ช็อคโลก!! “มาซิโดเนียเหนือ” เขี่ยแชมป์ยุโรป “อิตาลี” ตกรอบฟุตบอลโลก!!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพมักกะโรนี อิตาลี่ เปิดสนาม สตาดิโอ เรนโซ่ บาร์เบร่า, เมืองปาแลร์โม่ ประเทศอิตาลี่ ต้อนรับการมาเยือนของทัพแมวป่า มาซิโดเนียเหนือ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 โซนยุโรป รอบเพลย์ออฟ รอบรองชนะเลิศ เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น อิตาลี่ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์จินโญ่ กองกลางห้องเครื่อง ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ กองหน้ากึ่งปีกตัวจี๊ด และ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ศูนย์หน้าตัวโป้งปิดบัญชีของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน มาซิโดเนียเหนือ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ บลาโกย่า มิเลฟสกี้ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย เอนิส บาร์ดี้ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม ดาร์โก้ ชูร์ลินอฟ ปีกตัวจี๊ด และ อเล็กซานดาร์ ตราจ์คอฟสกี้ กองหน้าตัวความหวังของทีม

นาที 3

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพมักกะโรนี อิตาลี่ ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ทำชิ่งกันขึ้นมาทางกราบซ้ายได้สวยจบที่ เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ สบโอกาสได้ปั่นด้วยขวาหน้าเขตโทษเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน ลอยหลุดกรอบออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้น

นาที 6

เจ้าถิ่น อิตาลี่ บุกขึ้นมาได้จบต่อเนื่อง จังหวะนี้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ หลุดขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวา เจ้าตัวตวัดมาที่หน้าเขตโทษฝั่งขวาให้กับ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ได้จับบอลให้ลอยขึ้นหนึ่งที ก่อนจะกลับตัววางเท้าฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปถูก วิซาร์ มุสลิอู กระโจนมาบล็อกเอาไว้ได้ทันเวลาเฉียดฉิว

นาที 15

ช่วงต้นเกม เจ้าถิ่น อิตาลี่ เปิดฉากบุกแหลกอยู่แทบจะฝั่งเดียว จังหวะนี้ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าประตูให้ อเลสซานโดร บาสโตนี่ กำลังจะได้โขกเหน่ง ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารทีมเยือน อ่านเกมขาด ออกมาตัดบอลได้ไว ชกทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 25

เกมดำเนินมาเกินครึ่งทางของครึ่งแรก เจ้าถิ่น อิตาลี่ ครองบอลบุกอยู่แทบจะฝั่งเดียวแต่ยังเจาะแนวรับทีมเยือนไม่เข้า จังหวะนี้ มาร์โก แวร์รัตติ ลากตัดจากกราบซ้ายมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองก้มหน้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงเหินข้ามคาน ลอยโด่งหลุดออกหลังไปไกล

นาที 28

เจ้าถิ่น อิตาลี่ บุกขึ้นมาได้จบอีกระลอก จังหวะนี้ นิโกโล่ บาเรลล่า สบโอกาสขอลองส่องไกลด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นแต่ติดไซด์โป้ง สุดท้ายปลิ้นหลุดเสาซ้ายมือออกหลังไป ยังไม่ได้ลุ้นเหมือนเดิม

นาที 29

เจ้าถิ่น อิตาลี่ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะที่ สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารทีมเยือน โดนบีบแล้วออกบอลพลาดไปเข้าทางปืนของ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ได้บรรจงแปเร็วด้วยซ้ายโล่ง ๆ หน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ส่งบอลกลิ้งเบาไร้น้ำหนัก แล้วเป็น สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ ตามมาแก้ตัว ล้มตัวรับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดาย

นาที 30

เจ้าถิ่น อิตาลี่ โหมบุกหนักแต่ไม่ได้ประตูขึ้นนำสักที จังหวะนี้ มาร์โก แวร์รัตติ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ชิโร่ อิมโมบิเล่ วิ่งสอดไปล้มตัวยิงด้วยซ้ายเน้น ๆ หน้าเสาแรกซ้ายมือ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลเหินเฉียดคาน พุ่งหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 36

เจ้าถิ่น อิตาลี่ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้พลิกบอลลากตัดเข้ากลางมาเข้าเหลี่ยมเท้าขวา เจ้าตัวบรรจงปั่นเน้น ๆ นอกกรอบช้าไปหน่อย ก่อนจะเป็น อาริยาน อเดมี่ พุ่งตามมาสไลด์บล็อกเต็ม ๆ ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว เสียเป็นเตะมุม

นาที 37

ช็อตต่อเนื่อง เจ้าถิ่น อิตาลี่ น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าประตู แล้วเป็น มาร์โก แวร์รัตติ โฉบมาชาร์จติดบล็อก กระเด้งมาเข้าทางปืนของ ชิโร่ อิมโมบิเล่ ได้ซ้ำด้วยขวาเน้น ๆ บริเวณจุดโทษ ส่งบอลพุ่งเฉียดเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ผู้เล่นอัซซูรี่จะฟ้องว่าเป็นแฮนด์บอลขอจุดโทษ ทว่าผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แถมปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป

นาที 45

ก่อนหมดครึ่งแรก ทีมเยือน มาซิโดเนียเหนือ ได้ลุ้นเล็ก ๆ ส่งท้าย จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เอนิส บาร์ดี้ พลิ้วบอลหลบแข้งเจ้าถิ่นแล้วแทงต่อให้ เล็กซานดาร์ ตราจ์คอฟสกี้ กระชากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจวางเท้าซัดไกลด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเลียดทิศทางไม่หนีมือเท่าไหร่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารเจ้าถิ่น พุ่งไปคว้าเอาไว้ได้สบาย

หมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น ทัพมักกะโรนี ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 66 เปอร์เซ็นต์ เป็นฝ่ายขึงเกมรุกพับสนามบุกใส่ทีมเยือน ทัพแมวป่า อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่ยังยิงประตูขึ้นนำไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ อิตาลี่ 0 มาซิโดเนียเหนือ 0 !!!

นาที 53

เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าถิ่น อิตาลี่ ได้ทักทายแบบจะแจ้งก่อน จากจังหวะ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ เลี้ยงจี้หาช่อง ก่อนจะตัดสินใจส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแต่ทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารทีมเยือน ยังไม่ยอมง่าย ๆ พุ่งไปคว้าเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 54

เจ้าถิ่น อิตาลี่ บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ เจ้าเก่า ลากตัดจากขวาเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารทีมเยือน เลี้ยวเฉียดเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียว ชนิดได้เสียวสุด ๆ

นาที 58

เจ้าถิ่น อิตาลี่ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำอีกแล้ว เป็นจังหวะ มาร์โก แวร์รัตติ แทงบอลยัดเข้าไปที่กลางประตูให้ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ ใช้ตัวบังบอล ชิงเหลี่ยมพลิกบอลกลับตัวหนีตัวประกบอย่างสวย ก่อนจะได้วางเท้าซัดด้วยขวาเน้น ๆ ระยะไม่กี่หลา ส่งบอลพุ่งไปเช็ดคาน ลอยหลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 63

เจ้าถิ่น อิตาลี่ เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มาร์โก แวร์รัตติ บรรจงตักบอลโด่งแนวลึกข้ามแนวรับให้กับ โดเมนิโก้ เบราร์ดี้ วิ่งโฉบตามช่องไปพักอกเอาบอลลงที่หน้าเสาแรกซ้ายมือ ก่อนจะตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ แต่โดนตัวประกบยื่นขามาบล็อกออกหลังเอาไว้ได้ทันเวลาเฉียดฉิว บอลลอยเฉียดเสาซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 64

โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือผมยาวของเจ้าถิ่น อิตาลี่ เริ่มนั่งไม่ติด ปรับหมากแก้เกมด้วยการถอด ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ ที่วันนี้โชว์ฟอร์มเก่งไม่ออก เปลี่ยนไปพักก่อนจะจัดการส่ง จานลูก้า ราสปาโดรี่ ลงสนามมายืนตำแหน่งในแนวรุกแทน

นาที 67

เจ้าถิ่น ทัพอัซซูรี่ อิตาลี่ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จังหวะนี้ จานลูก้า ราสปาโดรี่ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อเลสซานโดร บาสโตนี่ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลลอยย้อยเดินทางช้าแถมทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารทีมเยือน พุ่งคว้าเอาไว้ได้สบาย

นาที 72

เจ้าถิ่น อิตาลี่ ได้บุกหนักอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ นิโกโล่ บาเรลล่า ทำชิ่งกับเพื่อนหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเลียดมาที่หน้าเสาแรกให้ อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ สอดมาซัดเน้น ๆ ด้วยขวาจังหวะเดียว ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน

นาที 78

เจ้าถิ่น อิตาลี่ เกือบได้เฮ เป็นจังหวะ บอลโยนยาวมาที่หัวกระโหลกให้ เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ แตะบอลสั้น ๆ ตั้งให้ จานลูก้า ราสปาโดรี่ ได้ตั้งป้อมบรรจงฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงทำท่าจะเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ นายทวารทีมเยือน ปฏิกิริยายังไง ผวาปัดข้ามคานเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด ยอมเสียเป็นเตะมุม

นาที 85

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น อิตาลี่ พับสนามบุกอย่างหนัก จังหวะนี้ เอแมร์ซอน ปัลมิเอรี่ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ลอเรนโซ่ เปเลกรีนี่ วิ่งสอดหลุดไปซัดจ่อ ๆ ที่หน้าเสาแรก ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบ ผ่านหน้าปากประตู แต่สุดท้ายโดนแนวรับทีมเยือนหวดเคลียร์สกัดออกมาได้ทัน ทำได้แค่หวาดเสียว

นาที 90+2 GOAL!!!

ทำไปทำมา เป็นทีมเยือน มาซิโดเนียเหนือ ที่สร้างเซอร์ไพรส์ ได้ประตูขึ้นนำซะอย่างงั้นเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ที่เหมือนจะไม่มีอะไร อเล็กซานดาร์ ตราจ์คอฟสกี้ ลากขึ้นมายิงลูกผีจับยัด ตัดสินใจส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ หน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา ส่งบอลพุ่งแรงผ่านบล็อกหนีมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม ไม่เหลือซาก

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน มาซิโดเนียเหนือ บุกมาหักปากกาเซียน สร้างเซอร์ไพรส์เฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น อิตาลี่ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! ทัพแมวป่าหลุดทะลุเข้าไปชิงตั๋วเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลก โดยจะต้องออกไปเยือน โปรตุเกส ในคืนวันอังคารที่ 29 มีนาคม 2565 ที่จะถึงนี้