยเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 90+1

ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน โมนาโก ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ลากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าปั่นเองด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 90+2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน โมนาโก ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ได้วางเท้าตะบันไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษอีกหน คราวนี้บอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ทิศทางไม่หนีตัวเท่าไหร่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาพุ่งไปคว้าเอาไว้ได้ทันติดมือ 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน เอเอส โมนาโก ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! นำโด่งเป็นจ่าฝูงของตารางต่อไปเหมือนเดิม ทิ้งห่างอันดับ 2 ไปแล้ว 13 แต้ม โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนลอริยองต์ ในคืนวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านโมนาโก รั้งอันดับที่ 8 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับแรนส์ ในวันเวลาเดียวกัน